ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเราต้อง "จบของใส่บาตร" วันนี้เราหาคำตอบมาให้แล้ว  (อ่าน 1015 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29448
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเราต้อง "จบของใส่บาตร" วันนี้เราหาคำตอบมาให้แล้ว

ทุกครั้งที่ก่อนใส่บาตร ผู้ใหญ่มักบอกให้เรา จบของใส่บาตร เสมอ แม้กระทั่งก่อนถวายของแด่พระสงฆ์ เช่น ซองปัจจัย ก็ต้องจบก่อนถวายเสมอ เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมเราต้องทำเช่นนี้ และบทจบบาลีมีความหมายว่าอย่างไร มีบทจบอื่นอีกไหม วันนี้ซีเคร็ตมีคำตอบมาฝาก

การจบของก่อนถวายของให้พระสงฆ์ เช่น ของใส่บาตร สังฆทาน ซองปัจจัย คือการอธิษฐาน อธิษฐาน ในพระพุทธศาสนามีความหมายว่า การตั้งเอาไว้ หรือตั้งใจกำหนดเอาไว้ เป็นบารมีหนึ่งของพระโพธิสัตว์ (ทศบารมี)

ดังนั้นการจบของก่อนถวายพระสงฆ์ จึงเป็นการแสดงออกถึงการตั้งใจของผู้ถวาย บางทีการจบของแต่ละคน อาจเป็นการกล่าวคำอธิษฐาน หวังให้อานิสงส์ของการถวายของแด่พระสงฆ์ในครั้งนี้ อำนวยให้สิ่งที่ปรารถนาสัมฤทธิ์ผล

@@@@@@

ส่วนมากผู้ใหญ่จะให้เรากล่าวคำจบของก่อนใส่บาตร ส่วนการจบของถวายอื่นๆ จะเป็นการจบตามความเข้าใจของตนเอง ไม่จบด้วยบาลีเหมือนตอนใส่บาตร ซีเคร็ตรวบรวม "บทจบของก่อนใส่บาตร" มาฝากทุกท่าน

     “สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง นิพพานัง ปัจจโย โหตุ”
      แปลเป็นคำไทยว่า “ทานของเราให้ดีแล้ว ขอจงนำข้าพเจ้าไปสู่พระนิพพาน อันเป็นที่สิ้นแห่งกิเลส”

     “สุทินนัง วะตะ เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง นิพพานัง โหตุเม อะนาคะเต กาเลฯ”
      แปลเป็นคำไทยว่า “ทานอันข้าพเจ้าถวายดีแล้ว ขอจงนำข้าพเจ้าไปสู่พระนิพพาน อันเป็นที่สิ้นแห่งกิเลสในอนาคตกาล เทอญฯ”

      หรือคำจบแบบไทยๆอย่าง
     “ข้าวขาวเหมือนดอกบัวยกขึ้นทูนหัวตั้งจิตจำนง ตักบาตรพระสงฆ์ ขอให้ทันพระศรีอารย์ ขอให้พบดวงแก้วขอให้แคล้วบ่วงมาร ขอให้บรรลุนิพพานในอนาคตกาลเทอญ”

 
ข้อมูลจาก Fungdham, Bloggang, Winnews.tv และ 84000.org
ภาพจาก Sovatdi และ Hdwallpapers
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/86034.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ