ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไถ่ชีวิตโค! ช่องทาง “ทำบุญ” หรือช่องทาง “ทำกิน”  (อ่าน 1176 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29483
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ไถ่ชีวิตโค! ช่องทาง “ทำบุญ” หรือช่องทาง “ทำกิน”

ไถ่ชีวิตโค.! ช่องทาง “ทำบุญ” หรือช่องทาง “ทำกิน”

เงินจากศรัทธาแห่ซื้อชะตาวัว คนหัวใสหมุนเวียนสต๊อกนำกลับมาในระบบ วัดกระโดดร่วมทีม สร้างเงินสะพัดบนสะพานบุญโรงฆ่าสัตว์ให้ไถ่ออกไป ก็หาตัวใหม่เข้ามาแทน

ไถ่ชีวิตรับปีใหม่ บนความเชื่อศาสนา ประกอบกับคำแนะนำจากหลายสำนักหมอดู ผู้คนแบ่งเงินออมที่หวงแหน มาซื้อชีวิตวัวตัวสวย  หวังให้มันอยู่ได้ยืนยาวสมค่าไถ่ราคาแสนแพง โดยไม่ทราบว่าชีวิตหลังความตายของมัน จะสวยหรูเหมือนที่คาดหรือไม่

หน่วยงาน องค์กร บริษัท ก็นิยมไถ่ชีวิตโคกระบือในช่วงปีใหม่ เนื่องจากมักจะมีเงินปลายปีคงเหลือที่เอามาใช้ทำกิจกรรมบำเพ็ญกุศล แถมสามารถเก็บประมวลภาพในแฟ้มผลงานขององค์กรได้เป็นอย่างดี ใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ และวัดประเมินกิจกรรมของบริษัทได้

@@@@@

ทำไมต้องวัว  สืบเนื่องจากความเชื่อว่าวัวเป็นสัตว์ใหญ่ กินแต่พืช และมักมีน้ำตาไหลให้เห็นก่อนเข้าโรงเชือด วัวและควาย จึงเป็นสัตว์ยอดนิยมที่ผู้คนสรรหาหนทางในการยื้อชีวิต  ในบางความเชื่อ วัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และมีคุณค่าต่อวงการเกษตรกรรมไทย   การปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า แม้จะใช้เงินน้อยกว่าแถมได้จำนวนชีวิตมากขึ้น กระนั้นก็ไม่สามารถทดแทนคุณค่าในใจที่มีต่อการไถ่ชีวิตวัวควายได้เลย

วัวที่นิยมไถ่ชีวิต จะเป็นวัวเพศเมีย อายุ 1-4 ปี  หรือถ้าราคาย่อมลงมา จะเป็นลูกวัวหย่านมแล้ววัย 5-8เดือน สายพันธุ์ผสมบราห์มัน ชโลเรีย หรือ พันธุ์พื้นเมือง ตาก กำแพงแสน และ กบินทร์บุรี

ปล่อยแล้วไปไหน  หากไม่เลี้ยงเอง ก็มักจะถูกส่งต่อไปยังวัด สถานที่ซึ่งน่าจะทำให้วัวอยู่รอดปลอดภัย แต่เนื่องจากผู้มีจิตศรัทธามีจำนวนมากขึ้น วัวจึงกลายเป็นภาระให้วัด การบริโภคอาหารของสัตว์ประเภทนี้มีปริมาณต่อเดือนมากโข จนวัดต้องถึงขึ้นป้ายขอบริจาคอาหาร   วัดในจังหวัดทางภาคอีสานซึ่งมีการทำเกษตรกรรม อาจมีการให้ชาวไร่ชาวนา ได้เช่ายืมวัวควาย ไปใช้ในฤดูเกษตรสวนมะพร้าวทางใต้ นิยมยืมวัวมากินหญ้าในสวนเพื่อประหยัดกำลังคน 

แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่เป็นข่าวใหญ่ ว่าวัดบางวัดก็มีส่วนร่วมมือในการขอบริจาควัวควาย แต่แล้วกลับส่งต่อไปให้นายทุนขาย และเวียนสต๊อกสัตว์กลับมาให้บริจาคกันได้อีกครั้ง จนกระทั่งสัตว์ตัวนั้นมีอายุเกินกว่าเกณฑ์ที่จะบริจาค ก็จะถูกขายไปยังโรงฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหารต่อไป เพราะอยู่ก็จะเป็นภาระค่าเลี้ยงดูและค่าอาหาร

@@@@@

โรงฆ่าสัตว์ขายไปก็หาใหม่เข้ามาแทน ธุรกิจของโรงฆ่าสัตว์ โดยเฉพาะโรงฆ่าสัตว์ขนาดใหญ่มักจะมีใบสั่งวัวตามปริมาณการจองไว้อยู่แล้ว ดังนั้นการไถ่วัวออกจากโรงเชือดไป ก็ยังคงต้องจัดหาซื้อวัวตัวใหม่เข้ามาเพื่อส่งมอบไปยังลูกค้าให้ได้ครบตามจำนวนที่มีการตกลงไว้แล้ว ในแต่ละวัน วัวที่ถูกเชือดฆ่า รวมถึงการขายซาก มีปริมาณเท่าเดิม ลดลงบ้างในช่วงเทศกาลกินเจ แต่กระนั้นการไถ่ชีวิตโคกระบือเป็นการเพิ่มตัวเลขหมุนเวียนสัตว์ในระบบให้มากขึ้นไป ในขณะจำนวนชีวิตที่ต้องโดนสังหาร ก็ยังคงมีปริมาณเท่าเดิม

ราคาสินไถ่ แบ่งเป็น ราคาหน้าโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งจะคิดจากน้ำหนักตัว คูณด้วยราคาเนื้อวัวต่อกิโลกรัมตามราคาปัจจุบันในตลาด ตัวผู้จะมีราคาถูกกว่าตัวเมีย ยิ่งถ้าเป็นวัวสาวชั้นดี พร้อมเป็นสัดขยายพันธุ์ได้ง่าย จะมีราคาสูงขึ้นไป ราคาของ ลูกวัวตัวผู้หย่านม อายุ 5-8 เดือน จะอยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 บาท 

    ในขณะที่วัวสาวที่พร้อมเป็นแม่พันธุ์อายุ 1-3 ปี จะอยู่ที่ตัวละ 20,000-30,000 บาท   
    วัวสาวจะตกลูกประมาณปีละ 1 ตัว สร้างรายได้ให้ผู้เลี้ยงมากกว่าตัวผู้ในขณะที่ โคขุน หรือ โคที่ขุนด้วยอาหารอย่างดี จนเนื้อแน่น ตัวใหญ่ มักจะได้รับความนิยมในการส่งออกไปยังประเทศเวียดนามในราคาที่สูงขึ้นไปอีก 
    กระนั้น ถ้าเป็นวัวที่บริจาคผ่าน ธนาคารโค-กระบือ ตั้งราคาไถ่ชีวิตวัวไว้ที่ ตัวละ 27,000 บาท และ ควาย 30,000 บาท


@@@@@

หลวงพี่ขี่วัวรวย พบข่าวมากกว่า 3 ครั้งในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา ว่ามีองค์กรการกุศลฉาบหน้าหลายแห่ง ระดมเรียกเงินทุนบริจาคในการไถ่ชีวิตโค-กระบือ บางวัดและสำนักธรรม มีการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างมีประสิทธิผล ถ่ายรูปและออกใบอนุโมทนาบุญให้ผู้บริจาคได้รู้สึกอิ่มบุญกับปัจจัยที่สละไป แต่แล้วก็พบว่า วัดนั้นทำการ*เวียนโค*กลับมาใช้ใหม่ คล้ายกับ สังฆทานเวียน หรือโรงศพเวียน แบบที่มักพบเห็นได้ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ราคาวัว สูงกว่าความเป็นจริง และไม่ได้เพิ่มปริมาณจำนวนวัวที่ไถ่ชีวิตตามยอดบริจาคนั้น

การลดอุปสงค์ คงเป็นเรื่องยากในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว บุญบาปเป็นสิ่งที่ท้าทายสำนึก แต่มักถูกหยิบยกมาใช้ในการต่อสู้กันเสมอระหว่างความศรัทธาและความเจริญทางวัตถุ น้ำตาของวัวแต่ละหยดก่อนเดินเข้าโรงฆ่าสัตว์ โดนหยิบนำมาใช้เป็นโปรไฟล์โฆษณาเชิญชวนบริจาคอย่างมีประสิทธิผล บนความอ่อนโยนขี้สงสารของมนุษย์ ก็มักผุดโอกาสทางธุรกิจมารองรับได้อยู่เสมอ

@@@@@

กรณีศึกษา : โครงการ ฟาร์มแห่งศรัทธา ของศิลปิน “บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” ได้นำวัวที่ได้รับการไถ่ชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์ มาเลี้ยงไว้เอง และดูแลจนวัวเหล่านั้นจนหมดลมหายใจ ไม่ต้องส่งคืนใคร หรือระแวดระวังว่าเกษตรกรจะนำวัวตัวที่ได้รับการไถ่ชีวิตแล้ว กลับไปขายยังโรงฆ่าสัตว์อีกครั้ง  หากโครงการแบบนี้ มีขึ้นในทุกจังหวัด ก็จะสร้างความอุ่นใจให้ผู้บริจาคได้

ส่งท้าย วัวท้องไม่มีอยู่จริง เมื่อความสงสาร ถูกกระแทกใจขึ้นเป็นสองเท่าด้วยคำโฆษณาเชิญชวนให้ไถ่วัวท้องจากโรงฆ่าสัตว์ “ได้บุญเป็นสองเท่า” ใช้สายสัมพันธ์แม่ลูกในการเพิ่มมูลค่าและยอดบริจาค ทั้งนี้ในทางปฏิบัตินั้นเป็นไปได้ยาก เพราะว่าวัวที่ท้อง จะขายได้ราคาสูง ยิ่งถ้ารอให้คลอดก็ได้เงินเพิ่ม ผิดจากหลักเหตุและผล ตลอดจนที่พบประจำคือการ เป็น “ท้องลม” เสียมากกว่า มันก็คงจะคล้ายกับเหล่าศรัทธาที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ




Picture Credit :  Vegetarian-Vegan.com
Reference  : ศูนย์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ โรงฆ่าสัตว์วัฒนามีทโปรดัก
ขอบคุณที่มา : https://today.line.me/th/pc/article/ไถ่ชีวิตโค+ช่องทาง+“ทำบุญ”+หรือช่องทาง+“ทำกิน”-1XPN8z 
By Another View , เผยแพร่ 3 ธันวาคม 2561 เวลา 12.00 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ