พิมพ์

[raponsan]

 

"วัดศรีมงคล" ไหว้พระ ชมทุ่งนาเขียวขจีที่บ้านก๋ง จ.น่าน



จุดชมวิวของวัดศรีมงคล

ในช่วงนี้ที่ “น่าน” กำลังเขียวขจีด้วยต้นข้าวที่กำลังเติบโต เรามีจุดชมวิวนาข้าวที่สดชื่นสวยงาม ชมดอยภูคาสูงใหญ่งามสง่า พร้อมทั้งยังสามารถชมวัดงามและพิพิธภัณฑ์ของเก่าที่น่าสนใจ ทั้งหมดนี้สามารถมาชมได้ที่ “วัดศรีมงคล” หรือวัดบ้านก๋ง ที่บ้านก๋ง ตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน


คุ้มประตูโขงวัดศรีมงคล


เจดีย์และวิหารหลวงของวัด

"วัดศรีมงคล" เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ พ.ศ.2395 และมี “หลวงปู่ครูบาก๋ง” หรือพระครูมงคลรังสี เป็นพระสงฆ์ที่ชาวบ้านในแถบนี้ต่างให้ความเคารพนับถือ โดยเมื่อ พ.ศ.2474 คณะศรัทธาชาวบ้านก๋งได้นิมนต์หลวงปู่มาอยู่ประจำที่วัดบ้านก๋ง ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้าง ไม่มีพระภิกษุจำพรรษา

เมื่อหลวงปู่ครูบาก๋งรับนิมนต์มาอยู่วัดบ้านก๋ง ก็ได้เริ่มพัฒนาวัดโดยชักชวนชาวบ้านบูรณะซ่อมแซมและสร้างกุฏิ วิหาร อุโบสถ ฯลฯ รวมถึงอบรมสั่งสอนชาวบ้านให้หมั่นเข้าวัด รักษาศีล ฟังธรรม มีความสามัคคี จนชาวบ้านต่างเคารพศรัทธา และวัดบ้านก๋งก็มีความเจริญรุ่งเรืองสืบมา โดยหลวงปู่ได้มรณภาพเมื่อ พ.ศ. 2532 สิริรวมอายุ 88 ปี พรรษา 67


ทางเดินประดับด้วยร่มและโคมล้านนา

ปัจจุบันเจ้าอาวาสวัดบ้านก๋งคือพระครูรังสีธรรมานันท์ ที่พัฒนาวัดบ้านก๋งสืบต่อมา โดยทุกวันนี้นอกจากจะเป็นแหล่งเผยแผ่พุทธธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของของอำเภอท่าวังผา เนื่องจากความงดงามของวัดและทิวทัศน์โดยรอบ

เริ่มตั้งแต่บริเวณทางเข้าวัดจากริมถนนสาย 1170 จะพบกับคุ้มประตูโขงไม้สักอันงดงาม ศิลปะล้านนา ผ่านคุ้มประตูเข้าไปจะมองเห็นเจดีย์และวิหารหลวง ส่วนทางเข้าวิหารจะต้องเดินอ้อมมาด้านหลังซึ่งเป็นลานชมวิวทุ่งนาที่สวยงามด้วย แต่ก่อนจะไปชมวิวขอเข้าไปกราบพระด้านในกันก่อน


ด้านหน้าวิหารวัดศรีมงคล


พระประธานด้านในวิหาร

พระประธานด้านในมีอายุร้อยกว่าปี ทั้งยังมีธรรมาสน์เก่าแก่ที่สวยงาม รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แม้จะวาดขึ้นใหม่ แต่ก็มีความงดงามในสไตล์ดั้งเดิมคล้ายกับจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ อีกทั้งยังมีความน่าสนใจตรงที่บริเวณตอนล่างของผนังฝั่งประตูทางเข้าวิหารได้วาดเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์น้ำนองหลวง (มหาอุทกภัย) ท่วมเมืองยม พ.ศ.2424 ซึ่งเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เมืองยม บริเวณริมแม่น้ำย่าง จนเป็นเหตุให้ชาวเมืองยมต้องย้ายที่อยู่มายังพื้นที่ที่สูงขึ้น ส่วนพื้นที่ติดกับแม่น้ำย่างปัจจุบันชาวบ้านเรียกว่า “นาบ้านห่าง” บริเวณนี้ก็ยังพบข้าวของเครื่องใช้โบราณอยู่


จิตรกรรมฝาผนังเรื่องน้ำท่วมใหญ่บ้านยม


จุดถ่ายภาพพร้อมร่มกระดาษให้ถ่ายรูป

กราบพระเสร็จแล้วออกมาชมวิวที่ทุ่งนากว้างใหญ่ที่ลานวัด บริเวณนี้ทางวัดทำเป็นจุดชมวิวถ่ายภาพ มีร่มกระดาษให้ถือเพิ่มความเก๋ มองไปด้านล่างเห็นทุ่งนาเขียวขจีมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงใหญ่ของดอยภูคา พร้อมกันนั้นมีกระท่อม “ฮักนาน่าน” ซึ่งเป็นร้านกาแฟและสะพานไม้กลางทุ่งนาให้ลงไปชมวิวและถ่ายภาพกันได้อย่างใกล้ชิด หรือจะนั่งกินกาแฟที่ร้านเฮือนโอชากาแฟอิ่มบุญที่วัดแล้วชมวิวทุ่งนาที่ระเบียงก็ได้


สะพานไม้ไผ่ทางเดินสู่ทุ่งนา


ทุ่งนาตอนนี้กำลังเขียวสวย


หุ่นหลวงปู่ครูบาก๋ง ด้านบนพิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี

นอกจากนั้นแล้วที่วัดก็ยังมี “พิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี” (หอคำหลวง) เป็นเรือนไม้สักทองทรงล้านนา เมื่อขึ้นไปชมด้านบนจะได้พบกับหุ่นเหมือนหลวงปู่ครูบาก๋ง และข้าวของโบราณล้ำค่าต่างๆ อาทิ พระพุทธรูป ตู้พระธรรม อาวุธ หม้อไหโบราณ ใบเกิดของคนล้านนาโบราณที่จารึกบนใบลาน เป็นต้น


ข้าวของโบราณมากมายในพิพิธภัณฑ์

ถ้าหากใครมีโอกาสผ่านมาที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดมาเที่ยวชม "วัดศรีมงคล" ยิ่งได้มาช่วงห้าฝนที่นาข้าวกำลังเขียวขจี ก็ยิ่งฟิน

“วัดศรีมงคล” ตั้งอยู่ในตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ติดต่อสอบถามโทร.08 6183 4256 หรือเฟซบุค : วัดศรีมงคล-ก๋ง ตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานน่าน โทร.0 5471 1217, 0 5471 1218


ขอบคุณ : https://mgronline.com/travel/detail/9620000094472
เผยแพร่ : 3 ต.ค. 2562 ,16:29 ,โดย : ผู้จัดการออนไลน์
Facebook : Travel @ Manager