ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: โศกนาฏกรรมพระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ)  (อ่าน 1648 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
โศกนาฏกรรมพระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ)
« เมื่อ: มีนาคม 14, 2017, 09:48:19 am »
0


พระพิมลธรรม (อาจ) ในชุดห่มขาว


โศกนาฏกรรมพระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ)

เรื่องร้ายแรงอันน่าละอายนี้ เกิดขึ้นเดือนสิงหาคม 2503  สังฆนายกและสังฆมนตรี รับทราบคำร้องเรียนจากการประชุมร่วมกับตำรวจสันติบาลว่า มี 2 ผู้เสียหาย ได้กล่าวหาว่า พระพิมลธรรม(อาจ) เสพเมถุนธรรมทางเวจมรรค (ร่วมเพศทางทวารหนัก) กับพวกตนจนสำเร็จความใคร่ การกล่าวหาเช่นนี้ ตามกระบวนการยุติธรรมของสงฆ์ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2484 แล้ว จะต้องมอบเรื่องให้คณะวินัยธร ที่ถืออำนาจอธิปไตยทางตุลาการ

แต่ที่น่าตกใจก็คือ สังฆนายก สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(จวน อุฏฐายี) กลับด่วนวินิจฉัยเองด้วยการเขียนหนังสือสั้นๆ เสนอสมเด็จพระสังฆราช(ปลด กิตฺติโสภโณ) กระนั้นสมเด็จพระสังฆราช ก็รับลูกต่อทันควันด้วยการออกหนังสือไปยังพระพิมลธรรม(อาจ) มีข้อความที่น่าสนใจว่า

    "ด้วยทางการตำรวจได้ทำการสอบสวนเรื่องความประพฤติของท่านได้ความประจักษ์ แล้ว...ขอให้ท่านพิจารณาตนด้วยตน ขอให้ท่าน ออกเสียจากสมณเพศ และหลบหายตัวไปเสีย จะเป็นการดีกว่าที่จะปรากฏโดยประการอื่นๆ เพื่อรักษาตัวท่านเอง และเพื่อเห็นแก่วัดและพระศาสนา"

    พระพิมลธรรม(อาจ) ก็ตอบจดหมายกลับไป โดยมีใจความว่า
    "ข้อเสนอที่ให้หนีไปนั้นไม่เป็นผลดีต่อวัดมหาธาตุ และศาสนาโดยรวม และโดยส่วนตัวก็ไม่เป็นธรรม"

หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 22 กันยายน 2503 พระพิมลธรรม(อาจ) เองก็ไม่ได้ถูกโดดเดี่ยวจากการปรักปรำ อีกสองวันต่อมา ปรากฏคณะสงฆ์วัดมหาธาตุจำนวน 465 รูปได้ทำหนังสือ และลงนามยืนยันความบริสุทธิ์


ลายมือของพระพิมลธรรม (อาจ) อ่านได้ว่า “ถึงแม้ว่าจะมีผู้มีใจโหดร้ายทารุณแย่งชิง ผ้ากาสาวพัตรของกระผมไป กระผมก็จะนุ่งห่ม ผ้ากาสาวพัสตรชุดอื่นแทน ซึ่งกระผมมีสิทธิตาม พระธรรมวินัยและกฎหมาย จึงขอให้ท่านเจ้าคุณ ผู้รู้เห็นอยู่ ณ ที่นี้ โปรดทราบและเป็นสักขีพยาน ให้แก่กระผมตามคำปฏิญาณนี้ด้วย - อาสภเถร!”


อย่างไรก็ตามทางเบื้องบนก็มีจดหมายให้ชี้แจง และแม้พระพิมลธรรม (อาจ) จะชี้แจงกลับไป ก็ดูราวกับว่าไม่มีผลใดๆ ซ้ำยังเดินหน้าตัดสินโดยข้ามกระบวนการที่ชอบธรรมโดยการประกาศถอดสมณศักดิ์ ในเดือนพฤศจิกายน 2503 ไม่เฉพาะกับพระพิมลธรรม (อาจ) เท่านั้น แต่พระศาสนโสภณ (ปลอด อตฺถการี) วัดราชาธิวาส ที่สนับสนุนพระพิมลธรรม (อาจ) ด้วยข้อหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช

โดยออกมาในนามของประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลายเซ็น สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2503 การโค่นล้มพระพิมลธรรมจึงได้ดึงเอาอำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวพันเพื่อทำลายศัตรูของตนอย่างสิ้นคิด ต่อมาสามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความเท็จ

แม้จะถูกถอดสมณศักดิ์ พระพิมลธรรม (รองสมเด็จพระราชาคณะ) กลายเป็นพระอาสภเถระ (พระธรรมดา) ก็ยังตั้งมั่นเพราะเชื่อในความบริสุทธิ์ของตน


ป.พิบูลสงคราม และพระพิมลธรรม (อาจ)


แม้กระนั้นยังโดนการเมืองภายในคณะสงฆ์ใช้อำนาจรัฐมาบีบบังคับให้สึกด้วยข้อหาคอมมิวนิสต์ โดยเข้าจับกุม ณ วัดมหาธาตุ ในวันที่ 20 เมษายน 2505 พระอาสภเถร ไม่แสดงอาการขัดขืน แต่ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเขียนบันทึกสั่งการงานที่คั่งค้างอยู่อย่างองอาจ ก่อนจะถูกนำตัวไปสันติบาล

    เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่พบว่า ระหว่างจับกุมกรมตำรวจ ได้นำแถลงการณ์ส่งไปออกทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย อ้างความจำเป็นในการจับกุมคราวนี้ว่า
    "ถ้าปล่อยไว้ ก็จะเป็นภยันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ จึงจำเป็นต้องจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยการจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป"

ในที่สุดก็พระอาสภเถระก็ถูกกระชากผ้ากาสาวพัสตร์ออกไปโดยคำสั่งของสังฆมนตรี โดยผู้ลงมือคือ พระธรรมคุณาภรณ์ (ฟื้น ชุตินฺธโร) วัดสามพระยา และพระธรรมมหาวีรานุวัตร (ไสว ฐิตวีโร) วัดไตรมิตร ทำให้ต้องเปลี่ยนไปครองผ้ากาสาวพัสตร์สีขาวแทน

การสึกจบลงด้วยการที่อดีตพระอาสภเถระเดินทางไปจำพรรษาในฐานะอาคันตุกะ ณ สันติปาลาราม ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2505 ถูกทำให้หายไปจากวงการสงฆ์อีกสิบกว่าปี

สุดท้ายแล้ว ศาลทหารสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัดสินยกฟ้องทั้งหมดเมื่อ พ.ศ. 2509 และคืนสมณศักดิ์ให้แก่ทั้งสองท่าน


_______________________________________________
ที่มา : http://www.prachatai.com/journal/2011/12/38242

ภาพซ้าย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) (2432-2505)
ภาพขวา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (จวน อุฏฐายี) สังฆนายก (2440-2514)


    - พระพิมลธรรม สุดท้ายได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์สูงสุดเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์
    - สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (จวน อุฏฐายี) ต่อมาได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 16 ทรงดำรงตำแหน่งอยู่ 7 พรรษา และสิ้นพระชนม์ โดยรถยนต์พระประเทียบที่ประทับ ระหว่างขึ้นสะพานแถวๆถนนบางนา-ตราด ถูกรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลขับสวนทางมา พุ่งเข้าชนจนตกถนน เป็นเหตุให้สิ้นพระชนม์โดยทันทีโดยเณรที่นั่งมาด้วยไม่มีใครเป็นอะไร ณ วันที่ 18 ธันวาคม เวลา 10.05 น.
    - พระธรรมคุณาภรณ์ (ฟื้น ชุตินฺธโร) วัดสามพระยา มีโยมอุปัฏฐากคือ ขุนโสภิตบรรณลักษณ์ พ่อจอมพล ป.พิบูลสงคราม (มือขวาของจอมพลสฤษดิ์) เลยให้จอมพล ป. ไปเรียนจอมพลสฤษดิ์ว่า พระพิมลธรรมเป็นคอมมิวนิสต์
    - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เคยพูดกับคนใกล้ชิดเมื่อตอนป่วยหนักว่า "ไม่นึกเลยว่าพระผู้ใหญ่จะใช้เล่ห์อุบายขนาดนี้ ให้หายเสียก่อนจะให้ความเป็นธรรมไปขอกราบขมาโทษ"
    - นายวีรยุทธ xxx ผู้เสียหาย ได้เคยกล่าวหาว่า พระพิมลธรรม (อาจ) เสพเมถุน ได้ขึ้นศาลสารภาพผิดต่อศาลว่าเป็นคนใส่ร้าย หลังจากออกจากศาลได้ไม่ถึง 6 เดือนโดนคนแทงตาย
    - มีพระรูปนึงอยู่วัดราชาธิวาส ที่ได้ร่วมกันใส่ร้ายพระพิมลธรรม และพระศาสนโสภณ ทีหลังได้สึกออกไปกลายเป็นคนเสียสติ


________________________________________________________
ที่มา : http://www.naddalim.com/forum/viewtopic.php?f=17&t=2362







ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://clearmai.blogspot.com/2016/05/blog-post_93.html
https://prachatai.com/journal/2011/12/38242
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ