ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวเชียงคำพบ "บาตรหินยักษ์" ของคู่พระพุทธศิลานิมิตร ถูกฝังดินไม่มีใครรู้  (อ่าน 960 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ชาวเชียงคำพบ "บาตรหินยักษ์" ของคู่พระพุทธศิลานิมิตร ถูกฝังดินไม่มีใครรู้

สุดอัศจรรย์! ชาวเชียงคำพบบาตรหินยักษ์ คู่ใจ พระเจ้าหินหรือพระพุทธศิลานิมิตร อายุกว่า 500 ปี ที่สูญหายไป กว่า 40 ปี พบถูกฝังดินใต้ไว้ที่ใต้ศาลาเทปูนทับ ส่วนคนที่รู้ล้มตายหมดเลยไม่มีใครทราบ...

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตรวจสอบที่วัดบุญนาค บ.ใหม่ ม.8 ต.หย่วน จ.พะเยา หลังทราบข่าวว่า ชาวบ้านพบบาตรหินขนาดใหญ่ที่สูญหายไปกว่า 40 ปี พบ หินก้อนใหญ่ แกะสลักลักษณะ กลมคล้ายบาตรพระ แยกเป็นฝาบาตรกับตัวบาตรอย่างชัดเจน ตัวบาตรเป็นก้อนตันไม่เจาะกลวง เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 58 ซม. รอบวงประมาณ 230 ซม. สูง 40 ซม. ชาวบ้านได้นำมาวางบนโต๊ะไม้หน้าอุโบสถ



นายสุทิน แซ่ลาย อายุ 57 ปี ผู้ช่วยมัคคนายกวัดบุญนาค กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 61 ที่ผ่านมา คณะศรัทธาและชาวบ้านร่วมกันพัฒนาวัดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่ ๙ เนื่องจากต้องการใช้พื้นที่หน้าอุโบสถสร้างเป็นศาลาสำหรับจุดธูปเทียนบูชา จึงทำการรื้อถอนศาลาหลังเก่าซึ่งมีขนาดเล็กเป็นที่ประดิษฐานตั้งรูปปั้นของ เจ้าอธิการคีรีเขตร ธีรปัญโญเจ้าอาวาสองค์ก่อน (2517 – 2522) และนำมาตั้งไว้ในวิหาร หลังจากนั้นได้นำรถแบ็คโฮมาขุดปรับหน้าดิน เมื่อขุดได้ลึกประมาณ 30 ซม. รู้สึกเหมือนกับกระทบกับหินแข็ง

จึงทำการขุดล้อมเพื่อนำหินออกมา พอยกก้อนหินขึ้นได้ชาวบ้านต่างพากันร้องด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ ถึงกับยกมือพนมสาธุ ขึ้นเหนือหัว แล้วตะโกนบอกชาวบ้านว่า นี่คือ บาตรหินของพระเจ้าหิน ที่ตนเองเคยเห็นตอนสมัยที่ตนเป็นเด็กและได้สูญหายอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครทราบแล้วก็ไม่คิดจะตามหาเพราะจุดสนใจอยู่เพียงพระเจ้าหินเท่านั้น พอชาวบ้านรู้ว่าเป็น บาตรหินคู่ใจของพระเจ้าหินจึงนำมาตั้งไว้ให้
สักการะบูชา แล้วจะนำไปประดิษฐานคู่กับพระเจ้าหินอีกครั้ง



นายสุทิน ยังเล่าต่อไปว่า บริเวณฝาบาตรของบาตรหิน ที่เป็นรอยเว้าแหว่งเนื่องจากมีชาวบ้านที่แวะผ่านมาเพื่อจะไปทำไร่ทำนาหรือมาพัฒนาวัด ได้นำเอามีดเอาพร้ามาลับคมบริเวณบนฝาบาตรจนเกิดสึกหรอเว้าแหว่ง นายสุทิน สันนิษฐานว่า เจ้าอธิการคีรีเขตร ธีรปัญโญ เจ้าอาวาสองค์ก่อน เห็นว่าชาวบ้านไม่รู้จักคุณค่าของบาตรหิน จึงนำมาซ่อนฝังไว้ที่ใต้ศาลาเทปูนทับแล้วนำเอาพระพุทธบาทจำลอง วางทับไว้บนเหนือบาตรหินอีกครั้ง

หลังจากที่เจ้าอธิการคีรีเขตร ธีรปัญโญ เจ้าอาวาสองค์ก่อน มรณะภาพเมื่อปี 2522 ด้วยอายุเพียง 31 พรรษา หลังจากนั้นก็ไม่มีใครทราบหรือติดตามว่าบาตรหินดังกล่าวไปอยู่ที่ไหน ส่วนคนเฒ่าคนแก่ที่ช่วยกันฝังบาตรหินก็ล้มหายตายจากไปกันหมด จนได้มาขุดพบบาตรหินดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561 นับว่าเป็นบุญยิ่งที่บาตรหินของพระเจ้าหินกลับคืนอยู่คู่กันอีกครั้ง


ประวัติของพระพุทธศิลานิมิตร(พระเจ้าหิน) เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แบบสุโขทัย ที่แกะสลักจากหินสีเขียวเทา ขนาดหน้าตักกว้าง 64 นิ้ว สูง 84 นิ้ว เดิมประดิษฐานอยู่กลางทุ่งร้าง ของเมืองเวียงลอ ทางทิศตะวันตกของอำเภอเชียงคำ(ปัจจุบันอยู่ในเขตของ อำเภอจุน จ.พะเยา) กรมศิลปากรมาสำรวจและสันนิษฐานว่า มีอายุราว 500 ปี

ต่อมาใน พ.ศ.2495 เจ้าอาวาสวัดบุญนาค ชื่อพระบุญทวงศ์ และคณะศรัทธาไปอัญเชิญ พระพุทธศิลานิมิตร(พระเจ้าหิน) มาประดิษฐานเป็นองค์พระประธานของวัด พร้อมกับบาตรหินยักษ์ เมื่อ วันที่ 22เมษายน 2495 พระพุทธศิลานิมิตร(พระเจ้าหิน) เป็นพระพุทธรูปที่สวยงาม เป็นที่สักการบูชาเคารพนับถือ ของพุทธศาสนิกชนเป็นอันมาก ในวันมาฆบูชาของทุกปี ทางวัดจะจัดงานเฉลิมฉลองเป็นมหกรรมยิ่งใหญ่ มาจนถึงปัจจุบัน.



ขอบคุณภาพและข่าวจาก
https://www.thairath.co.th/content/1402818
โดย ไทยรัฐออนไลน์ , 24 ต.ค. 2561 22:38 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ