ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "วิบากกรรม แห่ง วจีทุจริต" เราเผลอกันไป มากน้อยแค่ไหน แล้วกับบาปนี้  (อ่าน 871 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29314
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



"วิบากกรรม แห่ง วจีทุจริต" เราเผลอกันไป มากน้อยแค่ไหน แล้วกับบาปนี้

วจีทุจริต ได้แก่ การพูดที่ไม่ดี โกหก นินทา ใส่ความ และพูดจาไร้สาระ การพูดเหล่านี้มีผลกรรมอย่าไรต่อผู้พูดบ้าง ซีเคร็ตได้หาคำตอบมาให้ค่ะ เพื่อที่จะได้เปิดประตูอบายทันก่อนที่จะสายเกินไป

การพูดจาสนทนาเป็นกิจกรรมหนึ่งที่อยู่กับมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน เมื่อจิตลงสู่ฐานที่ตั้งแห่งจิต (มหาภูตรูป หรือร่างกาย) ประสาทสัมผัส (อายตนะ) ย่อมทำงาน จิตเคลื่อนไปที่ดวงตา ย่อมมองเห็น จิตเคลื่อนไปที่ปาก ย่อมลิ้มรส หรือสนทนา จิตเคลื่อนไปที่หู ย่อมได้ยิน จิตเคลื่อนไปที่จมูก ย่อมได้กลิ่น จิตเคลื่อนไปส่วนไหนของกาย ในส่วนนั้นย่อมมีความรู้สึก นี้คือการทำงานของจิตที่ประสานกับกาย

จิตแปรเปลี่ยนได้เป็น 2 สถานะคือ กุศลจิต (จิตดี) และ อกุศลจิต (จิตไม่ดี) การแปรเปลี่ยนเกิดขึ้นจากเจตนา คือสิ่งที่เข้ามาปรุงแต่ง (สังขาร หรือ คิด) การกระทำ (กรรม) สะท้อนมาจากเจตนาของจิต จิตมีเจตนาที่ดี การกระทำย่อมดี (กุศลกรรม) จิตมีเจตนาที่ไม่ดี การกระทำย่อมไม่ดี (อกุศลกรรม) ตามไปด้วย

@@@@@@

ดังที่ท่าน ส.ชิโนรสกล่าวว่า กรรมเกิดขึ้นจากความคิด หากจะเปลี่ยนกรรมต้องเปลี่ยนความคิด (เจตนา) นั่นเอง (ติดตามอ่านบทความเรื่องนี้เพิ่มเติมเพื่อเข้าเรื่องเจตนายิ่งขึ้นได้ที่ >>> เปลี่ยนความคิดเท่ากับเปลี่ยนกรรม ธรรมะไขข้อข้องใจเรื่องกฎแห่งกรรม โดย ส.ชิโนรส)

การพูดจาที่ไม่เป็นปิยวาจา ย่อมนำมาสู่การผิดศีล (มุสาวาทาฯ) เช่น พูดปด มดเท็จ พูดจาไร้สาระ ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ทำให้ผู้พูดหาความสุขไม่ได้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องปิยวาจาไว้ในหลักธรรมที่มีชื่อว่า “สังคหวัตถุ 4” หมายถึงองค์ธรรม 4 ประการที่ต้องสงเคราะห์ หรือเกื้อกูลต่อกัน การพูดที่ไม่เป็นปิยวาจาก็คือวจีทุริต การพูดที่เกิดจากอุปนิสัยที่ไม่ดี

@@@@@@

เหตุที่มาของวจีทุจริต (การพูดที่ไม่ดี) มาจากจิตที่เป็นโมหะ ขาดสติหลงไปกับความสนุกคึกคะนองปาก เช่น นินทา ใส่ความผู้อื่น เพื่อต้องการให้เขาเดือดร้อน ผลกรรมที่ตามสนองคือการเกิดในทุคติภูมิ ได้แก่ เดรัจฉาน อสุรกาย เปรต และนรก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในสัพพลหุสสูตรว่า

ผู้พูดปด (มุสาวาท) ย่อมเกิดในทุคติภูมิเป็นโทษหนัก ถ้าโทษเบาคือเกิดเป็นคนที่พูดหาความจริงไม่ได้ ผู้พูดยุยงให้แตกกัน  (ปิสุณาวาจา) ย่อมเกิดในทุคติภูมิเป็นโทษหนัก ถ้าโทษเบาคือเกิดเป็นคนแล้วถูกทำให้แตกคอกับเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร ผู้พูดจาหยาบคาย (ผรุสวาจา) ย่อมเกิดในทุคติภูมิเป็นโทษหนัก ถ้าโทษเบาคือเกิดเป็นคนยังได้ยินเรื่องที่ไม่ดีจากผู้อื่น เช่น โดนด่าว่า โดนโพทะนาด้วยคำพูดที่หยาบคาย ผู้ที่พูดจาเพ้อเจ้อ (สัมผัปลาปะ) ย่อมเกิดในทุคติภูมิเป็นโทษมาก ถ้าโทษเบาคือเกิดเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ



อรรถกถาเล่าถึงพราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่า “วัสสการพราหมณ์” ครั้งพระมหากัจจายนเถระลงมาจากเขาคิชกูฎ พราหมณ์ท่านนี้กล่าวว่าหน้าของพระเถระรูปนี้คล้ายลิง เมื่อพระพุทธองค์ทรงได้ยินดังนั้น ทรงตักเตือนให้วัสสการพราหมณ์ขอขมาพระมหากัจจายนเถระ หากไม่ขอขมาจะต้องเกิดเป็นลิงอยู่ในพระเวฬุวัน (วัดที่พระพิมพิสารถวายไว้ในพระพุทธศาสนา)

วัสสการพราหมณ์เชื่อว่า ต้องเป็นจริงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสอย่างแน่นอน จึงให้บริวารนำต้นผลไม้นานาชนิดมาปลูกไว้ในบริเวณพระเวฬุวัน ต่อมาวัสสการพราหมณ์สิ้นบุญลงก็มาเกิดเป็นลิงตามที่พระพุทธเจ้าตรัส (สามารถศึกษาประวัติของพระมหากัจจายนเถระได้ที่ >>> รูปสมบัติงดงามไม่ใช่คำตอบสุดท้าย พระสังกัจจายน์  พระผู้เป็นที่รัก)

หรืออีกเรื่องหนึ่ง ครั้งที่พระมหากัจจายนเถระยังไม่เนรมิตรูปให้เป็นอย่างที่เราทราบกันในปัจจุบัน ท่านเป็นพระเถระที่มีรูปลักษณ์ที่งดงาม จนกระทั่งบุตรเศรษฐีคนหนึ่งในเมืองโสเรยยะ เผลอพูดไปว่า หากได้พระเถระรูปนี้มาเป็นภรรยาคงดีไม่น้อย และแล้วชายคนนั้นกลับกลายเป็นผู้หญิงไป เพราะผลแห่งอกุศลจิตที่คิดไม่ดีต่อพระอรหันต์ (สามารถศึกษาจุดจบของบุตรชายเศรษฐีคนนี้ได้ที่ >>> พระโสไรยเถระ จากชายกลายเป็นหญิง เพราะอกุศลจิต)

@@@@@@

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในอัปปมาทสูตรว่า ผู้ที่ไม่ประพฤติวจีทุจริต หรือในสิ่งที่ไม่สมควรต่าง ๆ อันเป็นทุจริต (นิสัยที่ไม่ดี) ไม่ต้องเกรงกลัวต่อความตาย เพราะอย่างไรก็ได้ไปเกิดในสุคติภูมิ

ดังนั้นการคิดดี พูดดี ทำดี ทำกรรม 3 อย่างสุจริตให้ถึงพร้อม คือหนทางหลีกเลี่ยงอบายภูมิอย่างแนนอน การเป็นผู้มีปิยวาจา ย่อมเป็นผู้มีสัมมาวาจา คือเป็นผู้ที่พูดจาได้อย่างถูกต้อง ย่อมเป็นหนทางไปสู่การเกื้อกูลทั้งตนเองและผู้อื่นอย่างมีความสุข



ที่มา :-
www.84000.org/อัปปมาทสูตร
www.84000.org/สัพพลหุสสูตร
www.84000.org/อรรถกถาโคปกโมคคัลานสูตร
พระโสไรยเถระ จากชายกลายเป็นหญิง เพราะอกุศลจิต
รูปสมบัติงดงามไม่ใช่คำตอบสุดท้าย พระสังกัจจายน์ พระผู้เป็นที่รัก
เปลี่ยนความคิดเท่ากับเปลี่ยนกรรม ธรรมะไขข้อข้องใจเรื่องกฎแห่งกรรม โดย ส.ชิโนรส
ภาพ : https://pixabay.com
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/165425.html
ฺัฺBy nintara1991 ม20 July 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ