ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “มด” ตัวนิด แต่ชีวิตไม่น้อย  (อ่าน 1031 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
“มด” ตัวนิด แต่ชีวิตไม่น้อย
« เมื่อ: มีนาคม 17, 2017, 09:16:17 am »
0



“มด” ตัวนิด แต่ชีวิตไม่น้อย

ถึงแม้ มด จะเป็นเพียงชีวิตเล็กๆ ชีวิตหนึ่ง แต่หากมองในมุมกว้างแล้ว มนุษย์ก็เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ บนโลกใบนี้เช่นกัน

ถ้าย้อนระลึกถึงยุคที่ยังไม่มีใครรู้ว่าอะไรคืออินเทอร์เน็ต แบล็คเบอร์รี่ ไอแพด เพลย์สเตชั่น ฯลฯ หลายคนคงนึกภาพการเล่นสนุกแบบเด็กๆ ที่ยังอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติมากกว่าที่จะเกาะติดกับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี ฉันและพวกพี่ๆ ก็เช่นกัน

เรามักใช้เวลาว่างเล่นสนุกกับสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะต้นไม้ ใบหญ้าและสรรพสัตว์น้อยใหญ่ เราก็เอามาเล่นสนุกได้หมดอย่างไม่รู้เบื่อ พวกพี่ๆ มักนำทีมหากิจกรรมแปลกใหม่ ส่วนน้องเล็กอย่างฉันก็คอยติดสอยห้อยตามเป็นผู้ชมไปแทบทุกที่

แต่ความเยาว์วัยมักมาพร้อมกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การเล่นสนุกของพวกเราจึงไม่ได้มีแค่มุมแง่งามของธรรมชาติ แต่ยังมีอีกมุมที่ทำร้ายธรรมชาติโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือ “มดแดง” ที่มักตกเป็นเหยื่อให้พวกพี่ๆ จับมาเป็นของเล่นเสมอ…ในรูปแบบต่างๆ กัน!

 :32: :32: :32: :32:

พี่เจ มีเกมที่เรียกว่า “มดไฟ” เมื่อไรที่เห็นมดเดินมาเป็นขบวน พี่เจจะเอาธูปจุดไฟแล้วจี้ก้นมดจนไหม้ขาดหายไปครึ่งตัว ในความคิดเด็กๆ ของพี่เจรู้สึกว่าได้เป็นฮีโร่ เพราะมดแดงเป็นมดที่ชอบกัดคน กัดกินข้าวของให้เสียหาย แถมยังไล่ยากไล่เย็นอีกด้วย ยิ่งกำจัดมดร้ายไปได้มากแค่ไหน พี่เจก็ยิ่งสนุกกับความรู้สึกที่ได้เป็นฮีโร่มากเท่านั้น

อีกคนคือ พี่กุล ที่โปรดปรานเกม “ทรายดูด”เวลาที่ฝนตกเสร็จใหม่ๆมีน้ำชุ่มเจิ่งนองไปทั่ว พี่กุลจะจับมดแดงไปหย่อนใส่ทรายที่เจิ่งนองด้วยน้ำ เพียงวับเดียวทรายก็จะดูดมดหายวับไปกับตาดูเป็นที่น่าอัศจรรย์ พี่กุลรู้สึกเหมือนได้ค้นพบการทดลองทางวิทยาศาสตร์ชิ้นใหม่ แต่ทว่าน่าเสียดายที่ค้นพบกฎแห่งกรรมช้าเกินไป จึงมีมดเป็นร้อยๆ ตัวที่ต้องสังเวยชีวิตไปกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพี่ทั้งสอง

 :96: :96: :96: :96:

เมื่อวันวานผันเปลี่ยน เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นการเล่นแบบเดิมก็ถูกแทนที่ด้วยวิดีโอเกมที่ดูใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่า ความทรงจำวัยเยาว์เริ่มถูกทิ้งไว้ตามรายทางและถูกวันเวลาชะล้างไปทีละน้อยๆ ยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบภาระใหญ่ขึ้นเป็นเงาตามตัว เรื่องของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เรียกว่า “มด” ก็พลอยสูญไปจากความทรงจำของพวกเราในที่สุด…แต่ “กฎแห่งกรรม” นั้นไม่สูญสลายไปกับความทรงจำหรือความคิดเอาเองของเราเลยแม้แต่น้อย เหมือนที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ขึ้นชื่อว่ากรรมชั่วก็ดี แม้แต่ทำเล็กๆ น้อยๆอย่าคิดว่าไม่มีผล…

เช่นเดียวกับพี่ทั้งสองของฉัน เมื่ออายุล่วงเข้าสามสิบ ทั้งสองก็ลืมเรื่องที่ทำกับมดไว้หมดสิ้น แต่แล้ววันหนึ่งพี่เจก็ตรวจพบอาการผิดปกติของตัวเอง คือพบก้อนบางอย่างที่ก้น จากที่เล็กมากจนแทบไม่รู้สึกก็กลับใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจและเริ่มมีผลกับชีวิตประจำวัน เพราะเวลานั่งจะรู้สึกเจ็บและรำคาญทุกครั้งไป

 :91: :91: :91: :91:

สุดท้าย พี่เจตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพราะกลัวจะเป็นเนื้อร้ายแพทย์ลงความเห็นว่าควรผ่าออกทันทีด้วยการใช้เลเซอร์และส่งพิสูจน์ว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ ถึงแม้จะใช้ยาชา แต่พี่เจก็ยังเจ็บปวดแผลที่โดนจี้ด้วยเลเซอร์ร้อนๆ ไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะในการใช้ชีวิตที่ไม่ว่าจะนั่งหรือนอนท่าไหนก็เจ็บแผลและไม่สะดวกสบายไปเสียหมด แถมต้องหยุดงานเพื่อพักฟื้น ตามมาด้วยความกังวลใจว่าจะเป็นมะเร็งหรือไม่ สร้างความกังวลให้กับพี่เจที่เป็นหัวหน้าครอบครัวหาเลี้ยงลูกเมียจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน

ถึงแม้จะโชคดีที่ผลตรวจออกมาไม่ใช่เนื้อร้าย แต่กรรมของพี่เจยังไม่หมดแค่นั้น เพราะหลังจากแผลผ่าตัดหาย พี่เจก็ได้รับอุบัติเหตุถูกน้ำมันเดือดๆ ราดใส่ได้รับบาดเจ็บซ้ำอีก โดยเฉพาะช่วงล่างนั้นบาดเจ็บหนักกว่าส่วนอื่น จากแผลพุพองก็ลอกออกเป็นแผ่นๆ เวลาทำแผลนั้นเจ็บปวดทรมานเกินจะบรรยายเป็นคำพูดได้ ต้องหยุดการงานทั้งหมด พี่สะใภ้ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแทนและให้แม่ของฉันไปช่วยคอยพยาบาลพี่เจกว่าจะหายสนิทก็กินระยะเวลานานและได้รับความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจไม่น้อย

 :41: :41: :41: :41:

ส่วนพี่กุลนั้นก็ไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือกรรมไปได้เช่นกัน แต่อาจจะด้วยบุญที่พอโตขึ้นพี่กุลก็หมั่นทำบุญ ปฏิบัติธรรม และกตัญญูต่อพ่อแม่เสมอมาก็เป็นได้ จึงทำให้พี่กุลเพียงแค่มีปัญหากับระบบทางเดินหายใจ มักจะแพ้อากาศ หายใจไม่ออกอยู่บ่อยๆบางครั้งเป็นหนักจนต้องไปหาหมอ ซึ่งเวลาเป็น พี่กุลมักจะบอกฉันว่ารู้สึกเหมือนกับกำลังจมน้ำหรือมีใครมาบีบคอให้ขาดอากาศหายใจจนปัจจุบันนี้พี่กุลอาการดีขึ้นมากแล้ว มีเพียงอาการแพ้เล็กๆ น้อยๆ เวลาอากาศเปลี่ยนเท่านั้นพอให้รำคาญใจ

ถึงแม้มดจะเป็นเพียงชีวิตเล็กๆ ชีวิตหนึ่ง แต่หากมองในมุมกว้างแล้ว มนุษย์ก็เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ บนโลกใบนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะแบ่งแยกภายนอกว่าสูงต่ำดำขาวตามโลกทัศน์ของตัวอย่างไร แต่เราก็ล้วนอยู่ในโลกแห่งกรรม ต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเองไม่ต่างกันเลย

เรื่อง สุภาพร อุดมบุญถาวร
http://www.goodlifeupdate.com/50738/healthy-mind/littlelife/
By Therranuch
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ