ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่ดินวัดร้าง.!! ปัญหาท้าทายคณะสงฆ์ในอนาคต  (อ่าน 1239 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29441
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ที่ดินวัดร้าง.!! ปัญหาท้าทายคณะสงฆ์ในอนาคต

ปัจจุบันมีวัดร้างทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 7,000 วัด ที่ดินไม่ต่ำว่า 10,000 ไร่ คณะสงฆ์ต้องรีบแก้ปัญหาเร่งด่วน เพราะอนาคตอาจมีรัฐบาลคิดให้เอกชนเช่า หรือออก พ.ร.บ.เวนคืนไปใช้ประโยชน์สาธารณะ

ช่วงนี้เกิดมีวิวาทะระหว่าง องค์กรชาวพุทธ กับ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง กรณีสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง ปล่อยให้คนต่างศาสนาเช่าที่ดินวัดร้าง 2 แห่ง คือ “วัดนางหงษ์” ต.ชะไว อ.ไชโย จ.อ่างทอง และ “วัดหัวบ้าน” ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกัน เรื่องนี้องค์ชาวพุทธตั้งคำถามว่า...

“ทำไมผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดอ่างทอง จึงปล่อยให้คนต่างศาสนาเช่าที่ดินวัดร้างไปทั้ง 2 วัด และบางวัดที่ดินหดหายไปไหนหมด ใครสวมเอกสารสิทธิทับที่ธรณีสงฆ์ ชาวพุทธและคณะสงฆ์จะไปรื้อฟื้นขอตั้งเป็นวัดใหม่ ทำไมผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง รีบอนุมัติให้คนต่างศาสนาเช่าต่อแบบเร่งด่วน...??”

 :96: :96: :96:

มีเอกสารชี้แจงจากผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง ประเด็นนี้โดยสรุปว่า...

“กรณีวัดนางหงษ์ มีครอบครัวคนต่างศาสนาครอบครองมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำเรื่องเช่า การที่จะให้ครอบครัวนี้ย้ายออกก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา และจะให้ชาวพุทธเข้าไปอยู่อาศัยหรือตั้งสำนักปฎิบัติธรรมก็เป็นไปได้ยาก เพราะบริเวณดังกล่าวมีคนต่างศาสนาอาศัยอยู่โดยรอบ...ส่วนวัดหัวบ้าน คนต่างศาสนาเช่าเพื่อปลูกพืชสมุนไพรเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชน และได้มีการชำระค่าเช่าเป็นประจำทุกปี ทั้ง 2 วัดร้าง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง ก่อนให้เช่าก็ได้ทำตามระเบียบราชการทุกประการ และสัญญาเช่าเป็นแบบปีต่อปี”

“วัดร้าง” ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 32 ทวิ ระบุว่า วัดใดเป็นวัดร้างที่ไม่มีพระภิกษุอยู่อาศัย ในระหว่างที่ยังไม่มีการยุบเลิกวัดให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีหน้าที่ปกครองดูแลรักษาวัดนั้น รวมทั้งที่วัดที่ธรณีสงฆ์และทรัพย์สินของวัดนั้นด้วย ที่ดินวัดร้างยังมีสภาพความเป็นวัดอยู่เมื่อประชาชนมีหนังสือถึงเจ้าคณะอำเภอหรือนายอำเภอแห่งท้องที่ที่วัดร้างนั้นตั้งอยู่ว่า ตนมีศรัทธาที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดร้างนั้นให้เป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาก็ทำได้

ปัจจุบันมี “วัดร้าง” ทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 7,000 วัด คิดว่าคงมีที่ดินไม่น่าต่ำว่า 10,000 ไร่ คณะสงฆ์ จะต้องรีบแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนไม่อย่างนั้นปัญหาดังเช่นจังหวัดอ่างทองก็จะเกิดขึ้นอีก และดีไม่ดีอนาคตอาจจะมีรัฐบาลคิดเอาที่ดินวัดไปให้เอกชนเช่าหรือออกพระราชบัญญัติเวนคืนไปใช้ประโยชน์สาธารณะก็ได้ เพราะปล่อยไว้ก็ไร้ประโยชน์ คณะสงฆ์และชาวพุทธก็ไม่สนใจ ในอดีตยังจำได้ไหมรัฐบาลชุดไหนเคยคิดจะทำมาแล้ว

 :91: :91: :91:

การจะทำ “วัดร้าง” ให้เป็น “วัดรุ่ง” หรือแม้กระทั้งวัดที่กำลังจะร้างให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาหากคณะสงฆ์ทำเป็น “วาระแห่งคณะสงฆ์” คงทำได้ไม่ยาก เช่น ให้พระนิสิตปฎิบัติงานทั้ง 2 มหาวิทยาลัยสงฆ์ไปจำพรรษาวัดที่พระน้อยหรือไม่มีพระภิกษุจำพรรษา, ส่งเสริมนโยบายวัดพี่ช่วยวัดน้องทำเป็นวัดสาขาเปิดสำนักเรียน, กระจายการปกครองลงไปอย่างต่างจังหวัด, กระจายสมณศักดิ์ให้พระสงฆ์ที่ดูแลฟื้นฟูเรื่องนี้อย่างจริงจัง มีหรือพระสงฆ์จะไม่ทำ และที่สำคัญมหาเถรสมาคมต้องงดเพิ่มจำนวนสำนักสงฆ์จำนวนวัด

ส่วนใครอยากจะถวายที่ดินให้วัดที่ภาษาพระเรียกว่าไว้เป็น “ที่กัลปนา” อุทิศเพื่อผลประโยชน์ให้วัดหรือพระพุทธศาสนาก็ให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ไป ไม่ต้องสร้างวัดเพิ่ม ไม่ต้องสร้างศูนย์ปฎิบัติธรรมเพิ่ม มหาเถรสมาคมตั้งทีมงานศึกษาหาทางช่วยกันทำ “วัดร้าง” ให้มีพระภิกษุจำพรรษา

เชื่อว่าหาก คณะสงฆ์ ทำได้แบบนี้ กรณีแบบจังหวัดอ่างทองก็คงไม่เกิดขึ้น



คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง โดย “เปรียญ10” : riwpaalueng@gmail.com
ขอบคุณ https://www.infothailand.eu ,
https://www.touronthai.com,
https://www.luangpordu.com.
https://www.dailynews.co.th/article/570140
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7294
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ที่ดินวัดร้าง.!! ปัญหาท้าทายคณะสงฆ์ในอนาคต
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 28, 2017, 11:49:54 am »
0
เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากในยุคเศรษฐกิจ แบบ นี้ เพราะ วัดร้างที่ร้างเพราะว่า ไม่มีคนทำบุญ ถ้าจะหาทำบุญให้อยู่ได้ก็ต้องเป็นคนต่างที่ต่างถิ่น ตอนที่เดินจาริก เจอก็มาก แต่ครั้นเห็นบางที มีความวิเวก พอจะพัฒนา ให้เป็น สนส หรือ วัดขึ้นมาได้ แต่ก็จะไม่สามารถหาพระไปอยุ่ได้ การฟืนฟูวัด จากสถานะวัดร้าง มีระเบียบหลายอย่าง

  1. อาทิ ต้องมีที่ดิน เกินกว่า 6 ไร่
  2. ต้อง ห่างจากชุมชน
   3. ต้องมีพระอยู่จำพรรษา 5 รูป 5 ปีติดต่อ
 และอีกหลาย ๆ ข้อ

 ในยุคนี้ไม่ได้หาพระดี ๆ ได้ ง่าย ๆ แบบเมื่อก่อน จำนวนพระ ลดลงเป็นจำนวนมาก และพระแท้ ๆ ที่จะยอมมาอยู่ ที่ ทุรกันดาร ที่เคยเป็นวัดร้าง นั้น ก็ยากมาก

 บางที บางแห่ง ก็ต้องทะเลาะกับผู้ยึดครองที่ดิน โดยเฉพาะ คนศาสนาอื่น ๆ ที่รู้ดีอยู่แล้ว มีเจตนายึดที่ดินส่วนนั้น แบบซึ่งหน้า

   ไม่ใช่เรือง ๆง่าย เลย เพราะ ระเบียบ กฏหมาย รัฐ และ  สงฆ์ปัจจุบันเอง ก็กันไม่ให้วัดเกิดขึ้นด้วย

 ;)

 
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ