ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กราบหลวงพ่อโต “วัดป่าเลไลยก์” สุขใจ อิ่มบุญ  (อ่าน 1751 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29435
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์


        กราบหลวงพ่อโต “วัดป่าเลไลยก์” สุขใจ อิ่มบุญ

       เมื่อมาถึงช่วงเข้าพรรษาของทุกปี ฉันก็มักจะขับรถออกมานอกเมือง แวะมาไหว้พระทำบุญในช่วงที่มีวันหยุด ได้ทำบุญแล้วก็ถือโอกาสออกมาเที่ยวไปด้วยในตัว อย่างในครั้งนี้ ฉันก็เลือกจะเดินทางมาที่ “สุพรรณบุรี” เดินทางมาสะดวกสบาย แล้วก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก
       
       มาถึงในตัวเมืองสุพรรณบุรีแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าจะต้องมากราบ “หลวงพ่อโต” ที่ “วัดป่าเลไลยก์” มิเช่นนั้นก็เหมือนมาไม่ถึงจังหวัดสุพรรณบุรี


พระวิหารหลวงพ่อโต

        ซึ่งที่ “วัดป่าเลไลยก์” นั้นก็มีนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนแวะเวียนกันเข้ามาอยู่ไม่ขาด ด้วยเหตุที่เป็นวัดดังประจำสุพรรณบุรี แล้วก็ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมมากราบขอพรกัน
       
       วัดแห่งนี้สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างมานับพันปีแล้ว โดยสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเมืองสุพรรณบุรีรุ่งเรือง และยังปรากฏในพงศาวดารเหนือที่กล่าวไว้ว่า พระเจ้ากาแตทรงให้มอญน้อยมาบูรณะ วัดป่าเลไลยก์ภายหลัง พ.ศ. 1724 ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร


กราบหลวงพ่อโตองค์จำลอง

        มาถึงวัดแล้วก็จะสามารถมองเห็น “พระวิหารหลวงพ่อโต” หลังใหญ่ หากสังเกตบริเวณหน้าบันจะเห็นเครื่องมหายพระมหามกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ บอกให้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จธุดงค์มาพบ สมัยยังทรงผนวชอยู่ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงมาปฏิสังขรณ์
       
       ด้านหน้าพระวิหารมีพระพุทธรูปเป็นหลวงพ่อโตองค์จำลอง เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ จุดธูปเทียน ปิดทอง และยังเป็นจุดที่มาวางของแก้บน โดยมีความเชื่อกันว่าหากมาขอพรหลวงพ่อโตให้ประสบความสำเร็จใจด้านต่างๆ หากสำเร็จก็จะมาแก้บนตามคำขอด้วยไข่ต้ม ขนมจีนน้ำยา และพวงมาลัย


ขอพรสำเร็จแล้วก็มาแก้บน

        ภายในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” ที่ถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี องค์พระเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางป่าเลไลยก์ขนาด ใหญ่สูง 23 เมตรเศษ สร้างตามแบบศิลปอู่ทองรุ่นที่สอง ซึ่งเป็นศิลปะฝีมือสกุลช่างอู่ทองแท้ ๆ เดิมทีองค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง พระหัตถ์ขวาหัก ช่างได้สร้างวิหารครอบ โดยให้ผนังวิหารชิดกับพระหัตถ์ขวา ส่วนทางพระหัตถ์ซ้ายให้มีที่ว่าง ด้านหลังองค์พระสร้างชิดกับผนังวิหารทำให้แข็งแรง นับเป็นความชาญฉลาดของช่างเป็นอย่างยิ่ง

หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์

        มีผู้สันนิษฐานว่า เดิมเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ประทับนั่งอยู่กลางแจ้ง พระกรทั้งสองข้างหักหายไป ผู้ที่มาบูรณใหม่ได้ทำเป็นปางป่าเลไลยก์ตามที่นิยมกันในสมัยหลัง ลักษณะประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระชานุข้างซ้าย พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุข้างขวาในท่าทรงรับของถวาย

บริเวณระเบียงคด มีจิตกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน

        พูดถึงวัดป่าเลไลยก์ นอกจากจะคิดถึงหลวงพ่อโตแล้ว หลายคนอาจจะคุ้นกับชื่อวัดนี้จากวรรณคดีเรื่องขุนช้าง ขุนแผน เพราะชื่อวัดป่าเลไลยก์นี้ปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องช่วงที่ขุนแผนยังเด็ก ได้มาบวชเรียนที่วัดแห่งนี้ในชื่อว่าเณรแก้ว
       
       และหากเดินชมภายในวัดก็จะเห็นว่ามีเรื่องราวเกี่ยวกับขุนช้างขุนแผนอยู่หลายจุดด้วยกัน เริ่มจากบริเวณระเบียงคดรอบพระวิหาร ก็มีภาพจิตรกรรมที่เขียนเป็นเรื่องราวในวรรณคดีขุนช้างขุนแผนในตอนต่างๆ ซึ่งด้านข้างรูปก็จะมีคำอธิบายไว้ด้วย


ภาพจิตรกรรมขุนช้างขุนแผน

        ส่วนด้านหลังวัดนั้นก็ยังมี “เรือนขุนช้าง” ที่เป็นเรือนไทยแบบโบราณ เป็นเรือนไม้สักขนาดใหญ่ ด้านบนเรือนก็มีภาพวาดตัวละครขุนช้าง มีภาพบรรยายเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน มีการจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยก่อน และมีพระพุทธรูปให้กราบสักการะขอพร

เรือนขุนช้าง

        ได้กราบพระทำบุญให้สบายใจแล้ว บริเวณด้านนอกวัดก็ยังมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกหลายอย่างที่น่าซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรือถ้าใครอยากเที่ยวเมืองสุพรรณบุรีต่อ ในตัวเมืองก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อุทยานมังกรสวรรค์ หอคอยบรรหารแจ่มใส ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย
       
       หรือถ้าหากจะออกนอกเมืองสุพรรณบุรีมาอีกหน่อย แนะนำให้ไปลองเที่ยวตลาดเก่าทั้งหลาย ตั้งแต่ ตลาดสามชุก ตลาดศรีประจันต์ ตลาดเก้าห้อง หรือจะตรงไปที่บึงฉวาก ไปตื่นตากับสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ เรียกว่ามาไหว้พระเสร็จก็เที่ยวต่อ แถมยังได้ชิมของอร่อยและมีของฝากกลับบ้านไปด้วยแบบเต็มอิ่ม


ภายในเรือนขุนช้าง
       
       “วัดป่าเลไลยก์” ตั้งอยู่ริมถนนมาลัยแมน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ถนน 340 มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองสุพรรณบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน 321 (มาลัยแมน) ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นวัดตั้งอยู่ทางซ้ายมือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรีได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี โทร. 0-3552-5880, 0-3552-5863-4


ขอบคุณภาพและข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000069092
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: กราบหลวงพ่อโต “วัดป่าเลไลยก์” สุขใจ อิ่มบุญ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2017, 08:31:27 pm »
0
คนโบราณสร้างวิหาร เก่ง

มีชื่อตั้งแต่

ยุค ...สุวรรณภูมิ ตอนปลายๆ แล้วครับ

เก่งมากครับ



บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา