ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิหารพระมงคลบพิตร ด้านหน้ามีลานกว้างเป็นสนามหลวง  (อ่าน 2061 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

บริเวณสนามหน้าจักรวรรดิ และพื้นที่ต่อเนื่องทำงานพระเมรุเป็นพื้นดำ (แผนที่ของแกมป์เฟอร์ จากหนังสือ ไทยในจดหมายเหตุแกมป์เฟอร์ กรมศิลปากรจัดพิมพ์ พ.ศ. 2545) แผนผังพระราชวังหลวง A พระราชวังสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและที่รับแขกบ้านแขกเมือง B พระราชวังเก่า C ห้องเสวย D วัด E คอกยืนยามภายในกำแพงพระราชวัง F โรงพัสดุหลวง G ห้องเก็บฉลองพระองค์ H โรงช้าง I เรือนขุนนางประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน (ศาลาลูกขุนใน) K บ้านหมอหลวง Lกรมอาลักษณ์ M คลังแสงสรรพวุธ N สระน้ำสำหรับช้างม้า O คลังหลวง P สนามใหญ่ Q ที่อยู่ฝ่ายใน R โรงช้างเผือก S สวน เส้นจุดไข่ปลา...นั้นคือ ทางนำราชทูตฝรั่งเศสไปสู่ที่รับแขกเมืองสนามหน้าจักรวรรดิ


วิหารพระมงคลบพิตร ด้านหน้ามีลานกว้างเป็นสนามหลวง

วิหารพระมงคลบพิตร ตั้งอยู่นอกกำแพงด้านทิศใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ กับ วังโบราณ อยุธยา ยุคอยุธยาถ้ามีพระราชพิธีสำคัญๆ จะทุบกำแพงวังด้านทิศใต้ทะลุถึงกัน เป็นลานกว้างเรียกสนามใหญ่หรือสนามหลวง ตั้งแต่หน้าวิหารพระมงคลบพิตร ถึงหน้าวัดพระศรีสรรเพชญ์ กับพระราชฐานชั้นนอกของวังหลวง บริเวณที่เรียกสนามหน้าจักรวรรดิ (ปัจจุบันคือ พื้นที่อนุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง ริมบึงพระราม)

บริเวณนี้ควรวางผังใหม่ทั้งหมด โดยปรับคืนสภาพใกล้เคียงของเดิมเท่าที่พบหลักฐาน ไม่ควรให้รถทุกชนิดแล่นผ่านเข้ามาเหมือนทุกวันนี้ แต่มีพาหนะอย่างอื่นบริการที่ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม


บริเวณสีดำเป็นสนามใหญ่ (สนามหลวง) กับสนามหน้าจักรวรรดิ (แผนที่พระราชวังโบราณพระนครศรีอยุธยา จากหนังสือ พระราชวังและวัดโบราณในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร พ.ศ. 2511)


พระราชพิธี

สนามใหญ่หรือสนามหลวง เชื่อมกับมหารัถยา คือถนนหน้าวัง เป็นถนนหลวงกลางพระนคร (กว้าง 12 เมตร ปูด้วยศิลาแลง) ทอดยาวลงไปทางทิศใต้ ถึงประตูไชยของกำแพงพระนครด้านทิศใต้ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ตรงกับเวียงเหล็กของพระเจ้าอู่ทอง วัดพุทไธศวรรย์ ฝั่งตรงข้ามนอกเกาะเมือง) ถนนสายนี้เป็นเส้นทางกระบวนแห่พยุหยาตราต่างๆ รวมทั้งขบวนรับราชทูตจากยุโรปและอื่นๆ ขึ้นจากเรือ เข้าเฝ้าในวังหลวง

    พระราชพิธีจัดที่สนามใหญ่หรือสนามหลวง มี 2 อย่าง ได้แก่ ประจำทุกปี กับ ไม่ประจำ
    ประจำทุกปี คือ พระราชพิธีออกสนามใหญ่ เดือนห้า ในกฎมณเฑียรบาล เรียก “เผด็จศก ลดแจตร” ตรงกับปัจจุบันว่าสงกรานต์ มีการละเล่นหลายอย่างกลางสนาม ตามรายการในกฎมณเฑียรบาล มี 2 กลุ่ม เรียกชื่อดังนี้
       - กลุ่มแรกมี ล่อช้าง, รันแทะ, วัวชน, กระบือชน, ช้างชน, คนชน, ปรบไก่, ปล้ำมวย, เล่นกล, คลีม้า, ตีดั้งฟันแย้ง ฯลฯ
       - กลุ่มหลังมี ตีไม้, พุ่งหอก, เล่นแพน, ยิงธนู, ปลายไม้, ลอดบ่วง, ไต่เชือกหนัง ฯลฯ
    ไม่ประจำ มีอินทราภิเษก, คชกรรม, ปฐมกรรม, มัธยมกรรม, อุดมกรรม ฯลฯ ที่สำคัญคือ งานออกพระเมรุมาศพระเจ้าแผ่นดิน และเจ้านายชั้นสูง


      บริเวณสนามหน้าจักรวรรดิ และพื้นที่ต่อเนื่องทำงานพระเมรุ (แผนที่ของแกมป์เฟอร์ จากหนังสือ ไทยในจดหมายเหตุแกมป์เฟอร์ กรมศิลปากรจัดพิมพ์ พ.ศ. 2545)
      แผนผังกรุงศรีอยุธยา A พระราชวังหลวง B วังรัชทายาท (วังจันทร์เกษม) C วังเจ้ากรมช้าง (วังหลัง) D โบสถ์และตึกที่อยู่ของบิชอป หลุยส์ E วัดพระยาพระคลัง F บ้านคอนสแตนติน ฟอลคอน (เจ้าพระยา วิชาเยนทร์) G ค่ายวิลันดา H ค่ายโปรตุเกส I โรงต้มกลั่นสุรา K ค่ายญี่ปุ่น มอญ มลายู L คลองไปพระเจดีย์ภูเขาทอง M คลองสนามไชย(Klang Nam ca) N คลองปากเข้าสาร(Pakausan) O คลองปากน้ำสวนพลู (Klang Patnam Bija) P แม่น้ำใหญ่ Q ค่ายจีน R ค่ายญวน S เพนียด


งานออกพระเมรุมาศ

งานพระเมรุ เผาพระศพเจ้านายกรุงศรีอยุธยา แรกมียุคสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (ครองราชย์ พ.ศ. 2172-2199) กล่าวกันว่าโปรดให้ก่อสร้างพระเมรุมาศบริเวณที่ว่างทางใต้พระวิหารพระมงคลบพิตร แล้วมีพระราชพิธีบริเวณสนามหน้าจักรวรรดิ

จดหมายการพระศพกรมหลวงโยธาเทพได้กล่าวการอัญเชิญพระศพมาทางชลมารค(ทางเรือ) แล้วแห่ไปตั้งพระศพไว้บนพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ เมื่อครบกำหนดแล้วให้เชิญพระศพจากพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ไปยังพระเมรุมาศที่สร้างไว้ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในหมายยังได้อ้างว่าทำเหมือนครั้งงานพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ น่าเชื่อว่าถนนเส้นนี้คือลานหน้าพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ หรือสนามหน้าจักรวรรดิ

ถนนลานพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์นอกจากที่จะใช้ในการชักพระมหาพิชัยราชรถแล้ว ยังใช้ในการแห่สระสนามใหญ่ในพิธีคเชนทรัศวสนาม อีกทั้งในฉันท์สรรเสริญพระเจ้าปราสาททองก็ระบุว่าบริเวณหน้าพระที่นั่งนี้ใช้ประกอบพิธีลบศักราช

@@@@@

สนามหน้าจักรวรรดิ

สนามหน้าจักรวรรดิ อยู่บริเวณที่ว่างระหว่างพระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์มหาปราสาท กับวัดธรรมิกราชและหนองโสน (บึงชีขัน, บึงพระราม) ที่เรียกสนามหน้าจักรวรรดิก็เพราะเป็นลานกว้างอยู่หน้าพระที่นั่งจักรวรรดิฯ

สนามสมัยโบราณ มีความหมายหลายอย่าง เช่น พื้นที่โล่งกว้างใช้ทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ และสงคราม, ฯลฯ แต่บางแห่งหมายถึงศูนย์กลางของอำนาจที่มีคณะผู้มีอำนาจใช้เป็นที่ประชุมปรึกษาหารือก็มี

พระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์มหาปราสาท มียอดมณฑปยอดเดียว ไม่มีบราลี มีมุขซ้อน 4 ด้าน แต่ด้านตะวันออก-ตะวันตกมีมุขสั้นซ้อน 2 ชั้น ด้านเหนือ-ด้านใต้มีมุขซ้อน 4 ชั้น เป็นมุขยาวมาจดประตูเหนือ-ใต้ ฝาไม่มี เป็นปราสาทโถงอยู่บนกำแพงพระราชวังด้านตะวันออก มี 3 ชั้น
      ชั้นล่าง สำหรับข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายหน้าเฝ้า
      ชั้นกลาง สำหรับข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายในพักดูแห่และการมหรสพ
      ชั้นบน สำหรับพระราชวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า ฝ่ายในเฝ้าดูกระบวนแห่ต่างๆ ในมุขยาวทั้งสองด้าน แต่ที่กลางจัตุรมุขชั้นบนเป็นที่ตั้งพระแท่นประทับทอดพระเนตรกระบวนแห่และการมหรสพ รวมทั้งการยกทัพพระยุหยาตรา

      หน้าพระมหาปราสาทมีสนามใหญ่ยาวตลอดกำแพงพระราชวัง เรียกสนามหน้าจักรวรรดิ และมีถนนใหญ่กว้าง 6 วาเรียกถนนหน้าจักรวรรดิ หลังพระมหาปราสาทเป็นสนามใน มีเป้าปืนและถนนด้วย



สุจิตต์ วงษ์เทศ : วิหารพระมงคลบพิตร ด้านหน้ามีลานกว้างเป็นสนามหลวง
http://www.matichon.co.th/news/498252
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ