« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2019, 06:31:13 am »
0
อย่าเฉยอย่างลิง ที่กลัวไม้เรียวสมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตา ตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ มีความสำคัญดังนี้
๑. ขอให้พวกเจ้ายุติกรรมที่จักจองเวรกับบุคคลที่มาก่อกวนการทำงานให้กับพระพุทธศาสนา ในวัดท่าซุงของพวกเจ้าลงเสียให้ได้ จงให้อภัยแก่เขา เพราะในไม่ช้าผลของกรรมที่เขาทำเอาไว้ จักสนองเขาเองในภายหน้า เพลานี้จิตของเขาไม่มีความสุข เป็นทุกข์ เพราะไฟโมหะ - โทสะ - โลภะ เผาผลาญ
๒. พวกเจ้าจงยังจิต ให้สงบอยู่ ในธัมมวิจยะ ต่อไปเถิด อริยสัจหรือกฎของกรรมเที่ยงแท้อยู่เสมอ ขอให้ไตร่ตรองจุดนี้ให้ดีๆ สร้างอภัยทานให้เกิด จิตจักมีความสงบเยือกเย็นและจักยอมรับนับถือในกฎของกรรม จิตจักไม่เป็นเวรเป็นภัยแก่ตนเอง คือ รักษาอารมณ์ของตนไว้ให้สงบสุขด้วยพรหมวิหาร ๔ ไม่เบียดเบียนตนเอง ทั้งทางกาย - วาจา - ใจ ก็จักพลอยไม่เบียดเบียนกาย-วาจา-ใจของผู้อื่นด้วย
๓. รักษาพรหมวิหาร ๔ เอาไว้ให้ดีๆ ที่ให้พวกเจ้าวางเฉยกันใน ๒ - ๓ วันนี้ เพื่อให้รู้จักข่มใจอยู่ในตัวอุเบกขาบ้าง ถ้าไม่สั่งอย่างนั้น ก็จักไม่รู้จักอุเบกขากันเลย (ก็ยอมรับว่าเฉยได้ตามคำสั่งเท่านั้น แค่ได้ชั่วคราว)
@@@@@@
๔. นั่นเป็นเพียงระงับชั่วคราว ยังไม่ใช่ของจริง เพราะยังไม่ถูกกระทบกระทั่ง เพียงแต่ให้รู้ว่า ระงับให้สงบแล้ว แล้วเป็นสุขอย่างนี้แหละ (ก็นึกถึงลิงที่ถูกฝึกให้อยู่นิ่งๆ เพราะกลัวไม้เรียว สภาพจิตในขณะนี้ก็เป็นอย่างนั้น)
๕. ทรงตรัสว่า ถูกต้อง ใหม่ๆ ลิงจักไม่ยอมเฉย ที่ต้องยืนเฉยๆ เพราะกลัวไม้เรียว แต่พอนานๆ ไปถูกขนาบเข้าบ่อยๆ ลิงก็รู้ว่า นี่เขาสั่งให้ยืนเฉยๆ แต่พวกเจ้าเป็นมนุษย์ ต้องรู้จักใช้ปัญญา มิใช่จักมายืนเฉยๆ อย่างลิงกลัวไม้เรียวไม่ได้ คือ เมื่อถูกสั่งให้เฉยเพื่อจักได้รู้จักตัวอุเบกขาเอาไว้ คือ การรู้จักระงับอารมณ์ไม่ให้ดิ้นรนไปในเรื่องต่าง ๆ ใหม่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าเฉยจริงๆ นั้นเป็นอย่างไร (อย่างลิง) เมื่อถูกสั่งให้เฉย ควรจักพิจารณาตามไปว่า อารมณ์เฉยนั้นเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ (ให้รู้ด้วยตนเอง และยอมรับว่าเป็นสุข)
๖. เมื่อเป็นสุข ควรจักเฉยต่อไปไหม ให้ถามตนเองอยู่อย่างนี้ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนลิง คิดแต่กลัวไม้เรียวอย่างเดียว ต้องใช้ความเพียรบวกปัญญา ให้จิตมันยอมรับความจริงจนวางเฉยได้ในทุก ๆ กรณี นี่เรียกว่าอุเบกขา ทั้งกาย - วาจา - ใจ โดยยอมรับกฎของกรรม อภัยทานเกิดที่ตรงนี้
๗. บุคคลหากพรหมวิหาร ๔ ทรงได้ไม่เต็มทั้ง ๔ ตัว คำว่าจักอภัยทานให้แก่ผู้ใดนั้นเป็นของไม่จริง เพราะยังเป็นผู้ไม่รู้จักอภัยทานให้แก่กาย - วาจา - ใจของตนเองก่อน ขอให้พวกเจ้ารู้จุดนี้ให้ดีๆขอบคุณ :
http://www.tangnipparn.com/page20_b00k7.htmlรวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2019, 07:31:56 am โดย raponsan »

บันทึกการเข้า

ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ