กราบสรีระสังขารเป็นครั้งสุดท้าย ๕ พ.ย. นี้ ร่วมพิธีสลายสรีธาตุ และพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อปัญญานันทะ สหธรรมมิกของพุทธทาสภิกขุในเฟซบุ๊คผู้ใช้ชื่อว่า ดร.แสวง นิลนามะ ได้มีการลงเชิญชวนร่วมงาน พระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อปัญญานันทะ (พระพรหมมังคลาจารย์(ปั่น ปญญานันโท)) ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นกำหนดการที่ทางวัดชลประทานรังสฤษฎ์ได้แจ้งไว้ในเฟซบุ๊คของทางวัดมาล่วงหน้าแล้ว โดยทาง ดร.แสวง นิลนามะได้ลงเนื้อความว่า
วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน นี้เจอกันที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อปัญญานันทะ (พระพรหมมังคลาจารย์(ปั่น ปญญานันโท)) ท่านเป็นพระมหาเถระที่บุกเบิกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้แพร่หลายด้วยการปาฐกถาเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าน ที่ไม่เหมือนใครในยุคบุกเบิกคือ"การยืนเทศน์" "การยืนเทศน์" ต่อมาเรียกว่า "ยืนปาฐกถา"
นั้นถูกต่อต้านจากพระสงฆ์สายจารีตหรือหัวอนุรักษ์ กล่าวหาหลวงพ่อว่า
"ท่านปัญญานันทะเป็นพระนอกคอก" ในเมืองไทยไม่มีใครที่ไหนเขายืนเทศน์ อยากเด่น อยากดัง ทำลายขนบจารีตประเพณีไทยลงอย่างย่อยยับ 
ท่านตอบนิ่มนวล ท่านถามย้อนกลับว่า
"ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดองคุลีมาล(อหิงสกะ) ที่มือถือดาบวิ่งไล่พระพุทธเจ้านั้น พระองค์นั่งเทศน์บนธรรรมาสน์ หรือยืนเทศน์กันเล่า.?
แท้ที่จริง ถ้าวิเคราะห์กันด้วยปัญญาและเหตุผล จะพบว่าพระองค์ทรงวิ่งเทศน์ด้วยซ้ำ และบ่อยครั้งที่พระพุทธเจ้าประทับยืนเทศน์ บางคราวก็เสด็จดำเนิน(เดิน)เทศน์ปรารภธรรมกับพระสงฆ์สาวกผู้ใกล้ชิด ทำนองเดินพูดคุยเล่าเรื่องราวต่างๆ ครั้งสุดท้าย ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ยังประทับบรรทม(นอน)เทศน์อีก
นี่อาตมภาพคิดว่า วันสุดท้ายก่อนตาย แม้นอนอยู่บนเตียง ถ้ายังมีสติสัมปชัญญะดี แพทย์หมอพยาบาลไม่ใส่สายยางพะรุงพะรังในปาก ยังพอพูดได้เทศน์ได้ ก็จะเทศน์จนวินาทีสุดท้าย นั่นแสดงว่า พระพุทธเจ้าใช้อิริยบททั้ง ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน ให้เป็นประโยชน์ที่สุดในการเผยแผ่ธรรมะให้ปรากฎผลตามแต่ละโอกาสและจังหวะ...."
นี่แค่ส่วนหนึ่งของการตอบคำถามว่า ทำไมยืนเทศน์
และที่สำคัญนั้น ท่านได้ให้ปัญญาแก่ชาวพุทธด้วยการสร้างวัดที่แฝงไปด้วยคติธรรมอย่างลึกซึ้ง ที่ผมกล้ายืนยันเช่นนี้ ก็หลังจากผมไปวิจัยวัดปัญญานันทาราม จ.ปทุมธานี อย่างจริงจัง เมื่อปี ๒๕๕๒ ที่ผ่านมาครับ
และได้สัมภาษณ์พระครูศีลวัฒนาภิรมย์ ปัจจุบันคือ ท่านอาจารย์เจ้าคุณพระปัญญานันทมุนี(สง่า สุภโร ณ ระนอง) อดีตเจ้าอาวาสวัดปัญญานันทาราม ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อปัญญานันทะ
และได้สัมภาษณ์ท่านพระอาจารย์มหาเฉลิม ปิยทัสสี เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
ซึ่งต่อมางานวิจัยฉบับนี้ ผมนำมาประกอบเป็นผลงานทางวิชาการกำหนดขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์(ผศ.) เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ ที่ผ่านมาครับ
กราบสำนึกในบุญญาธิการแห่งวิสัยทัศน์ที่หลวงพ่อได้ฝากมรดกไว้ให้แก่ชาวพุทธไทย และชาวโลกครับ
ดร.แสวง นิลนามะ
๒ พ.ย.๒๕๖๐, ๑๑.๐๓ น.ที่มา FB : เพจ ดร.แสวง นิลนามะ
เรียบเรียงโดยกิตติ จิตรพรหม : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/374424