ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเผชิญกับคนโหดร้ายอำมหิต ท่านจะคิดอย่างไร  (อ่าน 2039 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28595
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ถ้าเผชิญกับคนโหดร้ายอำมหิต ท่านจะคิดอย่างไร

            การเป็นนักเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้นหากยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ที่พระ พุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้ว แม้แต่ความตายก็มิใช่ปัญหา เพราะตั้งความปรารถนาเพื่อให้หลักธรรมของพระพุทธศาสนาตั้งมั่นในจิตใจของ ประชาชน แม้จะเขามีความโหดร้ายอำมหิตจิตวิปลาสสักปานใดก็ตาม
 
            พระ เถระที่ถือว่าเป็นยอดแห่งนักเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีหลักการมั่นคงหนักแน่นคือพระปุณณมันตานีบุตร ครั้งหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อทูลลาไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังดินแดน ที่ถือว่ามนุษย์มีความโหดร้ายที่สุดแห่งหนึ่งคือสุนาปรันตะชนบท

            พระ ปุณณะก่อนจะเดินทางไปยังสุนาปรันตะชนบทได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อขอคำชี้ แนะ พระพุทธเจ้าได้สอบถามว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจะทำอย่างไร ดังที่ปรากฎในปุณโณวาทสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ (14/754/36) มีเนื้อหาโดยสรุปดังต่อไปนี้

            พระ พุทธเจ้าถามว่า “พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทดุร้ายหยาบช้านัก  ถ้าพวกเขาจักด่า  จักบริภาษเธอ  เธอจักมีความคิดอย่างไรในมนุษย์พวกนั้น"
 
            พระ ปุณณะทูลตอบว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักด่า  จักบริภาษข้าพระองค์ ข้าพระองค์จักมีความคิดในพวกเขาอย่างนี้ว่าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้  ยังดีนักหนาที่ไม่ให้การประหารเราด้วยฝ่ามือ พระเจ้าข้า”

            พระพุทธเจ้าถามต่อไปว่า “ถ้าเข้าการประหารเธอด้วยฝ่ามือ  เธอจักมีความคิดอย่างไร”
            พระปุณณะทูลตอบว่า "ข้าพระองค์จักคิดว่า ดีนักหนาที่ไม่ให้การประหารเราด้วยก้อนดิน” 
            พระพุทธเจ้าถามต่อไปว่า “ถ้าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทจักให้การประหารเธอด้วยก้อนดินเล่า”
            พระปุณณะทูลตอบว่า “ข้าพระองค์ก็จักคิดว่าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้  ยังดีหนักหนาที่ไม่ให้การประหารเราด้วยท่อนไม้"





            พระพุทธเจ้าถามต่อไปว่า “ถ้าเขาจักให้การประหารเธอด้วยท่อนไม้เล่า”
            พระปุณณะทูลตอบว่า“ข้าพระองค์จักคิดว่าพวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้ ยังดีนักหนาที่ไม่ให้การประหารเราด้วยศาตรา"
            พระพุทธเจ้าถามต่อไปว่า “ถ้าเข้าจักให้การประหารเธอด้วยศาตราเล่า”
            พระปุณณะทูลตอบว่า “ข้าพระองค์จักคิดว่า พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทนี้  ยังดีนักหนาที่ไม่ปลิดชีพเราเสียด้วยศาตราอันคม”

 
            พระพุทธเจ้าถามต่อไปว่า “ถ้าพวกเขาจักปลิดชีพเธอเสียด้วยศาตราอันคมเล่า  เธอจักมีความคิดอย่างไรในมนุษย์พวกนั้น”

            พระ ปุณณะทูลตอบว่า “ข้าพระองค์จักคิดว่ามีเหล่าสาวกของพระผู้มีพระภาค  ที่ึอึดอัดเกลียดชังร่างกายและชีวิต  พากันแสวงหาศาตราสังหารชีพอยู่ เราไม่ต้องแสวงหาสิ่งดังนั้นเลย  ก็ได้ศาตราสังหารชีพแล้ว ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้สุคต  ข้าพระองค์จักมีความคิดในมนุษย์พวกนั้นอย่างนี้ พระเจ้าข้า"

            พระ พุทธเจ้าจึงอนุโมทนาว่า “ดีละๆ  ปุณณะ เธอประกอบด้วยทมะและอุปสมะดังนี้แล้ว  จักอาจเพื่อจะอยู่ในสุนาปรันตชนบทได้แล  เธอจงสำคัญกาลที่ควรในบัดนี้เถิด” 
     
           จาก นั้นท่านพระปุณณะยินดีอนุโมทนาพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว ลุกจากอาสนะ ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคทำประทักษิณ  แล้วเก็บเสนาสนะถือบาตรจีวรเดินทางจาริกไปยังสุนาปรันตชนบท เป็นอันว่า ท่านพระปุณณะอยู่ในสุนาปรันตชนบทนั้น ท่านพระปุณณะได้ให้พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทกลับใจแสดงตนเป็นอุบาสกประมาณ  500  คน กลับใจแสดงตนเป็นอุบาสิกาประมาณ  500  คน  ภายในพรรษานั้นเอง  และตัวท่านได้ทำให้แจ้งซึ่งวิชชาสามภายในพรรษานั้นเหมือนกัน
 
             พระที่คิดได้อย่างนี้จะมีสักกี่รูป แค่เขาพูดไม่เข้าหูเพียงไม่กี่คำก็หน้าดำหน้าแดง ไม่อยากพบเห็นหน้าคนเหล่านั้นแล้ว แต่พระปุณณะยังคิดในแง่ดี แม้ขณะที่เขากำลังจะฆ่า ไม่ต้องหาศตราวุธให้เหนื่อย นับว่าเป็นพระที่หายากมาก





            อย่าว่าแต่มนุษย์ที่มีความโหดร้ายเลย แม้แต่ช้างป่ายังฟังภาษาธรรมะรู้เรื่อง ดังกรณีของหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่ขาวกำลังบำเพ็ญเพียรในป่า มีช้างตัวหนึ่งคอยรบกวนข้างที่พัก ช้างพยายามสอดงวงเข้ามาแต่ไม่ถึงเพราะเป็นเงื้อมหิน แต่ช้างก็ไม่ยอมหนีไปไหน หลวงปู่ขาวจึงตัดสินใจออกไปพูดกับช้างให้รู้เรื่อง

            โดยแอบหลังต้นไม้หน้าที่พักแล้วเริ่มต้นพูดกับช้างว่า “พี่ชาย น้องขอพูดด้วยสักคำสองคำ ขอพี่ชายจึงฟังคำของน้อง พี่ชายเป็นสัตว์ของมนุษย์นำมาเลี้ยงไว้ในบ้านเป็นเวลานานจนเป็นสัตว์บ้าน ความรู้สึกทุกอย่างตลอดจนภาษามนุษย์ที่เขาพูดกันและพร่ำสอนพี่ชายมาตลอดนั้น พี่ชายรู้ได้ดีทุกอย่างยิ่งกว่ามนุษย์บางคนเสียอีก

             ดังนั้นพี่ชายควรรู้ขนบธรรมเนียมและข้อบังคับของมนุษย์ ไม่ควรทำอะไรตามใจชอบ เพราะการกระทำบางอย่างแม้จะถูกใจเรา แต่เป็นการขัดใจเขาก็มิใช่ของดี ต่อไปนี้ขอให้พี่ชายรับศีลห้า และพยายามรักษาให้ดี"   จากนั้นจึงบอกช้างว่า "ขอให้ พี่ชายไปได้แล้ว"

            ช้างยืนนิ่งสักครู่แล้วก็เดินจากไป ตังแต่นั้นมาช้างไม่เคยมารบกวนอีกเลย
            สัตว์ ยังรับรู้ถึงพลังแห่งเมตตาของพระพุทธศาสนาได้ คนแม้โหดร้ายอำมหิตสักปานใดก็ตาม ก็มักจะพ่ายแพ้ต่อความดี ในช่วงเทศกาลแห่งวันมาฆบูชา เรามาช่วยกันสร้างความดี ส่งเสริมคนดีให้มีจำนวนมากขึ้น โลกจะได้อยู่กันอย่างสันติสุข

 

พระมหาบุญไทย  ปุญญมโน เรียบเรียง 26/02/53
ที่มา  http://www.cybervanaram.net/index.php?option=com_content&view=article&id=44:2010-02-25-16-50-36&catid=5:2009-12-17-14-44-06&Itemid=21
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2012, 12:03:48 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Whan

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 10
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ถ้าเผชิญกับคนโหดร้ายอำมหิต ท่านจะคิดอย่างไร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 06:22:42 pm »
0
คิดหาเหตุคะ

ว่าเหตุใด เขาจึงโหดร้าย

แล้วเขาโหดร้ายจริงหรือ เปล่า

หรือโหดร้ายเฉพาะ กับ บางคน บางประเภท


จากนั้น สิ่งที่จะทำต่อไป แน่นอน คือ มองๆๆๆ

มองเข้ามาที่ตัวเราเอง ให้เข้าใจตัวเองมากที่สุด

เลิกมองภายนอก เลิกมองคนอื่น เลิกมองสิ่งแวดล้อม

สำรวจด้วยใจเป็นกลาง แล้วจะได้คำตอบ ที่เกิดจากปัญญา

ว่าควรทำอย่างไร ต่อไป..........
บันทึกการเข้า

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ถ้าเผชิญกับคนโหดร้ายอำมหิต ท่านจะคิดอย่างไร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 07:48:45 pm »
0
สำหรับ เนื้อเรื่องนี้ไม่เหมาะกับปุถุชนคนทั่วไป ที่ไม่มีกำลังใจในการปฏิบัติครับ

เพราะถ้าหากเป็นเราที่ยังวนเวียนอยู่ในโลกนี้ สมควรที่จะออกห่าง เพื่อรักษาชีวิต ไว้ก่อน




ส่วนสำหรับ พระภิกษุผู้เป็นพระโยคาวจร และ พระอริยะบุคคลนั้น พึงต้องตั้งสติในความไม่ประมาท

พระในยุคครั้งพุทธกาล เป็นพระผู้มีกำลังใจในการสละชีวิต เพื่อธรรมะ แต่สำหรับยุคนี้ แล้วอาจจะต้อง

พิจารณาให้รอบคอบในมรรค ในผลก่อนที่จะทำการเสียสละลงไป



 เพราะยุคนี้ เวไนยะมีมากกว่า อุคติตัญญู จะเห็นได้ว่าพระบางรูป บางองค์ ยังต้องตกระกำลำบากเพราะ

การเสียสละให้กับธรรมะ มีมากมายในยุคนี้ ส่วนมากก็เป็นเช่นนั้น

 คนสมัยก่อน เขาใช้วิธีสังเกตุคนที่ กิริยาอาการ การพูด และ หลักธรรม

แต่ในปัจจุบันนี้ สังเกตยากกว่าเมื่อก่อน เพราะเดี๋ยวนี้คนโหดร้าย นั้น มีรูปงาม ก็มาก ในครั้งพุทธกาลไม่ได้

มีมาก จึงมีชื่อติดปาก เช่น นางมาคันธิยา เป็นต้น มีรูปงาม แต่ ใจทราม



สรุป ครับ

เอาภาษิตไทย ก่อนนะครับ สำหรับเรานักภาวนามือใหม่ ครับ


  รู้หลบ เป็น ปีก รู้หลีก เป็น หาง ครับ เจอคนใจทรามหยาบช้า ห่างไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย

ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ไม่ควรปลดปลงชีวิตตนเอง เพื่อคนใจทราบหยาบช้า ครับ


 :67:
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;