ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยว ๖ วัด เมืองชัยนาท | ถวายพระประทีปและผ้าอาบพรรษามหามงคล  (อ่าน 857 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ได้เที่ยวได้บุญ กับ การถวายพระประทีปและผ้าอาบพรรษามหามงคล เพื่อรับความสุขแบบนี้ดี๊ดี ที่จังหวัดชัยนาท

ช่วงก่อนวันเข้าพรรณษา นางจิรารัตน์ มีงาม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรีร่วมกับ อาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ จัดกิจกรรมในวันนี้เป็นเส้นทางบุญครั้งที่ 26 ของอาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ เรามาที่จังหวัดชัยนาทภายใต้ concept ที่ว่า "ถวายพระประทีปและผ้าอาบพรรษามหามงคล เพื่อรับความสุขแบบนี้ดี๊ดีที่จังหวัดชัยนาท"

นางจิรารัตน์ มีงามผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรีเปิดเผยว่าจังหวัดชัยนาทเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคกลางเป็นจังหวัดเล็กๆแต่จริงๆ มีความเป็นมาอันยาวนานทางประวัติศาสตร์จะเห็นได้ว่าวัดวาอารามมีจำนวนมากไม่แพ้จังหวัดใดในภาคกลาง  แต่ยิ่งกว่านั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ มีความเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่างที่อาจารย์เอ็มมี่ไปสำรวจมาแล้วจะรู้ว่าแต่ละแห่งมีจุดเด่นมีความสำคัญไม่เหมือนกันหลายคนอาจจะรู้จักวัดเพียงไม่กี่วัดที่มีชื่อเสียง 

แต่จริงๆ มีวัดที่เล็กๆ วัดที่สำคัญกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ มากมายแล้วก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันด้วยถ้ามีโอกาสอย่างไรก็ตามนะคะ ถ้าเราสามารถเที่ยวได้ ไปชมได้ ไปสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ทุกวัดเลยก็ยิ่งดีค่ะ มาคราวนี้อาจารย์เอ็มมี่พาไปทั้งหมด 6 วัด เป็นวัดที่สำคัญทั้งสิ้นซึ่งก็มีวัดอื่นๆ อีกในเส้นทางบุญครั้งที่ 26  ครั้งนี้เพิ่งมาจังหวัดชัยนาทเป็นครั้งแรกและจะมีครั้งต่อไปอีกเพราะว่ามีวัดอื่นๆ อีกมากมาย




กิจกรรมในครั้งนี้เราเน้นการให้คนได้เข้าวัดวาอาราม ได้รู้จักหลักธรรมของศาสนา ได้รู้จักศิลปะตามยุคตามสมัย เพราะจังหวัดชัยนาทเป็นจังหวัดที่เก่าแก่ที่แฝงซ่อนเร้นไปด้วยอารยธรรมหลายสมัย ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมลพบุรี อารยธรรมอยุธยา และอารยธรรมสุโขทัย แต่ละวัดมีความก่าแก่ที่ซ่อนลึกมาก ซึ่งจะต่างจากจังหวัดอื่นตรงที่ว่าจังหวัดชัยนาทมีศิลปะลึกและซ่อนไว้อยู่ "ถ้าเป็นจังหวัดอื่นเขาจะมีเส้นทางที่เปิดเผย"

แต่จังหวัดชัยนาทเป็นเมืองเล็กๆ ก็จะเป็นที่เส้นทางที่ไม่ถูกเปิดเผยยิ่งนัก แต่ว่าตอนนี้จังหวัดชัยนาทนี้ได้เริ่มที่จะเปิดและหันมาโปรโมตจังหวัดตัวเองให้คนมาท่องเที่ยวในเชิงศาสนามากขึ้น แล้วก็วัตถุมงคลจากเกจิดังๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อหลายๆ วัด อาทิ หลวงพ่อย้อย-วัดทรงเสวย, หลวงปู่ศุข-วัดปากคลองมะขามเฒ่า,หลวงปู่นะ-วัดหนองบัว




วัดที่เรามาในวันนี้เก่าๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น "วัดป่าสัก"เป็นวัดแรก  เกจิอาจารย์ชื่อดังนั่นก็คือ "หลวงพ่อกำจัด" ตอนนี้ท่านยังคงมีชีวิตอยู่

มาวัดที่สองคือ "วัดพระบรมธาตุ" พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าอาวาสก็เป็นคณะจังหวัดเป็นพระเถรานุเถระใหญ่ที่ผู้คนนับถือมาก

แล้วมาวัดที่สาม "วัดทรงเสวย" ซึ่งเป็นวัดตามรอยประพาสต้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ที่ได้เคยเสด็จประพาสต้นและค้างอ้างแรมที่นี่และทรงเสวยพระกระยาหารร่วมกับพระราชโอรสและข้าราชบริพารที่นี่ เขาจึงเรียกว่า "วัดทรงเสวย" คนจึงนิยมมาที่วัดทรงเสวยเพราะมีความเชื่อกันว่าถ้าได้มากินอาหารที่วัดทรงเสวยเมื่อกลับไปจะได้มีความสุข เสวยสุขอิ่มหมีพีมัน อายุมั่นขวัญยืน ที่วัดก็จะเลี้ยงก๋วยเตี๋ยว เส้นหมี่ หมายถึง อายุวัฒนะ อายุมั่นขวัญยืน




จากนั้นวัดที่สี่เป็น "วัดพระแก้ว" วัดพระแก้วเป็นโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากนะครับ เรียกว่าเป็นราชินีของเจดีย์ในเอเซียอาคเนย์ได้ "หลวงพ่อพระฉาย" เป็นหลวงพ่อพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิิ์ เป็นศิลปะร่วมสมัยขอมที่เข้าสู่อู่ทอง จะมีการสลัก "ทับหลังพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณในภาพกลับหัว" เพราะว่าการที่ทรงช้างเอราวัณของพระอินทร์ เพราะมีความเชื่อกันว่าพระอินทร์ทรงบันดาลทุกสิ่งทุกอย่าง เจดีย์องค์นี้หมายถึงเจดีย์เก็จแก้วมณี
 


ผู้คนเดินทางมาขอที่นี่มักจะขอเรื่องอาชีพหน้าที่การงาน การเงิน ขอพรแล้วมักจะจะสำเร็จ "หลวงพ่อพระฉาย"  จะให้ตามความต้องการ ที่วัดพระแก้วแห่งนี้ถ้าเราย้อนรอยไปดูอาณาจักรหริภุญชัยในสมัยเจ้าแม่จามเทวี จะเห็นได้ว่าเจดีย์จะคล้ายกันมาก

จากนั้นมาต่อวัดที่ 5 "วัดมหาธาตุ" จะสังเกตได้ว่าชื่อวัดมหาธาตุจะมีอยู่ทุกจังหวัด สังเกตได้ง่ายว่าจังหวัดไหนที่มีอารยธรรมที่เก่าแก่มักจะมีชื่อวัดมหาธาตุอยู่ในจังหวัดนั้น




นั่นก็คือเป็นวัดที่มีพระบรมสารีริกธาตุอันยิ่งใหญ่เขาจึงเรียกว่าวัดมหาธาตุ ที่วัดแห่งนี้จะมี "หลวงพ่อพระหมอ" เป็นหลวงพ่อที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บคนเป็นโรคภัยไข้เจ็บอะไรมาบนบานสานกล่าวหรือมาขอพรจากท่านแล้ว มีความเชื่อกันว่ามักจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ชาวชัยนาท อำเภอสวรรคบุรี ต่างมีความเชื่อและนับถือเป็นอย่างมาก

ที่วัดแห่งนี้เป็นโบราณสถานที่ร่วมสมัย โดยผสมผสานอารยธรรมลพบุรี อู่ทองและสุโขทัยมารวมกันอยู่ที่นี่ หากคุณได้มาที่วัดมหาธาตุ อำเภอสวรรคบุรี จังหวัดชัยนาท คุณจะนึกว่าคุณได้กลับไปอยู่ที่จังหวัดสุโขทัยน้อยๆ เลยนะครับ ที่ด้านหลังจะมีวิหารคล้ายกับที่จังหวัดสุโขทัย

พอเราขอพรจากหลวงพ่อพระหมอเสร็จ เราก็มาเข้าสู่ "วัดโพธาราม" เป็นวัดที่ 6 ซึ่งวัดโพธารามจะอยู่ตรงกันข้ามกับวัดมหาธาตุ เรียกว่าอยู่คนละซอย

แต่ว่าอารยธรรมไม่ทิ้งกันเลยเพราะว่าที่นี่ได้ขุดค้นพบ "พระหิน" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะทาวารวดีอันเก่าแก่มีอายุเป็นพันปี ซึ่งเชื่อกันว่า มีสักการะที่พระหินองค์นี้จะทำให้เรามีจิตใจที่กล้าแกร่งใครที่มีความทุกข์ มีความน้อยเนื้อต่ำใจ ให้มาขอพรท่านจะเกิดความมุมานะเกิดขึ้น และเขาเชื่อกันว่า "หลวงพ่อหิน" จะบันดาลโชคขอพรสิ่งใดมักจะประสบความสำเร็จ เป็นที่เลื่องลือในเรื่องความประสบความสำเร็จ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณจะต้องมาสัมผัสเอง




นอกจากหลวงพ่อหินแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ "หลวงพ่อผอม"เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่า "หลวงพ่อผอม" แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ชาวบ้านละแวกนี้ได้ประจักษ์จากคนใกล้จะเสียชีวิตเข้าโรงพยาบาลในอาการโคม่า เขาเชื่อกันว่าหลวงพ่อผอมไปเข้าฝันและรักษาคนๆ นั้นจนหาย และหากใครมาบนบานสานกล่าวกับหลวงพ่อผอมก็หายป่วย นั่นก็เลยเป็นที่มาที่ไปว่า ใครได้มาขอพรจาก "หลวงพ่อผอม" ก็จะมีแต่ความสุขและมีสุขภาพที่แข็งแรงอายุมั่นขวัญยืน

อาจารย์เอมมี่อยากจะบอกว่ าทริปเส้นทางบุญครั้งที่ 26 ครั้งนี้เป็นทริปแห่งสุขภาพ อย่างวัดพระบรมธาตุ-มีบ่อน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนเชื่อกันว่ารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ เพราะเป็นบ่อน้ำทิพย์ที่มีอายุมากกว่า 1,100 ปี เพราะสร้างตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย อยากจะบอกว่าทริปครั้งนี้เป็นทริปเส้นทางบุญเพื่อตามรอยอารยะแห่งพุทธะและเพื่อสุขภาพ หรือที่เรียกว่า "พุทธะเทวะวารีบำบัด" นั่นเอง

ในทริปครั้งต่อไปอาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์คิดว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนกันยายนจะทำทริปไปไหว้พระที่จังหวัดลพบุรีเพราะมีวัดที่อยู่นอกเมืองลพบุรีแต่มีความสำคัญมาก แล้วถัดจากนั้นก็จะมีทริปต่อไปที่จังหวัดเพชรบุรีเป็นทริปแห่งการถือศีลกินเจ ซึ่งก็จะเป็นทริปเพื่อสุขภาพอีกนั้นแหละ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นทริปของอาจารย์เอมมี่เป็นการทำบุญไหว้พระเสริมสิริมงคลตามความเชื่อแล้ว




เรายังเน้นในเรื่องเพื่อสุขภาพอีกด้วย ให้จับต้องได้ในทริปที่เราทำเส้นทางการท่องเที่ยวแห่งนี้ นอกจากจะได้รับความสุขกายสุขใจแล้วเรายังได้รับความรู้ด้านอารยธรรมประวัติศาสตร์เพราะฉะนั้นผู้ที่ร่วมทริปกับอาจารย์เอมมี่ จะได้รับพลังความรู้ พลังแห่งความเชื่อ พลังแห่งสุขภาพ ซึ่งครบครันลงตัวกับชีวิตมากเลยครับ



ขอบคุณที่มา : https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/436599
11 กรกฎาคม 2563 - 00:00 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 12, 2020, 06:35:27 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ