ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สุดยอดเครื่องรางแห่งโชคลาภและป้องกันภัย "นาคบาศ" งูกินหาง มีกินไม่มีหมด ไม่มีอด  (อ่าน 2609 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สุดยอดเครื่องรางแห่งโชคลาภและป้องกันภัย "นาคบาศ"งูกินหาง..มีกินไม่มีหมด ไม่มีอด สามารถชนะทุกอย่าง ค้าขายดี มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม..

นาคบาศ...จัด เป็น สุดยอดเครื่องราง แห่งโชคลาภ และป้องกันภัย คือ มีกินไม่มีหมด ไม่มีอด งูกินหางกัน ต่างตัวก็ต่างกิน ยิ่งกินก็ยิ่งรัดเข้าหากัน พอชนกันก็คลายออก จึงเรียกว่า กินไม่หมด ตามตำนาน โบราณไทยใหญ่ และ ล้านนา "นาคบาศ" คือ"ศรของอินทรชิต" ที่ยิงเข้าไปเป็นงูรัดศัตรู

ซึ่งภายหลังพญานาคราชได้ครอบครองไว้ และ พรานบุญไปขอยืม บ่วงบาศนี้ จากพญานาค และเนื่องจากพรานบุญเคยช่วยเหลือพญานาคราชไว้ พญานาคราชได้ให้สัญญาว่า ขอก็จะให้ ทั้งที่เป็นของสำคัญ และกลัวพรานบุญไม่คืน แต่ก็ให้ไป เพราะต้องรักษาคำพูด พรานบุญจึงสามารถจับกินรีได้ และนำ"บ่วงบาศ"นั้นไปคืน พญานาคราช นาคบาศยังเป็นบ่วงเชือกที่แข็งที่สุด พญาครุฑเจ้าแห่งนก ก็ยังกลัว บ่วงบาศนี้เช่นกัน .

@@@@@@

ตามตำราครูบาอาจารย์ท่านว่า สามารถชนะทุกอย่าง หรือชนะหมด ใช้ทำน้ำมนต์ เสริมดวง ป้องกันภูติผีและคุณไสยเป็นเมตตามหานิยมแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี มีกินไม่มีอด มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและเด่นด้านการเสี่ยงโชค

นาคบาศ กินครบรอบครอบจักรวาล วิทยาคม มีมากมายหลายแบบซึ่งต่างอ้างอิงคติที่มาของความศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างกัน ความเชื่อเกี่ยวกับพญางูศักดิ์สิทธิ์ ที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยว่า “พญานาค” นั้นฝังรากลึกอย่างยาวนาน ใน ดินแดนสุวรรณภูมิ ถึงกับเชื่อกันว่า บรรพบุรุษ คือ พญานาค ผู้มีฤทธิ์ อีกทั้งบรรดา ผู้นำหรือชนชั้นปกครองที่มากบารมีก็ล้วนแต่มีเรื่องราวความเกี่ยวพันกับ พญางูศักดิ์สิทธิ์ หรือ พญานาคทั้งสิ้น

@@@@@@

ในศาสตร์ไทย งูกินหางก็นับถือว่าคือนาคบาศ ของศักดิ์สิทธิ์ และเป็นเค้าที่มา ของเครื่องรางของขลังหลายชนิด ตั้งแต่เชือกคาด ผ้าเช็ดหน้า ผ้าขอด ฯ สรุปรวมๆคืออะไรที่กลายเป็นวงได้ก็มักจะจัดเป็นงูกินหางหรือนาคบาศ ที่ เห็นกันแต่ไม่นึกก็คือ บาศ ที่หมายถึงบ่วงบาศ อย่างเงื่อน “บ่วงสายธนู” ก็เป็น เงื่อนศักดิ์สิทธิ์ ในตระกูลนาคบาศด้วย เพราะตอนรูดเป็นบ่วงเพื่อรัดจะกินหางเชือกไปจนสุด แบบเดียวกับ งูกินหาง นั่นเอง

งูกินหาง หรือนาคบาศ เป็นเครื่องรางของขลังจากอาคมที่ถือว่าดีรอบตัว ค้นคว้าสอบถามจากผู้รู้ว่า มีอุปเท่ห์ทางของขลังจากอาคมครบทุกด้านตั้งแต่ คุ้มครองป้องกัน ล้างอาถรรพ์ จับมัดวิญญาณร้าย มัดใจผูกจิต ไปจนกระทั่งโชคลาภมหานิยม จึงนิยมเรียกกัน ในภายหลังว่า กินบ่เซี่ยง ซึ่งหมายถึงว่า กินไม่หมด

@@@@@@

นาคบาศ เป็นมนต์หรือคาถาอาคมที่ถือคติอิงฤทธิ์จากพญานาค หรืองูศักดิ์สิทธิ์ที่ขยาย องค์ความรู้จาก “งู” ไปสู่ทัศนคติยิ่งใหญ่อย่างมหาจักรวาลหรือสังสารวัฏ

งูกินหาง ซึ่งสื่อหมายถึงคาถาศักดิ์สิทธิ์ บทหนึ่งเรียกว่า นาคบาศ ใน คติคาถาอาคมของ มอญ มีคาถาแค่ตัวเดียวคำเดียว แต่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ สุดยอด ก็คือ อักขระตัว “วะ” ซึ่งเขียน เป็นอักษรแบบตัวโอในภาษาอังกฤษคือ “O” อักขระตัวนี้ ถือว่า มีคุณวิเศษครอบจักรวาล บางทีเรียกว่า วะพันตัว หรือวะพันช่อง

ซึ่งหมายถึงว่า มีช่องใช้ถึงพันประการ และมีคติว่า หากสักอักขระนี้บนร่างกายครบพันตัว ก็จะเป็นผู้อยู่ยงคงกระพัน และ มีฤทธิ์ อำนาจในตัว แบบวิเศษ ซึ่งคติตัว “วะ” นี้ เป็นที่มาของการเล่นอักขระเลขยันต์ แบบการ สนธิอักษร(Bind) การหมุนวน หรือวงกลมเป็นวัฏฏะย่อมหมายถึงความไม่สิ้นสุด ซึ่งก็คือ ต้นชนปลาย เป็นที่มาของคาถาอาคมหรือการเล่นคาบคาถา หลายบท บางอาจารย์จะเรียก ว่า “งูกินหาง”




คาถานาคบาศ

    ๑. ใช้สำหรับเสี่ยงโชค.. “โอม เอ หิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อุ มะอะ โชคลาภจงบังเกิด”
    ๒. ใช้สำหรับค้าขาย เมตตามหาเสน่ห์.. “เอหิ พญานาคะสุปัณณานัง พุทโธภะคะวา พุทธังสิทธิชะนาจิตตัง ธัมมังสิทธิชะ นาจิตตัง สังฆังสิทธิชะ นาจิตตัง อิติปิโสภะคะวา พุทธมัดใจ โมเรียกมา บ่วงทัพพะนาคา เยติ โอมประสิทธิเม”
    ๓. ใช้สำหรับกันภูติกันภัย.. “เอ หิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโส ภะคะวา พุทธังปิด ธัมมังปิด สังฆังปิด มะอุอะ”

@@@@@@

นาคบ่วงบาศถ้าเป็นแถวล้านนา ภาคเหนือตอนบน ถือว่าเป็นที่สุดแห่งโชคลาภ กินเท่าไหร่ก็ไม่จักหมดไม่จักสิ้น ยิ่งถ้าเป็นของเก่าของกรุแล้วนิยมเป็นอย่างยิ่ง ถ้าบูชาด้วยความเคารพจักชุ่มเย็นเปรียบเหมือนมีนาคมาอยู่ด้วย ถือว่าเป็นของดีที่หายาก

นาคบ่วงบาศ ยังมีเล่าขานและถูกบันทันทึกในปั๊บปักษา (กระดาษใบลานเขียนยันต์) เชื่อและศรัทธาต่อต่อกันมา..พระพุทธองค์เผชิญกับเหล่ามาร ในขณะที่กำลังจะตรัสรู้ ได้มีพญานาคเข้ามาขัดขวางเหล่ามารไว้ ดวงกลมเหมือนห่วงนาคบาศ ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ ทำให้เหล่ามารแพ้พ่ายไปนั่นเอง

ดังนั้นที่บอกว่า คุ้มภัย ได้สอดคล้องกัน และยังเป็นสิ่งช่วยปราบเหล่ามารทั้งหลาย หากผู้ใดมีไว้บ้านใดแล้ว จะมีกินไม่มีหมด ถ้าเล่นก็บ่มีเสีย มีได้ตลอดทุกครา




สามารถแบ่งแยกเนื้อได้เป็นหลายเนื้อด้วยกัน มีดังนี้

      ๑. เนื้อดินเผาเคลือบ
      ๒. เนื้อหินแกะ
      ๓. เนื้อดินเจ็ดป่าช้าปั้น
      ๔. เนื้อผงพุทธคุณหรือผงคลุกรัก
      ๕. เนื้อเขาแกะ
      ๖. เนื้องาแกะ
      ๗. เนื้อไม้แกะ
      ๘. เนื้อสำริด
      ๙. เนื้อโลหะอื่นๆ เป็นต้น

@@@@@@

"นาคราช" ยังถูกนำมาใช้เป็นอุปเท่ห์ วัด วิหาร อุโบสถ เชื่อว่าไม่ให้เหล่ามาร มิ ได้กล้าเข้ามากล่ำกลายและยังมีเครื่องรางที่ใช้นาคหรืองูใหญ่ เป็นอุปเท่ห์ ตามพระคาถา เช่น ผ้ายันต์ป้องภัย

กะลาแกะหนุนดวงแก้เคราะห์กรรมหรือเครื่องรางอื่นๆที่นำเอานาคหรืองูใหญ่มาเป็นอุปเท่ห์ ไม่ว่า หน้าวิหาร อุโบสถ หลังวิหาร บนหลังคาหน้า-หลัง วิหาร อุโบสถ ล้วนเกิดขึ้นจากความเชื่อเหล่านี้กันทั้งนั้น นับพันปีมาแล้ว ไม่เชื่อลองดูและคิดพิจารณาสิครับ

"นาคบาศ กิน บ่ เสี๊ยง" หรืองูกินหาง ถือ เป็นเครื่องรางโบราณที่นับถือ กันว่า มีคุณครอบด้าน กินบ่เสี๊ยง กินไม่หมด ภัยไม่มี เป็นของมงคลที่ใช้ เชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งกันแก้อาถรรพ์ต่างๆ มีศาสตร์โบราณ ทั่วโลกต่างยอมรับอำนาจอันลี้ลับนี้ เครื่องรางชนิดนี้ ซึ่งได้กล่าวขานกันมาแบบไม่มีลืม แม้เด็กเล็กถึงผู้ใหญ่ สะกด คำว่า "งูกินหาง" เป็น




ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
ข้อมูลท้องถิ่น พื้นบ้านชาวไทยใหญ่ และชาวล้านนา โดย: ตู่ สาละวิน
http://palungjit.org/
เพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทาน
เรียบเรียงโดยศักดิ์ศรี บุญรังศรี
http://www.tnews.co.th/contents/387760
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2017, 07:58:50 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ