ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะอะไร.? เราจึงมี “อาการโมโหหิว”  (อ่าน 864 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เพราะอะไร.? เราจึงมี “อาการโมโหหิว”
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2018, 06:02:36 am »
0



เพราะอะไร.? เราจึงมี “อาการโมโหหิว”

“อาการโมโหหิว” ที่เชื่อว่าใครหลายๆคนก็เคยมีอาการนี้เกิดขึ้นกับตัว เมื่อไม่นานมานี้ “อาการโมโหหิว” กำลังเป็นคำศัพท์ใหม่ในภาษาอังกฤษ ‘Hangry’ คือ อารมณ์โกรธที่มาพร้อมกับความหิว อารมณ์โกรธในภาษาอังกฤษคือ ‘Angry’ และ ความหิวในภาษาอังกฤษคือ ‘Hungry’ เมื่อนำสองคำนี้มารวมกันก็จะกลายเป็น 'Hangry’ ที่แปลว่าความโกรธจากความหิวโหยนั้นเอง แต่เพื่อนๆรู้ไหมว่า เบื้องหลังของอารมณ์ดังกล่าวในเชิงวิทยาศาสตร์คืออะไร แอดมีคำตอบมาฝาก

ในเชิงของวิทยาศาสตร์นั้นไม่สามารถวัดได้ว่าความหิวโหยในแต่ละบุคคลมีมากน้อยเพียงใด แต่มันสามารถบอกได้ถึงอารมณ์บนใบหน้าของเรา อาการเหนื่อยล้า การรูปท้องเป็นวงกลมไปมา เป็นการบ่งบอกว่าหิวแล้วนะ หรือ อยากทานข้าว  ตอนแรกๆนั้นอารมณ์จะไม่รุนแรงเท่าไหร่ แต่ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ ความรู้สึกหิวก็จะมีเพิ่มมากขึ้น อารมณ์ก็จะเปลี่ยนไปด้วย จากอารมณ์ดีกลายเป็นหงุดหงิด บางคนถึงขั้นบ้าคลั่งเพราะความหิวโหยก็มี


@@@@@@

ที่เป็นเช่นนี้เพราะในร่างกายเรา เวลาหิวจะหลั่งรดย่อยอาหารออกมา  ความที่กรดเป็นสสาร มีความร้อนทำให้ภายในร่างกายเราร้อนและอารมณ์ก็จะร้อนไปด้วย แต่เมื่อเราทานข้าวจนอิ่ม มันก็จะทำให้กรดนั้นได้ทำงานของมัน และเราก็จะรู้สึกสบายเพราะอารมณ์เราเย็นลง อาหารที่เรากินไปจะป้องกันความร้อนจากกรดย่อยอาหารได้ทำให้เราหายหงุดหงิด

เวลาที่เราจะเกิดการโมโหหิวมากที่สุดคือช่วงกลางวัน เพราะเป็นช่วงที่เราพยายามทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเวลาเราเครียดก็จะทำให้โมโหหิวได้เหมือนกัน อาการโมโหหิวถึงจะไม่ร้ายแรงก็สามารถทำให้เสียบุคลิกภาพได้ เพราะฉะนั้นถ้าหิวก็ควรไปหาไรกิน อย่าปล่อยให้เกิดอาการโมโห จะไม่ดีต่อสุขภาพนะจ๊ะ

เรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ยังมีอีกมาก ค้นพบและติดตามร่วมไปกับเราในรายการชั่วโมง Discovery ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-09.00 น. ทางช่อง PPTV HD 36



ขอบคุณภาพและบทความจาก
https://www.pptvhd36.com/news/ไลฟ์สไตล์/86550?utm_source=line&utm_medium=linetoday_original&utm_campaign=news
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ