ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อย่า.!! ตกหลุมพราง ของ กิเลสตัณหา  (อ่าน 772 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อย่า.!! ตกหลุมพราง ของ กิเลสตัณหา
« เมื่อ: เมษายน 25, 2020, 06:29:56 am »
0



อย่า.!! ตกหลุมพราง ของ กิเลสตัณหาโดย หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ

คำว่าหลุมพรางนั้นคือ ความหลอกลวงของกิเลสที่ใช้นโยบายหลอกจิต ทำให้จิตหลงเชื่อตามมารยาสาไถยอันแยบยล เพราะกิเลสหลอกจิตด้วยอุบายต่าง ๆ นี้เอง จิตจึงหลงเชื่ออุบายที่เอามาหลอกจิตนั้น กิเลสจึงได้เลือกคัดจัดสรรหาเอาสิ่งที่จิตชอบใจมาเป็นชนวน เพื่อให้จิตได้ไปตามแผนที่ กิเลสตัณหา ได้วางไว้ อาศัยสมมติและสังขารเป็นเครื่องมือ

สังขารภายในคือ จิตสังขาร สังขารภายนอกคือ รูปสังขาร สังขารภายในก็ต้องอาศัยสมมติภายนอกมาประสานกัน ขยายมโนภาพไปตามสมมตินั้น ๆ ออกไปให้วิจิตรพิสดาร ให้เกิดเป็นวิมานในอากาศ วาดมโนภาพเหมือนกับความฝัน เหมือนกับว่าจะเป็นความจริงจนจิตเกิดความหลงใหลใฝ่ฝัน

เช่น ลาภคือความร่ำรวย ก็ยังเข้าใจว่าจะถูกหวยแต่ละงวดครั้งละหลายล้าน จึงได้ทุ่มเทซื้อกัน คิดว่าจะได้ตามความปรุงแต่งของกิเลส แม้ฝันเล็กฝันน้อยก็ตีเป็นเลขเป็นหวยไป หรือได้ยินข่าวว่าอาจารย์ดังอยู่ที่ไหน จะอยู่ไกลไปลำบากสักเท่าไร ไม่สำคัญ ต้องตามให้ถึงที่ นี้คือกิเลสหลอกจิต มิหนำซ้ำพระเกิดความรำคาญก็บอกส่งเดชไป กิเลสเข้าใจว่าจริงก็ทุ่มเทเต็มที่

@@@@@@

นี้ก็คือหลุมพรางของกิเลสตัณหา เช่น ยศ สรรเสริญ และความสุขในโลกีย์ที่มีในกามคุณ คือ รูป เสียง กลิ่น รส การสัมผัส ก็เข้าใจว่าจะมีความสุขแต่อย่างเดียว จิตจึงจมดิ่งปักลงไปจนถอนตัวไม่ขึ้น และไม่มีสติปัญญาพิจารณาดูมุมกลับบ้างเลย

จิตจึงไม่รู้ไม่เข้าใจว่าความสุขในกามคุณนี้เป็นเหตุแห่งความทุกข์ จิตจึงได้ตกหลุมพรางของกิเลสตัณหาตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ถ้านักภาวนาจะปล่อยจิตให้หลงระเริงในกามคุณดังความเป็นอยู่ในขณะนี้ จิตก็จะถูกกิเลสตัณหาหลอกให้ตกหลุมพรางต่อไปในอนาคต จะเกิดอีกในโลกนี้กี่ชาติกี่ภพก็จะตกหลุมพรางของกิเลสอยู่ตลอดไปไม่มีที่สิ้นสุด

นี้ก็เพราะจิตขาดความรอบคอบ จิตไม่มีปัญญา จิตไม่มีความฉลาด จึงได้พลาดท่าให้กิเลสตัณหาอย่างไม่มีประตูที่จะแก้ไข ทั้งจำเป็นและทั้งจำใจอดทนต่อความทุกข์อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น นี้ก็คือผลแห่งความสุขของกามคุณ ที่จิตมีความเข้าใจว่าเป็นความสุข ดังคำว่า

ถ้าต้องการในความสุขจะพบความทุกข์ที่ตอนปลาย ถ้าจิตชอบความสบายจะพบร้ายตอนปลายมือ


 

ที่มา : ทวนกระแสโลก พบกระแสธรรม โดย หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ
Photo by Kristopher Roller on Unsplash
Secret Magazine (Thailand) ,IG @Secretmagazine
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/165593.html
By ying ,8 August 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ