ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "มีเงินน้อย" อยากได้อานิสงส์มากๆ ต้องทำบุญอย่างไร.?  (อ่าน 1010 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



"มีเงินน้อย" อยากได้อานิสงส์มากๆ ต้องทำบุญอย่างไร : หลวงพ่อฤๅษี ตอบปัญหาธรรม

ผู้ถาม : “ลูกเป็นคนยากจนมีเงินน้อย อยากจะได้อานิสงส์มาก ๆ จะทำบุญอย่างไรดีคะ…?”

หลวงพ่อ :  “คืออานิสงส์จริง ๆ ต้องทำบุญให้มากที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้ สมมุติว่าเรามีเงินอยู่ ๑๐ บาท จะไปมาที่นี่เสียค่ารถ ๖ บาท กินก๋วยเตี๋ยว ๓ บาท ได้ครึ่งชามแล้ว หมดไป ๙ บาท เหลือ ๑ บาท เขียนที่หน้าซองเลยว่า เงินนี้ถวายสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน อันนี้อานิสงส์มากเหลือเกิน จำนวนเงินเขาไม่จำกัด เขาจำกัดกำลังใจ

ถ้ากำลังใจมุ่งด้านดีนะการทำบุญมาก ๆ คำว่า “ทำมาก” หมายความว่า ทำบ่อย ๆ แต่คำว่า “บ่อย” ไม่ต้องทุกวันก็ได้นะ คำว่า “มาก” หมายความว่า ทำเต็มกำลังที่พึงทำ ไม่ใช่ขนเงินมามาก เวลาทำบุญ ต้องดูก่อนว่า ค่าใช้จ่ายเรามีความจำเป็นเพียงไร ไอ้เงินที่มีความจำเป็นอย่านำมาทำบุญ มันจะเดือดร้อนภายหลัง และให้เหลือส่วนนั้นไว้บ้าง แล้วแบ่งทำบุญพอสมควร

และประการที่ ๒ การทำบุญถ้าใช้วัตถุมาก แต่กำลังใจน้อย ก็มีอานิสงส์น้อย ถ้าหากใช้วัตถุน้อย กำลังใจมีมาก ก็มีอานิสงส์มาก อย่างถวายสังฆทานที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทนำมานี่ ลงทุนไม่มาก แต่อานิสงส์มหาศาลความจริง ถ้าจะพูดถึงอานิสงส์กันจริง ๆ ละก็ รู้สึกว่าจะมากกว่าจัดงานที่บ้านหรือที่วัดตั้งเยอะแยะ

ทั้งนี้เพราะว่าอะไร เพราะว่าถวายสังฆทานเราทำกันแบบเงียบ ๆ ไม่มีกังวล การบำเพ็ญกุศลแต่ละคราว ถ้ามีกังวลมาก อานิสงส์มันก็น้อย เพราะว่าจิตที่เราเข้าสู่กุศล มันห่วงงานอื่นมากกว่า ไม่ตั้งจิตโดยเฉพาะและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

การถวายสังฆทานในหมู่ตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ตามพระวินัยท่านเรียกว่าคณะสงฆ์ ถ้าต่ำกว่านั้นเป็นคณะบุคคล ถ้าบุคคลเดียวเป็นปาฏิปุคคลิกทาน ทานโดยเฉพาะ ทีนี้การถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์เป็นหมู่นี้มีอานิสงส์มาก

@@@@@@@

เรื่องนี้ก็มีตัวอย่าง คนที่มีทรัพย์น้อย ทรัพย์มาก อย่างท่านอินทกะเทพบุตร กับอังกุระเทพบุตร ไงล่ะ

ท่านอังกุระเทพบุตร ทำบุญนอกเขตพระพุทธศาสนา เวลานั้นพระพุทธศาสนาไม่มี ตั้งโรงทาน ๘๐ โรง ให้ทานถึงสองหมื่นปี เลี้ยงคนกำพร้า คนตกยาก คนเดินทาง พอตายจากความเป็นคน ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทวดาที่มีบุญน้อยที่สุด เพราะเขตของบุญเล็กไป คนไร้ศีลไร้ธรรม ใช่ไหม…?

ตรงกันข้าม ท่านอินทกะเทพบุตร เกิดเป็นคนจน พ่อตาย ตัดฟืนเลี้ยงแม่ ก็ไม่ได้ตัดขายมากมาย เอาแค่วัน ๆ พอกินพอใช้ไปวัน ๆ วันหนึ่งพระสงฆ์เดินผ่านไปที่นั้น ท่านมีโอกาสได้ถวายทาน ในฐานะไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน คนจนจะมีอะไรมากนักใช่ไหมล่ะ เพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น อาศัยคุณความกตัญญูรู้คุณอย่างหนึ่ง แล้วก็ถวายสังฆทานหนึ่ง สองอย่างด้วยกัน ตายแล้วไปเป็นเทวดาที่มีบุญมากที่สุดในดาวดึงส์ นอกจากพระอินทร์แล้วไม่มีใครโตกว่า”




ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/555135
วันพุธ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 19.37 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ