ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เชียร์มวย กรรมหนักที่คาดไม่ถึง  (อ่าน 906 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29355
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เชียร์มวย กรรมหนักที่คาดไม่ถึง
« เมื่อ: เมษายน 27, 2019, 07:48:02 pm »
0



เชียร์มวย กรรมหนักที่คาดไม่ถึง

เชียร์มวย เป็นความสนุกเพียงชั่วครู่ที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนักมวยมาแล้วมากมาย บางครั้งกรรมก็ติดจรวดไล่ตามมาทันโดยที่เราไม่ได้เตรียมใจ

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหญิงแก่วัย 75 ปี ที่กินอาหารสุขภาพและออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างฉัน ในวาระสุดท้ายของชีวิตกลับต้องป่วยนอนซมเกือบตาย เพียงเพราะชอบเชียร์มวยเป็นชีวิตจิตใจ!

ฉันและสามี เราสองคนตายายช่วยกันเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน จนสุดท้ายพวกเขาเติบโตแล้วออกไปมีครอบครัวกันหมด แต่พวกเขาก็ไม่เคยทอดทิ้งเรา ทุกเดือนลูกหลานจะส่งเงินมาให้ใช้จ่ายอย่างพอมีพอกิน ไม่เคยลำบากขัดสน


@@@@@@

แต่ถึงอย่างนั้น เราสองคนก็ทำงานทุกวันไม่เคยหยุดนิ่ง งานของเราคือการขับรถประจำทางที่ซื้อมาด้วยตัวเอง ไปรับไปส่งชาวบ้านจากในตลาด หลังเลิกงานเราก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน แล้วเปิดโทรทัศน์ดูรายการโปรด ซึ่งรายการโปรดของฉันคือกีฬามวย ไม่ว่าจะเป็นมวยสากลสมัครเล่น มวยไทยหรือมวยประเภทใดก็ตาม ฉันชอบดูชอบเชียร์ทั้งหมด  แต่ฉันไม่ชวนสามีดูด้วย เพราะเขาไม่ชอบและมักบอกว่า

“ระวังเถอะเชียร์มากลุ้นมากแบบนี้ จะช็อกตายเข้าสักวันนะ ยายแก่แล้ว ลดละบ้างเถอะ เชียร์ให้คนฆ่ากันสู้กันแบบนี้ มันบาปนะรู้ไหม”

ฟังทีไรฉันก็รู้สึกขัดใจและหันไปทะเลาะกับสามีทุกครั้ง ต่อมาฉันจึงย้ายไปดูมวยที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตัวเองนักเพื่อตัดปัญหา

@@@@@@

ใครที่ได้เห็นลีลาการเชียร์มวยของฉันต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉันดูสนุกสนานเหลือเกิน เพราะฉันจะลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งปล่อยหมัดไปพร้อมกับนักมวยในทีวีอย่างออกรสชาติ นักมวยคนไหนที่ต่อยไม่สนุกไม่เต็มที่ ฉันจะตะโกนต่อว่าอยู่หน้าจอ จนเพื่อน ๆ ต้องคอยปรามไม่ให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้ ไม่เพียงแค่นั้น ถ้าฉันรู้ว่าหมู่บ้านไหนจัดแข่งขันมวย ฉันจะรีบไปที่หมู่บ้านนั้นเพื่อจับจองที่นั่งแถวหน้าสุดทันที ไม่ว่าเวทีนั้นจะเล็กหรือใหญ่ จะต้องเสียเงินค่าบัตรแพงแค่ไหนหรือเดินทางไปไกลสักเท่าไรก็ตามเพราะทุกครั้งที่ได้เชียร์มวย ฉันจะตื่นเต้นกับภาพที่ได้เห็น ทั้งหมัด เข่า ศอกที่ลอยละล่องไปยังคู่ต่อสู้ มันทำให้เลือดในกายของฉันสูบฉีด เหมือนได้ขึ้นไปชกบนเวทีนั้นด้วยตัวเอง

เช้าวันหนึ่ง หลังกลับจากไปดูมวยเวทีใหญ่ ฉันประสบอุบัติเหตุพลัดตกลงจากรถประจำทาง ตอนแรกก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากมาย มีเพียงรอยฟกช้ำตามตัวเล็กน้อย ฉันจึงไม่ได้ไปหาหมอ แต่เช้าวันต่อมาฉันกลับพบว่าตามร่างกายมีรอยช้ำไปทั่วทั้งต้นแขน ต้นขา หน้าอก สะโพก หรือแม้แต่บนใบหน้า ไม่เพียงเท่านั้น ฉันเริ่มรู้สึกเจ็บปวดกระดูกสันหลังทุกครั้งที่ยืนหรือเดิน แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจนัก เพราะคิดว่าเดี๋ยวอาการก็คงดีขึ้นเอง แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร รอยช้ำและความเจ็บปวดที่กระดูกสันหลังก็ยิ่งระบม และทุกข์ทรมานมากขึ้น

สามีเห็นท่าไม่ดีจึงพาฉันไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด แต่ไม่ว่าจะไปตรวจสักกี่ครั้ง แพทย์ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าฉันป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่


@@@@@@

หลังจากรับการรักษาในโรงพยาบาลอยู่นานหลายเดือน อาการของฉันก็ไม่ดีขึ้น กลับทรุดลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นเดินไม่ได้  สามีจึงพาฉันไปหาที่พึ่งสุดท้าย นั่นคือวัดประจำหมู่บ้าน  ท่านเจ้าอาวาสท่าทางใจดีออกมาต้อนรับเราสองคนตายายด้วยตัวเอง  เจ้าอาวาสถามฉันซึ่งตอนนั้นต้องนั่งรถเข็นว่า

“เป็นอย่างไรบ้างล่ะโยม  สุขภาพกายไม่ค่อยดี แล้วสุขภาพใจล่ะยังแข็งแรงดีอยู่ไหม”

ฉันตอบท่านว่า
“ไม่สบายทั้งกายและใจเลยเจ้าค่ะ  หลวงพ่อมีมนตร์วิเศษอะไรที่จะช่วยดิฉันได้บ้างไหมเจ้าคะ”

หลวงพ่อยิ้มและตอบฉันกลับมาว่า
“อาตมาไม่มีมนตร์วิเศษอะไรหรอก โรคแบบนี้มันเป็นโรคกรรม…กรรมของใครก็ของคนนั้น…อาตมาว่าร่างกายโยมนี่ดูเหมือนโดนต่อยด้วยหมัดหนักๆ มาเลยนะ พักนี้ได้เชียร์มวยบ้างไหมล่ะ”

@@@@@@

ทันทีที่หลวงพ่อพูดจบ ฉันก็นึกถึงคำเตือนของสามีขึ้นมาทันที
“เชียร์ให้คนฆ่ากันสู้กันแบบนี้ มันบาปนะรู้ไหม…”

ฉันหันไปมองหน้าสามี น้ำตาไหลอาบแก้ม ฉันเข้าใจที่หลวงพ่อพูดโดยไม่ต้องถามอะไรอีกฉันกราบลาหลวงพ่อ พร้อมให้สัญญากับท่านว่า

“ดิฉันจะเลิกเชียร์มวย เลิกสร้างเวรสร้างกรรมแล้วค่ะ มันคงเป็นกรรมของดิฉันเองที่ชอบยุชอบเชียร์ให้คนต่อยตีกัน ต่อไปนี้จะหันมาทำบุญทำทานอุทิศส่วนกุศลแทน”

@@@@@@

หลังจากกล่าวคำมั่นสัญญากับหลวงพ่อแล้ว ฉันก็ทำบุญใส่บาตร สวดมนต์ฟังธรรมไม่เคยขาด แม้ช่วงแรกจะลำบากเพราะร่างกายยังเจ็บป่วย แต่ฉันก็ไม่ย่อท้อ เวลาผ่านไป อาการป่วยของฉันก็ทุเลาลงเรื่อยๆ จนบัดนี้ฉันไม่มีอาการช้ำหรือเจ็บปวดที่กระดูกสันหลังหรืออวัยวะส่วนใดอีกแล้ว และที่สำคัญคือ ฉันเลิกดูมวยอย่างเด็ดขาดนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ความสนุกเพียงชั่วครู่ของฉันสร้างความเจ็บปวดให้กับนักมวยมาแล้วมากมาย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เบียดเบียนคนอื่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วละก็รู้ตัวเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะค่ะ เพราะบางครั้งกรรมก็ติดจรวดไล่ตามมาทันโดยที่เราไม่ได้เตรียมใจ


ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 117
เรื่อง : ล้นหลาม  
Image by : kai kalhh from Pixabay
Secret Magazine (Thailand) , IG @Secretmagazine
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/49062.html
By Therranuch 26 April 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ