กรรมตามสนองมนุษย์ อีก 4 ปี เตรียมเผชิญวิกฤตหนัก “ภัยธรรมชาติวิบัติ” สะเทือนฟ้าดิน ระดับสุดขั้วดร. ฟลอเรียน ซีวีลเลก Florian Sévellec และ ทีมงานจากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส ตีพิมพ์ผลการศึกษาลงในวารสาร Nature Communications ฉบับวันอังคารที่ 14 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ระบุถึงช่วงเวลา 4 ปีนับจากปีหน้าเป็นต้นไป (2019-2022) ที่วงจรสภาพอากาศโลกจะก้าวเข้าสู่ช่วงอบอุ่นเกินปกติ ประสานกับผลของโลกร้อนที่เกิดจากฝีมือมนุษย์
ทั้งหมดนี้จะผลักดันระดับอุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกหรือ Global-Mean surface air Temperature (GMT) เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้ภัยธรรมชาติทุกชนิดมีความรุนแรงกว่าที่เคยเป็นมาในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้
โดยเฉพาะคลื่นความร้อน ต่อเนื่องไปถึงภัยธรรมชาติอื่นๆเช่นภัยแล้ง ไฟป่า มีความรุนแรงขึ้น และจากการที่อุณหภูมิเฉลี่ยที่ผิวน้ำทะเล หรือ global-mean Sea Surface Temperature (SST) เพิ่มสูง ก็จะทำให้พายุหมุนเขตร้อนในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพายุไต้ฝุ่น ไซโคลนและเฮอริเคน ทวีความรุนแรงมากกว่าปกติ ระบบลมมรสุมพัดแรงจัด ปริมาณน้ำฝนก็จะตกมากจนก่อให้เกิดภัยจากน้ำท่วมใหญ่และดินโคลนถล่มตามมาในหลายพื้นที่ทั่วโลก
@@@@@@
สภาวะการณ์เช่นนี้ในความจริงได้เกิดมาระยะหนึ่งแล้ว เช่น สภาพคลื่นความร้อนที่เข้าปกคลุมสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ในปีนี้ (2018) แต่เนื่องจากโลกยังมีความเย็นจากวงจรสภาพอากาศแบบ "ลานีญา" สลับกับ "นูทรัล" เป็นระยะ ทุกอย่างจึงยังไม่ดูรุนแรงเท่าที่ควรจะเป็น
ทางทีมงานใช้วิธีการคำนวนและสร้างแบบจำลองที่เรียกว่า "probabilistic forecast" หรือ PROCAST เพื่อสรุปแนวโน้มของภูมิอากาศ และพบว่า เมื่อเข้าสู่ปีหน้าหรือปี 2019 อุณหภูมิ GMT มีโอกาส 64% และ อุณหภูมิ SST มีโอกาสสูงถึง 74% จะที่เข้าสู่สภาวะร้อนจัด ผลกระทบต่อเนื่องไปยังภัยธรรมชาติต่างๆแบบสุดขั้ว ก็จะปรากฏชัดเจน
สำหรับประเทศไทยจะต้องระวังให้ดีเนื่องจาก เรามีความพร้อมน้อยมากในการที่จะรับมือภัยธรรมชาติในระดับสุดขั้วที่กำลังจะมาถึง เพราะเท่าที่ผ่านมาแม้ภัยธรรมชาติที่เกิดในระดับปกติก็ยังเกิดความเสียหายมากอยู่แล้ว การที่เราวางผังเมืองไม่ดี ทางระบายน้ำถูกปิดกั้น ฝนมรสุมตามฤดูกาลยังทำน้ำท่วมได้บ่อยๆ การไม่รักษาป่าไม้นอกจากก่อให้เกิดความแห้งแล้ง เกิดไฟป่าได้ง่ายแล้ว ยังทำให้ปราศจากพืชที่คอยยึดหน้าดินชะลออัตราการไหลของน้ำด้วย
การฝึกซ้อมอพยพประชาชนจากชายฝั่งทะเลในกรณีมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในอ่าวไทย (แบบไต้ฝุ่นเกย์หรือพายุโซนร้อนแฮเรียดในอดีต) ก็ยังไม่เคยทำแบบเป็น กิจจะลักษณะ หน่วยงานรัฐฯและประชาชนจึงควรต้องเร่งเวลา ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือภัยพิบัติให้เร็วที่สุด ควรตรวจสอบสภาพคูคลอง ตลิ่ง เขื่อน ประตูน้ำ ขุดลอกพื้นแม่น้ำ เพิ่มขนาดและจัดความสูงต่ำของท่อระบายน้ำในเมืองใหญ่ และอื่นๆอีกสารพัดที่ต้องทำเพื่อให้พร้อมสำหรับสิ่งเลวร้ายที่เราอาจต้องเผื่อใจไว้ว่า มันจะเกิดมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะเวลาใกล้เข้ามาแล้ว ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
https://today.line.me/th/pc/article/กรรมตามสนองมนุษย์+อีก+4+ปี+เตรียมเผชิญวิกฤตหนัก+“ภัยธรรมชาติวิบัติ”+สะเทือนฟ้าดิน+ระดับสุดขั้ว-qYMJjDReporter : Mr.Vop , เผยแพร่ 28 สิงหาคม 2561 , เวลา 18.00 น.