ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดพระไตรปิฎก แม้แต่ “พระอานนท์” ยังร้องไห้ เมื่อพระพุทธเจ้าใกล้ปรินิพพาน  (อ่าน 1274 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29359
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




เปิดพระไตรปิฎก แม้แต่ “พระอานนท์” ยังร้องไห้ เมื่อพระพุทธเจ้าใกล้ปรินิพพาน

จากคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ ภาพยนตร์เรื่อง ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2 ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้หนังไม่ผ่านเซ็นเซอร์ เพราะในภาพยนตร์มีฉากพระสงฆ์ร้องไห้ที่อดีตคนรักเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เรื่องพระร้องไห้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในสมัยพุทธกาล ยังมีการบันทึกถึงเรื่องราวของพระที่ร้องไห้ด้วย เช่นกรณีของ พระอานนท์ พระอุปัฎฐากของพระพุทธเจ้า ที่ท่านได้ร้องไห้ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าใกล้ดับขันธุ์ปรินิพพาน โดยเนื้อหาใน มหาปรินิพพานสูตร ในพระไตรปิฎก ระบุถึงเหตุการณ์ช่วงนั้นว่า


@@@@@@

ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปสู่วิหารยืนเหนี่ยวไม้คันทวยร้องไห้อยู่ว่า เรายังเป็นเสขบุคคลมีกิจที่จะต้องทำอยู่ แต่พระศาสดาของเรา ซึ่งเป็นผู้อนุเคราะห์เรา ก็จักปรินิพพานเสีย ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งถาม
พวกภิกษุว่า

     ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานนท์ไปไหน พวกภิกษุกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านอานนท์นั้น เข้าไปสู่วิหารยืนเหนี่ยวไม้คันทวยร้องไห้อยู่ว่า เรายังเป็นเสขบุคคล มีกิจที่จะต้องทำอยู่ แต่พระศาสดาของเรา ซึ่งเป็นผู้อนุเคราะห์เรา ก็จักปรินิพพานเสีย

     พระผู้มีพระภาคจึงรับสั่งกะภิกษุรูปหนึ่งว่าเธอจงไปเถิดภิกษุ จงบอกอานนท์ตามคำของเราว่า ท่านอานนท์ พระศาสดารับสั่งหาท่าน ภิกษุนั้นทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่ใกล้ ครั้นเข้าไปหาแล้วบอกว่า ท่านอานนท์ พระศาสดารับสั่งหาท่าน ท่านพระอานนท์รับคำภิกษุนั้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ

     @@@@

     ครั้นท่านพระอานนท์นั่งเรียบร้อยแล้ว พระผู้มีพระภาครับสั่งกะท่านว่า อย่าเลย อานนท์ เธออย่าเศร้าโศก ร่ำไรไปเลย เราได้บอกไว้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือว่า ความเป็นต่างๆ ความพลัดพราก ความเป็นอย่างอื่นจากของรักของชอบใจทั้งสิ้นต้องมี เพราะฉะนั้น จะพึงได้ในของรักของชอบใจนี้แต่ที่ไหน สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา การปรารถนาว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายไปเลย ดังนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้

    ดูกรอานนท์ เธอได้อุปัฏฐากตถาคตด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันประกอบด้วยเมตตา ซึ่งเป็นประโยชน์เกื้อกูล เป็นความสุข ไม่มีสอง หาประมาณมิได้มาช้านาน เธอได้กระทำบุญไว้แล้ว อานนท์ จงประกอบความเพียรเถิด เธอจักเป็นผู้ไม่มีอาสวะโดยฉับพลัน ฯ


ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1856013
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29359
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


 :96: :96: :96: :96: :96:



ปม "ไทบ้านเดอะซีรีส์" พระร้องไห้ได้ไหม? “พระมหาไพรวัลย์” ไขข้อข้องใจ

“พระมหาไพรวัลย์” ยกพุทธกาลพระร้องไห้ไม่ใช่ไม่เคยมี ชี้ "โสดาบัน" ก็ยังร้องไห้ ปม "ไทบ้านเดอะซีรีส์" พระร้องไห้ได้ไหม? “พระมหาไพรวัลย์” ไขข้อข้องใจ

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ วัดสร้อยทอง โพสต์ถึงกรณีฉากในภาพยนตร์เรื่อง “ผู้บ่าวไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2” ซึ่งเป็นฉากพระร้องไห้ต่อหน้าโลงศพแฟนสาว ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นฉากหนึ่งที่ทำให้ภาพยนต์ถูกห้ามฉาย โดยระบุว่า

“พระเชียงบวชไม่กี่วันแล้วร้องไห้นี่ ธรรมดามากนะ ในสมัยพุทธกาล ภิกษุณีรูปหนึ่งที่เป็นแม่ของพระกุมารกัสสปะ เธอบวชมาถึง ๑๒ ปี ในคัมภีร์บอกว่า ไม่มีวันไหนเลย ที่เธอจะไม่มีน้ำตาเพราะคิดถึงลูก”

คนเข้าไม่ถึงศาสนา ไม่เข้าใจเรื่องนี้ การแสดงออกทางอารมณ์ในบางอย่าง มันเป็นตัวสะท้อนความทุกข์ของคนนะ แล้วความทุกข์มันไม่ได้แบ่งแยกว่า ต้องมีเฉพาะชาวบ้าน นักบวชมีไม่ได้ อันนี้เข้าใจผิดหมดเลย

อ่านข่าว: “ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2” โดนแบนฟ้าผ่าห้ามฉายไม่มีกำหนด



คำว่าตัดทางโลก ไม่ได้หมายถึงว่า ตัดอารมณ์ความรู้สึกที่มนุษย์จะพึงมีทั้งหมดได้ ไม่ใช่ว่าดับทุกข์สิ้นเชิงได้ พระโสดาบัน ยังร้องไห้นะ พระสกทาคามี ยังมีความโกรธ (แม้จะเบาบาง)

การมองภาพของนักบวชแบบผิดผิด หรือเข้าใจในมิติเดียว หลายครั้งก็สร้างปัญหานะ มีนักปฎิบัติธรรมหลายคนฆ่าตัวตาย ทั้งแม่ชี ทั้งพระ ส่วนหนึ่งมาจากความเครียดความเก็บกดและการไม่สามารถเปิดเผยอารมณ์ความรู้สึกในด้านลบซึ่งความทุกข์ภายในใจของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาได้

ภาพของพระเชียงนี่เป็นตัวอย่างของพระที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองนะ มันสะท้อนความเป็นธรรมชาติของชีวิตที่ว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะแบบไหน มันไม่ใช่ว่า เราจะสามารถหนีอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด หนีปัญหาหนีความทุกข์ของตัวเองได้ น้ำตานั่นแหล่ะที่เป็นเครื่องบ่งบอก อย่างน้อยมันก็เป็นตัวแทนถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในใจ

เราจะรับรู้และเข้าใจถึงความทุกข์ของคนอื่นได้ยังไง ถ้าเรามองข้ามอารมณ์ความรู้สึกที่อ่อนไหวของเขา



ขอบคุณภาพและข่าวจาก
https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/93621?utm_source=line&utm_medium=linetoday_original&utm_campaign=news
เผยแพร่ 22 พ.ย. 2561,10:00น. ปรับปรุงล่าสุด 22 พ.ย. 2561,12:25น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ