ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “ปฏิบัติการแหวกพุงเพื่อน”  (อ่าน 1186 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
“ปฏิบัติการแหวกพุงเพื่อน”
« เมื่อ: มกราคม 07, 2017, 11:10:34 am »
0


“ปฏิบัติการแหวกพุงเพื่อน” นิทานพุทธปรัชญา สนุกๆ จาก ท่านว.วชิรเมธี

อาตมภาพได้อ่าน นิทานพุทธปรัชญา เรื่องหนึ่งดีมาก อยากจะนำมาเล่าฝากพวกเราทุกคนซึ่งอยู่ในโลกยุคไอที นิทานพุทธปรัชญาเรื่องนี้มีอยู่ว่า…

ในป่าหิมพานต์มีลิงฝูงหนึ่งอยู่กันร้อยกว่าตัว ทุกๆวันลิงฝูงนี้จะป่ายปีนอยู่บนยอดไม้ วันหนึ่งขณะที่กำลังป่ายปีนอยู่บนยอดไม้อย่างสนุกสนานบันเทิง จู่ๆลิงตัวหนึ่งก็โหนกิ่งไม้พลาด ตกปุ๊กลงมาที่พื้น

ก่อนจะร่วงถึงพื้น กิ่งไม้เกิดเกี่ยวเข้าที่พุงของลิงตัวนั้นเลือดสาด มันตกลงมาก็ร้องโอดโอยอยู่ข้างล่าง หัวหน้าลิงหรือลิงจ่าฝูงตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกน้องจึงปีนป่ายตามลงมา พอเห็นเลือดแดงฉานพุ่งออกจากท้องของลูกน้องมันก็ตกใจ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน และด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันจึงเอามือไปแหวกแผลที่พุงลูกน้องดู เจ้าลิงตัวนั้นตกใจร้องจ๊ากขึ้นด้วยความเจ็บปวด เพื่อนๆลิงตัวอื่นจึงแห่ตามกันมาเป็นลิงมุง

ทุกตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน ลิงทุกตัวที่มาล้อมวงต่างก็แหวกพุงลิงที่บาดเจ็บดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นทุกตัวต่างก็แหวกๆ จากแผลนิดเดียวในตอนแรก แผลก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น จนกระทั่งถึงลิงตัวสุดท้ายแผลก็กว้างจนดึงไส้ไหลออกมาด้วย เจ้าจ๋อเคราะห์ร้ายตัวนั้นร้องโอดโอย ในที่สุดก็จากโลกนี้ไปด้วยความทุกข์ทรมาน

 ask1 ans1 ask1 ans1

คติของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน เราลองช่วยกันคิด

คติของเรื่องนี้…ก็เหมือนมีใครสักคนหนึ่งส่งรูปบุคคลสาธารณะมาให้เราดูทางฟอร์เวิร์ดเมล ทางเฟซบุ๊กและโดยที่เราก็ไม่รู้เหนือไม่รู้ใต้ พอเห็นรูปปั๊บเราก็ร่วมผสมโรงเลย นี่เขาเรียกว่า “แหวกพุงเพื่อน”

ปฏิบัติการแหวกพุงเพื่อนโดยที่ตัวเองไม่มีความรู้ ไม่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อะไรทั้งสิ้นความรู้ไม่มีแต่ฉันมีความเห็น จากนั้นก็แหวกพุงเพื่อนด้วยการวิจารณ์รูปภาพ วิจารณ์ข้อความต่างๆ จนในที่สุดพอมาถึงคนสุดท้าย คือคนที่ล้าน เรื่องเล็กๆก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่เหลือเค้าความเดิมให้เห็นอีกเลย

นี่คือปฏิบัติการแหวกพุงเพื่อน ปฏิบัติการแหวกพุงบุคคลสาธารณะ ปฏิบัติการแหวกพุงเพื่อนมนุษย์ ทั้งๆที่เราไม่อยู่ในฐานะที่จะไปแหวกพุงใครได้ เรื่องนี้ถ้าลิงจ่าฝูงโทรศัพท์ไปหาหมอ ส่งไลน์ไปก็ได้ เรียกหมอมารักษาลูกน้อง แผลนิดเดียวก็คงจะหาย จริงไหม

เรื่องบางเรื่องต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ แต่ในกรณีนี้ไม่ยอมใช้บริการผู้เชี่ยวชาญ แต่ใช้บริการพวกอยากรู้อยากเห็น  หนำซ้ำก็ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ ไม่ใช่ผู้สันทัดกรณีแค่มีความอยากรู้อยากเห็น ก็เลยช่วยกันแหวกแผลให้กว้างขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีบุคคลสาธารณะเท่าไหร่แล้ว มีคนเล็กคนน้อยเท่าไหร่แล้วที่เจ็บช้ำน้ำใจเพราะใครบางคนปฏิบัติการแหวกพุงคนเหล่านั้นโดยที่เขาไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว

 :96: :96: :96: :96:

อาตมภาพเองเป็นพระก็ยังถูกแหวกจีวรอยู่เสมอ เร็วๆนี้มีสื่อมวลชนท่านหนึ่งโทรศัพท์มาถาม
    “พระอาจารย์ครับ นี่เขาวิจารณ์พระอาจารย์ยกใหญ่เลยนะ”
    “เรื่องอะไรลูก”
    “ก็เขาวิจารณ์พระอาจารย์เป็นพระแต่ไปไหว้โยม”
    “มันยังไงลูก ส่งรูปมาให้ดูสิ”

ปรากฏว่า เป็นรูปของลูกศิษย์คนหนึ่งเขาซื้อหนังสือแล้วก็ถวายอาตมภาพที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาตมารับแล้วก็ให้พรเขา ยืนประนมมือให้พรธรรมดานี่เอง แต่มีคนถ่ายรูปแล้วโพสต์ในเฟซบุ๊กเขียนว่า “ท่าน ว.ทั้งๆที่เป็นพระ แต่ก็ไหว้โยม”

 :32: :32: :32: :32:

อาตมาไม่รู้จะว่ายังไง ก็เลยตอบไปว่า “คุณโยม ใครเป็นคนโพสต์รูปนี้เป็นคนแรกช่วยไปซื้อกึ๋นไก่ให้เขากินหน่อย จะได้มีกึ๋นหรือไม่ งั้นตอนกลางคืนก็ช่วยบอกให้เขาเดินออกไปกลางแจ้ง แล้วชวนเขามองบนฟ้า”

    “มองทำไมครับพระอาจารย์”
    “ชวนเขามองดาวทุกคืน ตาจะได้มีแวว”

เอาแววดาวมาแปะที่แววตา ตาจะได้มีแวว อันนี้อาตมาพูดขำๆนะ ไม่ได้พูดด้วยความโกรธ เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ ๆ แต่พอเราไม่มีความรู้ในสิ่งที่กำลังแสดงความเห็นก็ชักชวนคนอื่นซึ่งไม่รู้เหมือนกันไปด่าอีกด่าไปด่ามา ด่ามาด่าไป แต่ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญมาชี้ว่า นั่นไม่ใช่เรื่องที่เป็นความผิดพลาดอะไรใดๆทั้งสิ้น เป็นธรรมดาของพระ เมื่อให้พรโยมก็ต้องพนมมือเป็นธรรมเนียมพระ

ตัวเองกระโดดลงทะเลแล้ว ขาสั้นยังไม่ถึงพื้นทะเล แต่ไม่โทษว่าขาตัวเองสั้นดันไปโทษว่าทะเลมันลึก คนอย่างนี้ก็มีในโลกนะ คือไม่มีความรู้แต่ชอบแสดงความเห็น บางครั้งตั้งใจจะแสดงความเห็นเพื่อแสดงว่าตัวเองเป็นผู้รู้ แต่เพราะตัวเองไม่มีความรู้จริง ยิ่งแสดงความเห็นจึงยิ่งประจานว่าตัวเองไม่รู้อะไร กลายเป็นการประจานตัวเองในโลกอินเทอร์เน็ตในโลกของสื่อออนไลน์ สื่อสังคมไป

 st12 st12 st12 st12

คนไทยสมัยนี้ถ้าใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คโดยไม่มีวิจารณญาณ วิพากษ์วิจารณ์โดยขาดความรู้ ขาดความรับผิดชอบ คนเหล่านี้ไม่ต่างกับคนมือบอนที่ชอบเขียนอะไรเลอะเทอะในผนังห้องน้ำ เพียงแต่ผนังห้องน้ำแปรสภาพ คือไม่ได้อยู่ในห้องน้ำแต่มาอยู่ในโลกออนไลน์แทน

อยากจะฝากพวกเราทุกคนไว้ว่าทุกครั้งที่จะบริโภคสื่อ บริโภคข่าวสารบริโภคข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ คิดให้ดีๆ ใช้วิจารณญาณให้เยอะๆ ถือหลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เรียกกันว่า “กาลามสูตร” ไว้เป็นดีที่สุด 



ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.goodlifeupdate.com/5379/healthy-mind/itidhamma/
http://www.goodlifeupdate.com/5379/healthy-mind/itidhamma/2/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ