มา"วิ่งสมาธิ"กันเถอะ เพื่อการมีสติ และสุขภาพที่ดีการวิ่งสมาธิ หลายคนคงสงสัยว่าการวิ่งที่ใช้ความเร็วและร่างกายต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา จะทำสมาธิได้จริงเหรอ วันนี้ซีเคร็ตขอนำเสนอข้อมูลธรรมะเสริมสร้างสติและสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน จากข้อมูลวิชาการของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
กายกับจิต หรือ นามกับรูปที่อิงอาศัยกัน จิตสามารถอาศัยกายเพื่อให้จิตเข้าถึงปัญญาญาณ พระพุทธศาสนาสอนว่า สติเกิดขึ้นจากสมาธิ ตามหลักไตรสิกขาว่า สมาธิเป็นบ่อเกิดของปัญญา หากเราสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันไปพร้อมกับการทำสมาธิก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือได้ทั้งการทำสมาธิเพื่อพัฒนาสติ และได้สุขภาพที่แข็งแรง
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำเสนอว่า ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ โสมประยูร ผู้คิดค้นการวิ่งสมาธิ ได้ค้นพบเรื่องการวิ่งสมาธิโดยบังเอิญ ระหว่างที่ตนกำลังวิ่ง ภรรยาก็ฝึกสมาธิด้วยการเดินจงกรมภายในบริเวณบ้านเหมือนกัน หลังจากนั้นศึกษาเรื่องทำสมาธิจากภรรยา และทดสอบลองภาวนา พุท-โธ ในขณะวิ่ง พอวิ่งไปก็รู้สึกเพลิน และมารู้สึกตัวอีกทีจึงรู้ว่ามีเหงื่อซึมที่แขน พอดูนาฬิกาปรากฏว่าวิ่งเลยครึ่งชั่วโมงไปแล้ว แต่กลับรู้สึกไม่เบื่อเหมือนอย่างทุกที
@@@@@@
ทั้งนี้ ยังพบอีกว่าประโยชน์ของการ “วิ่งสมาธิ” มีทั้งหมด 7 ประการ ได้แก่
1. สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น
2. ติดวิ่งสมาธิ มีสมาธิระหว่างวิ่งมากขึ้น
3. ร่างกายกระฉับกระเฉง แคล่วคล่องว่องไว
4. ลดความเสี่ยงจากโรค และอุบัติเหตุ
5. อารมณ์สดชื่น แจ่มใส ไม่แก่เกินวัย
6. ลดความวิตกกังวล คลายเครียด
7. แก้ไขปัญหาได้ รวดเร็วขึ้น
@@@@@@@
ดร.สุชาติ ยังบอกอีกว่า ก่อนวิ่งควรอบอุ่นร่างกาย และจิตใจด้วยการเดินเร็วหรือบริหารกายประมาณ 2- 3 นาที พร้อมทั้งการปรับอารมณ์ให้สดชื่นแจ่มใส ตัดความกังวลต่าง ๆ ออกไป หลังจากภาวนาตอนอบอุ่นร่างกายและจิตใจแล้ว พอเริ่มวิ่งก็ให้ภาวนา “พุท” ลึกยาวตามลมหายใจเข้า และหายใจออกตามปกติภาวนาว่า “โธ”
ทั้งนี้ การควบคุมการหายใจในขณะภาวนาไปพร้อมกับการวิ่ง อาจจะรู้สึกว่าทำได้ยาก เพราะจังหวะที่เท้าก้าวอาจไม่ตรงกับจังหวะการหายใจ สิ่งที่ควรทำคือ การวิ่งไปตามปกติโดยไม่ต้องกังวลเรื่องของจังหวะการวิ่ง เมื่อทำไปสักพักทุกอย่างจะลงจังหวะ และลงตัวไปเอง เนื่องจากคนเรามีความแตกต่างกันทั้งเพศ วัย สภาพร่างกาย การวิ่งสมาธิ จึงเป็นการวิ่งที่ควรปรับลักษณะการวิ่งให้ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับตนเอง
พอจะเริ่มหยุดวิ่ง ให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ด้วยการเปลี่ยนจากการวิ่งเหยาะมาเป็นเดินเร็ว และทำจิตใจให้สบายแทน เมื่อทำเป็นประจำจะรู้สึกได้ว่า การวิ่งสมาธิ เป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ เพราะเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างร่างกายกับจิตใจ เรียกว่านอกจากจะมีจิตใจที่ดีแล้ว ยังมีสุขภาพกายที่ดีด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า “จิตที่แข็งแกร่ง คือจิตที่สงบนิ่ง กายที่แข็งแรง คือกายที่เคลื่อนไหว” นั่นเอง ที่มา :
www.thaihealth.or.thPhoto by Matthew LeJune on Unsplash
ขอบคุณเว็บไซต่์ :
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/117524.html#cxrecs_sBy nintara1991 , 5 October 2018