แก้ทุกข์ เร่งด่วน แบบตั้งรับ ใช้สมาธิ ไม่ได้ ต้องใช้สติ ก่อน ดังนั้น การฟังปาฐกถาธรรม จากครูอาจารย์ เพื่อให้ได้สติ จึงมีประโยชน์ เพราะคำพูด ปลอบประเล้าประโลมใจ
ส่วนการปฏิบัติภาวนา แบบ สมาธิ นั้น ผู้ภาวนาต้องมีระดับใจสูงกว่า เรื่องทิฏฐิ ดังนั้นครูอาจารย์ จึงไม่มัวพูดปลอบใจ ลูกศิษย์ ในเรื่องเผชิญ ความทุกข์กันมากนัก
แต่ลูกศิษย์หลายท่านดูเหมือน จะสอบไม่ผ่านเรือ่งกำลังใจการภาวนา ดังนั้น ก็ควรจะต้องรับฟัง ปาฐกถาธรรม สลับส่งเสริมจิตไปบ้าง เพื่อไม่ให้จิตตก
อาการจิตตก ใน การดำเนินชีวิต มีความทุกข์น้อยกว่า เมื่อ สมาธิ คือ อัปปนาฌาน เสื่อมมากนัก เวลา ที่ ฌาน 1 -2 -3 - 4 นี้เสือ่มลง ฉันอยากจะบอกว่า มันทุกข์ ยิ่งกว่า โดนตัดแขน ตัดขา เสียอีกเพราะว่า เวลามันเสื่อม มันเหมือนตัวเรา เสื่อมจากความดี
เมื่อก่อนฉันไม่ค่อยจะเข้าใจว่า ทำไม พระในสมัยก่อน ยอมตาย ฆ่าตัวตายเลย เมื่อ ฌาน เสื่อม อย่างเช่น พระโคธิกะ หรือ พระผู้ปฏิบัติ อสุภะกรรมฐาน 500 รูป พอถึงเวลาที่เราเสื่อมลงเช่นกัน ในสมัยหนึ่ง ตอนนั้นก็จิตตกหดหู่ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ พยายามเพื่อที่ได้ ฌาน นั้นกลับมา
ดังนั้น ทุกข์ ที่ว่า แขนขา ขาขาด มันก็ทุกข์ นะ พอ ๆ กันกับเวลาเราเสือม จากอัปปนา ดังนั้นศิษย์ทุกท่าน ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ถ้าตามขั้นตอน จิตก็จะไม่เสื่อม การตกภวังค์ไม่มี ในสายกรรมฐานนี้ ไม่มีเพราะว่า มันมีลำดับขั้นตอน ตลอดเวลา
สรุป แก้ทุกข์เร่งด่วน ก็ปรับทิฏฐิ สำหรับผู้อ่อน การภาวนา แก้ทุกข์เร่งด่วน ก็ปรับจิตให้เป็น วิปัสสนาในสมาธิ สำหรับผู้ฝึกขั้นกลาง แก้ทุกข์เร่งด่วน สำหรับ ผู้ได้คุณธรรมแล้ว ก็เพียงแค่พิจารณา ความจริง เท่านั้น
เจริญพร