ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ร่วมปิดทอง..เมรุลอยหัสดีลิงค์ ‘หลวงพ่อคูณ’ งานบุญสมมาบูชาน้ำ สีฐานเฟสติวัล 2018  (อ่าน 1003 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ร่วมปิดทอง..เมรุลอยหัสดีลิงค์ ‘หลวงพ่อคูณ’ งานบุญสมมาบูชาน้ำ สีฐานเฟสติวัล 2018

กว่า 3 ปีแล้ว ที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ หลัง *พระเทพวิทยาคม* หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ละสังขารลงเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 ท่ามกลางความโศกเศร้าของศิษยานุศิษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้ดำเนินตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ โดยมอบสังขารให้แก่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข.เพื่อนำไปศึกษาค้นคว้า โดยนักศึกษาแพทย์ต่างได้ศึกษาเรียนรู้เป็นคุณอันอเนกอนันต์เรื่อยมา

กระทั่งสิ้นสุดกระบวนการจัดการเรียนการสอนเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 จวบจนพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ของพระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และครูใหญ่ทุกร่าง ที่ มข.และคณะทำงาน ได้กำหนดให้เป็นวันที่ 22-28 มกราคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข.และในวันที่ 29 มกราคม 2562 จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม ณ พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น



“เมรุลอยนกหัสดีลิงค์” จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ หลวงพ่อคูณโดยได้จัดพิธีเบิกฟ้า ขอขมาแถนไท้ เพื่อสร้างเมรุลอยนกหัสดีลิงค์หลวงพ่อคูณเมื่อเดือนเมษายน 2561 นกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุลอย ตามประเพณีโบราณที่จัดขึ้นเฉพาะการฌาปณกิจศพเจ้านายชั้นสูงหรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่สืบทอดมาจากตำนาน “นกหัสดีลิงค์” หรือ นกสักกะไดลิงค์ ที่มีส่วนหัวเป็นช้าง ตัวเป็นนกขนาดใหญ่ มีกำลังมหาศาล

ในตำนานของนครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานคร เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งนครนั้นถึงแก่สวรรคตต้องอัญเชิญพระศพออกไปฌาปนกิจที่ทุ่งหลวง มีนกหัสดีลิงค์ซึ่งกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร บินมาจากป่าหิมพานต์ จึงบินโฉบลงมาเอาพระศพไป เมื่อพระมหาเทวีเห็นเช่นนั้น ก็ประกาศให้คนดีเข้าต่อสู้เพื่อเอาพระศพคืนมา นางสีดาจึงเข้ารับอาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์ โดยใช้ศรอาบยาพิษยิงนกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตายตกลงมาพร้อมพระศพ พระมหาเทวีจึงโปรดสั่งให้ช่างทำเมรุคือหอแก้วบนหลังนกหัสดีลิงค์แล้วถวายพระเพลิงไปพร้อมกัน หลังจากนั้นมาจึงได้ถือเอาประเพณีทำนกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุของชั้นเจ้านาย ตามความเชื่อที่ว่า นกหัสดีลิงค์ สามารถนำดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ได้



รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข.เล่าว่า เมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเมรุลอยจาก อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในการสร้างวัดร่องขุน ซึ่งเมรุลอยของหลวงพ่อคูณ ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับประเพณีโบราณ เป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวบนฐานแปดเหลี่ยม กว้าง 16 เมตร สูง 22.6 เมตร ส่วนฐานของนกหัสดีลิงค์จะประกอบไปด้วยนาคที่มีความยาว 5 เมตร 12 ตน และรายล้อมด้วยสัตว์หิมพานต์ 32 ตน จำลองบรรยากาศคล้ายเขาพระสุเมรุ ถอดแนวความคิดมาจากอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอีสาน


งานศิลปะชิ้นนี้ถูกสร้างเป็นสีขาวทั้งหมด ภายใต้แนวคิด “เรียบง่าย สมเกียรติ สง่างาม” เพื่อสื่อถึงสะอาด ความบริสุทธิ์ ในการที่จะส่งหลวงพ่อคูณไปสู่สวรรค์ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อที่ให้จัดงานอย่างเรียบง่ายที่สุด ภายใต้การทำงานอย่างร่วมแรงร่วมใจจากช่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข.

คณะกรรมการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ หลวงพ่อคูณ จึงเห็นควรให้ศิษยานุศิษย์ได้มีส่วนร่วมในการสร้างนกหัสดีลิงค์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระสงฆ์ผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาและบุญบารมี เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ด้วยการร่วมปิดทองคำเปลวยอดบุษบก และช่วยกันประดับตกแต่งขนนกหัสดีลิงค์ โดยคณะกรรมการได้จัดเตรียมอุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ศิษยานุศิษย์อย่างเพียงพอ ในงานสีฐานเฟสติวัล “บุญสมมาบูชาน้ำ” ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2661 ณ ริมบึงสีฐานฝั่งตะวันตก มข.

เมื่อเทศกาลสีฐานเฟสติวัลจบลง ทีมช่างจะสร้างนกหัสดีลิงค์จนเสร็จสมบูรณ์ ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปตั้งไว้ ณ พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น สถานที่ใช้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ หลวงพ่อคูณโดยกำหนดในวันที่ 29 มกราคม

หลังจากเสร็จพิธี สถานที่ตรงนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้วางแผนการก่อสร้างอนุสรณ์สถานครอบไว้โดยรูปแบบทางสถาปัตยกรรม จะใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ มีรูปแบบประยุกต์ เรียบง่าย สมถะ สันโดษ บรรยากาศภายในใช้แสงเป็นสัญลักษณ์แห่งนิพพาน

เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณงามความดีของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ผู้เคยที่สร้างคุณเอกอนันต์ไว้ให้กับประเทศชาติเรื่อยมา







ขอบคุณที่มา : https://www.matichon.co.th/education/news_1234523
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 - 18:14 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ