ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อธิษฐานอย่างไร.? ไม่ให้เป็นกิเลส  (อ่าน 961 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29483
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อธิษฐานอย่างไร.? ไม่ให้เป็นกิเลส
« เมื่อ: มิถุนายน 22, 2019, 06:19:57 am »
0


อธิษฐานอย่างไร.? ไม่ให้เป็นกิเลส โดย ดร. สนอง วรอุไร

ดร. สนอง วรอุไร ได้แสดงทรรศนะในเรื่องของการ “อธิษฐาน” ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

@@@@@@

การอธิษฐานที่ถูกธรรม

คำว่า “อธิษฐาน” หมายถึง การตั้งจิตปรารถนาให้เข้าถึงความดีงามในกาลข้างหน้า แต่หากอธิษฐานให้เกิดเป็นความชั่วร้าย เช่น อธิษฐานให้คนค้ายาบ้าต้องวิบัติ เช่นนี้เรียกว่า “สาปแช่ง”

เรื่องนี้ในครั้งที่ผู้เขียนบวชเป็นภิกษุ ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดมหาธาตุฯ เคยถามท่านเจ้าคุณโชดกในทำนองที่ว่า
ผู้เขียน : ท่านเจ้าคุณอาจารย์ครับ การอธิษฐานให้เข้าถึงพระนิพพานไม่ถือว่าเป็นกิเลสหรือครับ
ท่านเจ้าคุณโชดก : การจะเข้าถึงพระนิพพานได้จะต้องมีกิเลสหรือหมดกิเลส

เพียงเท่านั้นก็ทำให้ผู้เขียนเข้าใจเรื่องการอธิษฐานได้อย่างถ่องแท้ จึงมิได้ตั้งคำถามเรื่องนี้อีกต่อไป

ดังนั้นเมื่อบุคคลได้อธิษฐานแล้ว ต้องทำเหตุให้ถูกตรง หากอธิษฐานเข้าถึงพระนิพพาน เหตุถูกตรงก็คือต้องพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง แล้วใช้ปัญญาเห็นแจ้งกำจัดกิเลสที่ผูกมัดใจทั้งสิบอย่าง (สังโยชน์ 10) ให้หมดไป เมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อมแล้ว ความสมปรารถนาจึงจะเกิดขึ้นได้

ตรงกันข้าม หากอธิษฐานขอให้รวย อธิษฐานขอให้มีบ้านหลังใหญ่ ถือว่าเป็นกิเลส เพราะเป็นการนำจิตเข้าไปผูกติดเป็นทาสของทรัพย์วัตถุ อธิษฐานขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นกิเลส เพราะเป็นการนำจิตเข้าไปเป็นทาสของโลกธรรม ฯลฯ ต่าง ๆ เหล่านี้ผู้ปรารถนาความพ้นทุกข์จะไม่อธิษฐาน รวมถึงไม่อธิษฐานหรือกระทำเหตุใด ๆ ที่จะนำสู่การเกิดเป็นสัตว์ในสุคติภพ

เพราะผู้ปรารถนาความพ้นทุกข์ย่อมเป็นผู้รู้แจ้งเห็นจริงในกฎแห่งกรรม จึงไม่อธิษฐานให้เข้าถึงโลกิยสมบัติ และไม่ทำเหตุใด ๆ ให้ต้องเวียนตายเวียนเกิดในวัฏสงสารอีกต่อไป ตรงกันข้าม ผู้รู้แจ้งเห็นจริงนิยมอธิษฐานให้เข้าถึงอิสรภาพที่สมบูรณ์ของชีวิต หรืออธิษฐานให้พ้นไปจากอำนาจของกิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์ แล้วทำเหตุให้ถูกตรง การอธิษฐานเช่นนี้จึงไม่ถือว่าเป็นกิเลส


@@@@@@

อธิษฐานบารมี

การอธิษฐานคือการตั้งความปราถนาในสิ่งที่ดีงาม แล้วทำเหตุให้ตรงด้วยตัวเอง ซึ่งนับเป็นบารมีข้อหนึ่งในบารมี 10 ประการ เมื่อบุคคลได้ทำให้เกิดมีขึ้นแก่ตนเองแล้ว ความสำเร็จย่อมเป็นที่หวังได้

การอธิษฐานจึงต่างจากการขอและการบนบาน อันเป็นการกระทำที่แสดงออกถึงความต้องการในสิ่งที่ขาด เหมือนขอทานขอเงิน ซึ่งศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ประพฤติ เพราะวิถีแห่งการขอนั้นไม่ถูกตรงตามธรรม อีกทั้งยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงความด้อยศักยภาพของผู้ขอด้วย

ตรงกันข้าม พระพุทธเจ้าสอนว่า ทุกอย่างต้องทำเหตุให้ถูกตรงด้วยตัวเอง บุญบารมีจึงจะเกิด ดังตัวอย่างเช่นการอธิษฐานของพระพุทธเจ้า ก่อนที่จะมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ได้เสวยพระชาติเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นมนุษย์และเป็นเทวดาอยู่นานหลายกัป เพื่อสั่งสมบารมีให้เต็มเปี่ยม อันเป็นพื้นฐานรองรับการตรัสรู้เป็นพระปัญญาธิกพุทธเจ้า

@@@@@@

อธิษฐานอย่างไรให้ถูกธรรม

การอธิษฐานจะสำเร็จบรรลุผลได้ ผู้อธิษฐานต้องสร้างมหาทานหรือมีบุญใหญ่เป็นพื้นฐานรองรับใจให้ได้เสียก่อน หากทานก็ไม่ทำ บุญก็ไม่มี แล้วตั้งจิตอธิษฐานเลย การอธิษฐานย่อมไม่ได้ผล

การทำบุญที่ใหญ่ที่สุดนั้นคือการปฏิบัติธรรม ส่วนบุญที่ใหญ่รองลงมาคือการสร้างมหาทาน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ถวายทานแด่พระอริยะ ถวายทานแด่พระสงฆ์หมู่มากอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เช่น สร้างศาลาปฏิบัติธรรม สร้างกุฏิให้สงฆ์ สร้างทางเดินจงกรม สร้างถนนหนทางให้ผู้คนสัญจร ฯลฯ

เมื่อได้สร้างบุญใหญ่ให้เกิดขึ้นแก่ตนแล้ว จึงอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา ซึ่งสิ่งนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อการบำรุงกิเลส ยกตัวอย่างเช่น การอธิษฐานให้มีรูปสวยงาม ให้มีทรัพย์สมบัติมาก ให้มีบริวารมาก ให้ได้เป็นใหญ่เป็นโต ฯลฯ เหล่านี้เป็นการอธิษฐานที่เอากิเลสมาทับถมใจ ผู้รู้จริงแท้ไม่นิยมอธิษฐานเช่นนี้ ตรงกันข้าม ผู้รู้จริงแท้นิยมอธิษฐานให้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและมีสัมมาทิฏฐิ มีปัญญาเห็นแจ้ง ได้ดวงตาเห็นธรรม ฯลฯ การอธิษฐานในลักษณะนี้เป็นการอธิษฐานที่ถูกตรงตามธรรม เพราะเป็นไปเพื่อนำพาชีวิตให้เป็นอิสระจากกิเลส หรือให้พ้นไปจากความทุกข์ทั้งปวง


@@@@@@

ทำเหตุให้ตรง

ที่สำคัญคือ เมื่ออธิษฐานแล้วจะต้องทำเหตุให้ถูกตรงด้วย เมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อมจึงจะสมปรารถนาตามคำอธิษฐาน การทำเหตุให้ตรงนี้มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ ใจที่ตั้งมั่น เหมือนวันแรกที่ผู้เขียนไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดมหาธาตุฯ ผู้เขียนได้อธิษฐานด้วยการตั้งใจมั่นว่าจะปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่เป็นเวลา 30 วัน ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น จากนั้นก็ทำเหตุให้ตรงตามที่อธิษฐานไว้ด้วยการปฏิบัติธรรมวันละประมาณ 20 ชั่วโมง คำอธิษฐานจึงบรรลุผล

คุณธรรมอีกประการหนึ่งที่ทำให้การอธิษฐานสำเร็จได้คือ สัจจะ ดังเช่นพระโพธิสัตว์ เมื่อครั้งที่ไปเกิดเป็นพญาปลาช่อนเพื่อบำเพ็ญสัจจอุปบารมี แล้วเกิดฝนแล้ง น้ำในบึงแห้งไปหมด ทำให้ปลาเล็กปลาน้อยตกคลัก ถูกนกต่าง ๆ มาจับไปกินกันเป็นที่สนุกสนาน ปลาทั้งหลายเดือดร้อนจึงต้องพากันมาขอความช่วยเหลือจากพญาปลาช่อน

พญาปลาช่อนซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่จึงอธิษฐานกับท้าวปชุนนเทวราชในทำนองที่ว่า

    “ข้าแต่เทพยดาเป็นผู้มีอำนาจทำให้ฝนตกได้ บัดนี้ญาติของเราเดือดร้อน ตั้งแต่เกิดมาเราอาศัยอยู่ในบึงนี้ด้วยดี โดยไม่เคยทำร้ายสัตว์อื่นใดเลย ทั้งที่ปกติปลาช่อนต้องกินปลาเล็กปลาน้อยเป็นอาหาร แต่เราไม่เคยกินเลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยสัจจอธิษฐานนี้ ขอฟ้าจงคำราม และขอฝนห่าใหญ่จงตกลงมาเถิด”

ด้วยบารมีแห่งสัจจอธิษฐานของพระโพธิสัตว์ ฝนจึงตกลงมาห่าใหญ่ ทำให้เหล่าปลาทั้งหลายรอดตายได้ในที่สุด

นี่คือ อานิสงส์ของสัจจอุปบารมีที่ทำให้คำอธิษฐานเป็นจริงได้ในทันทีราวกับบันดาล


 

ที่มา : เพราะถึงธรรมจึงพ้นโลก โดย ดร. สนอง วรอุไร สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ
Photo by : Ruben Hutabarat on Unsplash
Secret Magazine (Thailand) ,IG @Secretmagazine
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/160297.html
By ying ,20 June 2019
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2019, 06:24:03 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ