กิจวัตร 5 ข้อ ช่วยกระตุ้นสมอง ให้มีชีวิตชีวา และสดชื่นขึ้นได้ทุกวันช่วงนี้สาวๆ หลายคนอาจต้องใช้งานสมองกันอย่างหนักหน่วง จนทำให้เกิดอาการสมองล้า ตื้อ มึนงง และคิดอะไรไม่ออก ดังนั้น มันจะดีกว่ามั้ย ถ้าหากเรามีเทคนิคและวิธีดีๆ ในการช่วย กระตุ้นสมอง ให้มีชีวิตชีวาและพร้อมใช้งานได้แบบเต็มที่ทุกวัน
@@@@@@
1. สร้างความเคยชินใหม่ๆ
การปลุกสมองให้ตื่นตัวสามารถทำได้ง่ายๆ แค่เปลี่ยนการกระทำให้ต่างจากเดิม “เพียงเล็กน้อย” เนื่องจากกิจกรรมใดก็ตามที่ทำซ้ำบ่อยๆ จะทำให้สมองเกิดความเคยชินจนทำได้อย่างคล่องแคล่ว โดยไม่ต้องคิด ส่งผลให้สมองไม่ได้รับการกระตุ้น ปริมาณออกซิเจนส่งไปหล่อเลี้ยงสมองน้อยลง และสมองเข้าสู่ภาวะประหยัดพลังงาน
แต่หากเปลี่ยนระบบการทำงานที่เป็นไปโดยอัตโนมัตินี้ให้ต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อย สมองก็จะกลับมาทำงานโดยต้องใช้ความคิดอีกครั้ง อย่างเช่น เวลาอาบน้ำ อาจใช้มืออีกข้างที่ไม่ถนัดถูกตัว หรือ เวลาทำความสะอาดบ้าน อาจจัดเรียงลำดับการทำความสะอาดของแต่ละห้องใหม่
@@@@@@
2. ตื่นนอนภายในเวลาที่กำหนด เพื่อทำ “กิจกรรมยามเช้า”
การใช้ชีวิตยามเช้าเป็นสิ่งสำคัญมาก และเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างกระฉับกระเฉง จึงจำเป็นที่จะต้องปลุกสมองให้ตื่นขึ้นในช่วงเช้า และกำหนดเวลาให้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกหิว เมื่อหิวก็จะกินอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อสำคัญในการปลุกสมองให้ตื่นตัว
ดังนั้น เราจึงควรปลุกสมองในยามเช้าให้ตื่นตัว ว่องไว และกระฉับกระเฉงเสมอ วิธีที่ดีที่สุดคือการเคลื่อนไหวร่างกาย ออกไปยืดเส้นยืดสายข้างนอก สูดอากาศสดชื่นในตอนเช้าให้เต็มปอด พร้อมๆ กับขยับแขนขา เพื่อให้ระบบไหลเวียนเลือดเป็นไปอย่างราบรื่น
@@@@@@
3. สร้างกิจกรรมในแบบฉบับของตัวเองเพื่อยกระดับความตื่นตัวในยามเช้า
มีหลายคนที่ตื่นขึ้นในตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่ยังไม่ตื่นตัวเต็มที่ ดังนั้นเราจึงควรสร้างกิจกรรมหรือวางแผนในการปลุกตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มขั้นตอนที่ซับซ้อนเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน อาทิ เปิดโทรทัศน์ดูข่าวเช้าทันทีที่ตื่น หรือทำท่าบริหารเบาๆ ตอนตื่นนอน เช่น ท่านวดกกระตุ้นลำไส้ ดังนั้น ทุกคนควรตรวจสอบตัวเอง และหาวิธีที่เหมาะสมในการปลุกตัวเองตอนเช้าดู
แต่จำไว้ว่า สิ่งใดที่ทำจนเป็นอัตโนมัติย่อมส่งผลให้สมองได้รับการกระตุ้นน้อยลง ดังนั้นจึงควรหมั่นเปลี่ยนรูปแบบหรือเพิ่มขั้นตอนใหม่ๆ เข้าไปเสมอ
@@@@@@
4. ตั้งโจทย์ให้มื้ออาหารค่ำ
การทำอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ คือการทำให้สมองทำงานแบบประหยัดพลังงาน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจ ควรหาโอกาสออกไปกินอาหารตามร้านอร่อยๆ แล้วลองแกะสูตรมาทำเองที่บ้านดู
หรืออาจลองคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ ขึ้นมาเอง สิ่งนี้ต้องอาศัยพลังในการสร้างสรรค์ คิดค้นสิ่งใหม่ และแม้จะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ก็ได้กระตุ้นสมองให้ทำงาน แต่ถ้าทำแล้วสำเร็จ เราก็จะได้รับรู้รสชาติแห่งความสำเร็จนั้นด้วย
@@@@@@
5. ทำจิตใจให้เบิกบานเสมอ
การเลือกเสื้อผ้าโดยคำนึงถึงกาลเทศะเป็นการฝึกสมองที่ยอดเยี่ยมวิธีหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ดาราหรือนางแบบทั้งหลายที่ต้องพบเจอผู้คนมากมาย ต้องพยายามดูแลภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีเสมอ สมองจึงจดจำว่าสายตาของคนอื่น เปรียบเสมือนกระจกส่องตัวเอง ดังนั้นเราจึงควรสร้างภาพแวดล้อมให้เหมือนกับตัวเองอยู่ในที่สาธารณะ สร้างความจำเป็นขึ้นมาให้เกิดความรู้สึกอยากลุกขึ้นมาแต่งตัวให้สวยหล่อและดูดี
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีโอกาสพิเศษอะไรให้ต้องแต่งตัว ก็ควรใส่เสื้อผ้าที่ทำให้อารมณ์สดใส การทำเรื่องซับซ้อนเหล่านี้ให้ตัวเองจะช่วยป้องกันไม่ให้สมองเหี่ยวเฉาได้
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : หนังสือ “เทรนสมองให้ไกลอัลไซเมอร์“
ขอบคุณที่มา :
https://goodlifeupdate.com/lifestyle/175515.htmlBy sineenow ,26 September 2019