ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวพุทธเมืองกุสินารา ธรรมยาตราเพื่อสันติภาพโลก ในวันมาฆบูชาที่อินเดีย  (อ่าน 983 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29305
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ชาวพุทธเมืองกุสินารา ธรรมยาตราเพื่อสันติภาพโลก ในวันมาฆบูชาที่อินเดีย

ชาวพุทธเมืองกุสินาราพร้อมใจ จัดงานวันมาฆบูชาประจำปี 2560 ระหว่าง 9-10 ก.พ.โดยจัดขบวนธรรมยาตราเพื่อสันติภาพโลก มีพระสงฆ์นานาชาติและญาติโยมกว่า 500 คน เดินเท้าจากหมู่บ้านเซียริยาไปยังสาลวโนทยาน สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า...

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2560 นายเด่นชัย เด่นชัยประดิษฐ์ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ รายงานมาจากประเทศอินเดีย อ้างการเปิดเผยของ พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ ว่า ที่เมืองกุสินารา สถานที่ปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวพุทธเมืองกุสินารา ได้พร้อมใจสมานฉันท์ บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) จับมือกันจัดงานวันมาฆบูชา ประจำปี 2560 ขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 ก.พ. โดยได้จัดขบวนธรรมยาตราเพื่อสันติภาพโลก เป็นวันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนา ทั้งขบวนช้าง ม้า พระสงฆ์นานาชาติ ชาวบ้าน และนักเรียน กว่า 500 คน เดินเท้าจากหมู่บ้านเซียริยาไปยังสาลวโนทยาน สถานที่ปรินิพพานของพระสัมมาสมัพุทธเจ้า

ตลอดระยะทาง 8 กม.ต่างเห็นน้ำจิตน้ำใจ ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งเดี่ยวกัน ของชาวพุทธทั้งผู้ใหญ่ และเด็กๆ ที่มาร่วมในขบวนแห่ในวันนี้ ทั้งขนม น้ำ พวงมาลัยดอกไม้ มาต้อนรับตลอดเส้นทาง โดยมีพระมหินเดอร์ รัฐมนตรีว่าการพระพุทธศาสนา รัฐอุตตรประเทศ พร้อมด้วยพระสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ และพระสงฆ์นานาชาติมาเดินเป็นกำลังใจให้ชาวพุทธในวันนี้




ทั้งนี้ ในวันที่ 10 ก.พ. ซึ่งเป็นมาฆบูชา (ตรงกับประเทศอินเดีย) ที่หมู่บ้านเซียริยาจะมีพิธีอันสำคัญยิ่งของชาวพุทธ ในพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ การประกาศตนให้ปรากฏว่า เป็นผู้ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า หรือพระพุทธศาสนาประจำชีวิตของตน ฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์นานาชาติ และร่วมเวียนเทียนรอบมหาปรินิพพานสถูป สถานที่ปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สำหรับวันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง และได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง

ความหมายและประวัติของวันมาฆบูชา คำว่า "มาฆะ" นั้น เป็นชื่อของเดือน 3 ย่อมาจากคำว่า "มาฆบุรณมี" หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3



การกำหนดวันมาฆบูชาตามปฏิทินจันทรคติของไทยนั้น จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 แต่ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 และมักตรงกับเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม

ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่างๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"



ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่
1. วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
2. มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
3. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6
4. พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" และเพราะเกิดเหตุ อัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้เกิดวันมาฆบูชาขึ้น


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/855774
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ