ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หนึ่งเดียวในน่าน “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า” ที่วัดหนองแดง จ.น่าน  (อ่าน 1371 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29485
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


หนึ่งเดียวในน่าน “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า” ที่วัดหนองแดง จ.น่าน ศรัทธาหลั่งไหลแห่ชมแน่นวัด


ที่วัดหนองแดง ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน มีประชาชนเดินทางไปกราบไหว้และถ่ายรูป “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า” ซึ่งเป็นต้นไม้ที่แปลกและหาชมได้ยากกันเป็นจำนวนมาก ต้นเดียวในวัดหนองแดง ที่มีผลเป็นฝักแท่งยาวสีเหลือง ผิวสัมผัสนุ่มนิ่ม มีลักษณะคล้ายเนื้อเทียน และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ความยาวฝักส่วนใหญ่ประมาณ 8-15 นิ้ว แต่มีบางฝักยาวถึงประมาณ 3 ฟุต โดยฝักที่เหลืองบางส่วนได้ร่วงหล่นใต้ต้น

ทางด้าน พระครูพิบูลนันทวิทย์ เจ้าอาวาสวัดหนองแดง และเจ้าคณะตำบลเปือ เล่าถึงประวัติที่มาของ ต้นเทียนพระพุทธเจ้า ว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.2538 หรือประมาณ 22 ปีที่แล้ว ทางวัดได้ช่วยกันถางป่ารกร้างภายในบริเวณวัดเพื่อนำพื้นที่มาพัฒนาใช้ประโยชน์ จนได้พบกับหน่อของต้นไม้ดังกล่าวซึ่งบางส่วนถูกถางฟันทิ้งไปแล้ว แต่ต้นไม้ก็ยังพยายามเติบโต จนเจ้าอาวาสได้เก็บรักษาดูแลไว้ และเจริญเติบโตงอกงาม





จากนั้น 3 ปีต่อมา เป็นช่วงเข้าพรรษาในช่วงฤดูฝนเจ้าอาวาสพบว่าฝักของต้นไม้ดังกล่าว มีลักษณะเหมือนเทียน จึงเกิดเป็นคติธรรมว่า ขนาดต้นไม้ยังออกฝักเป็นเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จึงได้ตั้งชื่อว่า “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า”

จากนั้นได้สืบหาข้อมูลของต้นไม้ดังกล่าว ซึ่งพบว่าต้นไม้ชนิดนี้ เป็นพันธุ์ไม้ จากประเทศปานามา แถบเมริกากลาง และมีชื่อเรียกว่า “ต้นเทียน” ซึ่งก็ใกล้เคียงกับชื่อที่ได้ตั้งขึ้นไว้เอง โดยเคยลองสอบถามและค้นหาว่ามีต้นไม้ชนิดนี้ในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดน่านอีกหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าในช่วง 4-5 ปี ก็ไม่มีข้อมูลว่ามีต้นเทียนแบบนี้อีก จึงคาดว่าน่าจะมีต้นเทียนพระพุทธเจ้า เพียงต้นเดียวในจังหวัดน่านและจะออกผลครั้งหนึ่งอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ในช่วงเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี





โดยต้นเทียนพระพุทธเจ้า จะมีใบเขียวขจีและฝักเหลืองเต็มต้นมากที่สุดในช่วงเข้าพรรษา ฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว ส่วนในช่วงฤดูร้อน ใบจะร่วง แต่ก็ยังมีฝักออกตลอด โดยพุทธศาสนิกชนสามารถมาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา ซึ่งภายในวัดนอกจากจะมีต้นเทียนพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีโบราณสถานที่ซ่อนปริศนาและคติธรรมต่างๆ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้นำคำสอนของพระพุทธเจ้า ไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ด้วย

กิจกรรมของวัด หากประชาชนเข้าไปกราบไหว้พระในวัดแล้ว ชาวบ้านจะแต่งกายวิถีของคนไทลื้อที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่น จะประกอบพิธีสืบชะตาแบบไทลื้อ ตามด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญโดยคนไทลื้อ และการกรวดน้ำผ่านตัวปลามงคลลงไปสู่ภพภูมิ และพิธีห่มโพธิ์ ค้ำโพธิ์ เชิญตุงปราสาท สรงน้ำพระเจดีย์แห่งความเมตตา จะทำให้มีคนเมตตารักใคร่ เหมาะทางการค้าขาย ซึ่งวัดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญทุกวัน







เรียบเรียงโดย : ทีมงานเมียงน่านแจ๋วจริง
ขอบคุณที่มา : http://www.nanjaewjing.com/16478?fbclid=IwAR3Q1kSxlFie9JJCqhdOTgDwUsUz1vCJY1uHJrLX2CEpEUmwetoNH1I28VI
22 มิถุนายน 2019
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 23, 2019, 09:28:49 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ