ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การสวดมนต์ด้วยความเคารพจริง ถึงสวดน้อยก็มี 'อานิสงส์ใหญ่' : หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  (อ่าน 1002 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29504
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


การสวดมนต์ด้วยความเคารพจริง ถึงสวดน้อยก็มี 'อานิสงส์ใหญ่' : หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ตอบปัญหาธรรมญาติโยมเกี่ยวกับ "อานิสงส์ของการสวดมนต์" ไว้ดังนี้

จะสวดมนต์มาก สวดมนต์น้อย อันนี้ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่กำลังใจ ถ้าเราสวดมนต์ไม่ได้เลย ก็ตั้งใจว่า "นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ" ซึ่งแปลว่า "ข้าพเจ้าขอเคารพพระพุทธเจ้า พระอรหันต์องค์นี้" เพียงเท่านี้ก็เหลือแหล่แล้ว ว่าด้วยความเคารพจริงๆ ตั้งใจจริงๆ หรือถ้าว่ามากกว่านี้ "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ" ไปอีก ๓ วาระ ตามที่ว่ากันมา เวลาที่ว่านั้น ก็ว่าด้วยความตั้งใจ ด้วยเคารพ ด้วยความจริงใจ เวลานั้นอานิสงส์สูงขึ้น "เป็นทั้ง พุทธานุสสติ ด้วย เป็นทั้ง ธัมมานุสสติ ด้วย เป็นทั้ง สังฆานุสสติ ด้วย"

@@@@@@

เอาเพียงแค่อย่างเดียวแค่นี้ บรรดาท่านพุทธบริษัทให้ท่านสังเกตว่าถ้าถึงเวลาจะบูชาพระ ถ้าวันไหนยังไม่ได้บูชาพระ วันนั้นไม่สบายใจ ต้องบูชาพระให้ได้ ถ้าจิตใจของท่านเป็นอย่างนี้ แสดงว่าท่านมีกำลังใจเป็น ฌานในพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ

คำว่า "ฌาน" นี่เป็นกำลังสูง คำว่า "ฌาน" ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ต้องไปนั่งขัดสมาธิจนเป็นฌาน ไอ้อย่างนั้นเรียกว่า "ฝึกความเป็นฌาน" ฌานจริงๆ ที่ทรงตัวก็คือ จิตนึกอยู่ เมื่อถึงวาระจริงๆ จิตต้องการบูชาพระ

ถ้ามีพระพุทธรูป นั่งมองดูพระพุทธรูปเป็น พุทธานุสสติ กล่าวถึงพระธรรมเป็น ธัมมานุสสติ กล่าวถึงพระสงฆ์เป็น สังฆานุสสติ ถ้าอย่างเก่งจริงๆ ก็ว่า อิติปิ โส อีกสักจบก็จะดีมาก บท อิติปิ โส บทต้นพรรณนาความดีของพระพุทธเจ้า บท สวากขาโต พรรณนาความดีของพระธรรม บท สุปฏิปันโน พรรณนาความดีของพระสงฆ์ แค่เท่านี้ บรรดาท่านพุทธบริษัท เพียงแค่นี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ถ้าทำได้ทุกวัน เวลาจะตายมันลงนรกกันไม่ได้แน่


@@@@@@

ตอบปัญหาธรรมญาติโยม

ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ สวดมนต์แบบในใจ กับ สวดมนต์แบบออกเสียง อานิสงส์เท่ากันไหมคะ…?

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ : ไม่เท่าหรอก เพราะมันเหนื่อยไม่เท่ากัน…อานิสงส์ ถ้าแปลตามความหมายแปลว่า ผลที่จะพึงได้รับ ลีลาการสวดมนต์ในใจก็ไม่แน่ สุดแท้แต่คน บางคนนึกในใจ จิตเขาฟุ้งซ่าน ใช่ไหม...บางคนออกเสียงเหนื่อยเกินไป ในใจดีกว่า ก็รวมความว่า สุดแล้วแต่ ทำอย่างไหนจิตจะมีสมาธิดีกว่ากัน บางคนนึกในใจไม่ได้หรอก จิตฟุ้งซ่าน ต้องว่าออกเสียงดังๆ ถ้าอย่างหลวงพ่อออกเสียงดังไม่ดี นึกในใจดีกว่า ก็สุดแล้วแต่คนนี่ ผลก็ต้องอยู่ที่ว่าคนใดจิตมีสมาธิดีกว่าและสวดมนต์ได้ดีกว่ากัน ต้องถือตามนั้นนะ

การสวดมนต์มีอานิสงส์ใหญ่ สวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่ อานิสงส์ใหญ่จริงๆ อยู่ที่เจตนา จิตมีความเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์จริง และเวลาสวด สวดด้วยความเคารพจริง ถึงสวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่ ถ้าสวดว่าเรื่อยเปื่อยไปไม่ได้ตั้งใจ ว่าส่งเดช อย่างนี้ว่ามากก็มีอานิสงส์น้อย

ทีนี้ถ้าจะถามว่า สวดมนต์ กับ ภาวนา อย่างไหนจะมีอานิสงส์มากกว่ากัน? ถ้าสวดมนต์ อย่างเก่งก็แค่อุปจารสมาธิ ถ้าภาวนา สั้นๆ จิตเป็นฌานได้ ต่างกัน ทีนี้ถ้าคนภาวนาส่งเดชก็ไม่เป็นเรื่องเหมือนกัน แต่ภาวนาส่งเดชก็ดีกว่าไม่ภาวนาเลย ใช่ไหม…
 


ขอบคุณที่มา :
https://www.naewna.com/likesara/428891?fb_comment_id=2858778770858789_2859224554147544
https://static.naewna.com/uploads/news/source/428891.jpg
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2019, 07:09:58 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ