ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถอดรองเท้าใส่บาตร หรือ ถอดรองเท้าก่อนที่จะใส่บาตร | อันไหนควรทำ.?  (อ่าน 2217 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29334
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ถอดรองเท้าใส่บาตร หรือ ถอดรองเท้าก่อนที่จะใส่บาตร | อันไหนควรทำ.?

ตลกที่ไม่ควรขำจนลืมสาระ มีคำแนะนำอันเป็นที่รู้กันว่า เวลาใส่บาตรควรถอดรองเท้าก่อน หรือ อย่าใส่บาตรทั้งที่กำลังสวมรองเท้าอยู่ คำแนะนำนี้มีคนเอาไปคิดมุก “ถอดรองเท้าใส่บาตร” คือ ถอดรองเท้าก่อนที่จะใส่บาตร เพราะสวมรองเท้าด้วยใส่บาตรด้วย เป็นการไม่เคารพพระ คนคิดเป็นมุกว่า ถอดรองเท้า แล้วก็เอารองเท้าใส่บาตรแทนอาหาร นี่คือถอดรองเท้าใส่บาตร กะจะให้ขำตรงนี้

  “ใส่รองเท้าได้ไหม” คือ ข้อฉงนว่า เวลาจะใส่บาตร สวมรองเท้าอยู่ ใส่บาตรได้ไหม.? พูดสั้นๆ ใส่รองเท้าได้ไหม (เวลาใส่บาตร)
   คนก็เอาไปคิดเป็นมุกว่า ใส่ข้าว ใส่แกง ใส่ขนม ของพวกนี้ใส่บาตรได้ แล้วใส่รองเท้าล่ะได้ไหม คือ เอารองเท้าใส่บาตรด้วยได้ไหม.? กะจะให้ขำตรงนี้
   ถ้าจะว่าไปแล้ว ต้องยอมรับว่าคนที่คิดมุกแบบนี้เป็นคนที่รู้ภาษาไทยดีมากๆ แต่น่าเสียดายที่มุ่งแต่จะเล่นสนุก แบบเดียวกับพวกตลกที่เอาพระเณรมาล้อเลียน

การใส่บาตรนั้นเป็นบุญกิริยาที่สำคัญ เมื่อเป็นเรื่องบุญกุศลก็ไม่น่าจะเอามาทำเป็นเรื่องตลก อันที่จริง ทาน ศีล ภาวนา เป็นหลักไตรสิกขาของชาวพุทธ เป็นสิ่งที่ควรเคารพ อย่างเลวๆ ถ้าไม่เคารพก็อย่าเอามาพูดเล่น พูดอย่างนี้ก็คงมีคนอยากบอกว่า อย่าเครียดสิลุง

นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะทำความเข้าใจกันบ้าง คือ เรามักจะเข้าใจกันว่า ต้องเล่นตลก ต้องพูดตลก ต้องพูดล้อเลียนเล่น ต้องเอาเรื่องใต้สะดือมาพูดเล่นเฉียดไปเฉียดมา แบบนั้นจึงจะถือว่าไม่เครียด ใครไม่ทำแบบนั้น หรือไม่สนุกกับการทำแบบนั้น ถือว่าเป็นคนเครียด

@@@@@@@

เครียดหรือไม่เครียด เอาอะไรเป็นเกณฑ์ นักเรียนบาลีย่อมจะเคยได้เห็นคำว่า

    "อถโข ภควา … ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา …"
    พระผู้มีพระภาคทรงทำให้…เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ด้วยธรรมีกถา(ถ้อยคำอันประกอบด้วยธรรม)

    หรือถอดคำกิริยาเป็นคำนามว่า สันทัสสนา สมาทปนา สมุตเตชนา สัมปหังสนา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายความหมายคำทั้ง ๔ ไว้ดังนี้

     1. สันทัสสนา : การให้เห็นชัดแจ้ง หรือชี้ให้ชัด คือ ชี้แจงให้เข้าใจชัดเจน มองเห็นเรื่องราวและเหตุผลต่างๆ แจ่มแจ้ง เหมือนจูงมือไปดูเห็นประจักษ์กับตา
     2. สมาทปนา : การให้สมาทาน หรือชวนให้ปฏิบัติ คือ อธิบายให้เห็นว่าเป็นความจริง ดีจริง จนใจยอมรับที่จะนำไปปฏิบัติ
     3. สมุตเตชนา : การทำให้อาจหาญ คือ เร้าใจให้แกล้วกล้า ปลุกใจให้คึกคัก เกิดความกระตือรือร้น มีกำลังใจแข็งขันมั่นใจที่จะทำให้สำเร็จ ไม่กลัวเหน็ดเหนื่อยหรือยากลำบาก
     4. สัมปหังสนา : การทำให้ร่าเริงหรือปลุกให้ร่าเริง คือ ทำบรรยากาศให้ร่าเริง สดชื่นแจ่มใส เบิกบานใจ ให้ผู้ฟังแช่มชื่นมีความหวัง มองเห็นผลดีและทางสำเร็จ


@@@@@@@

ในฐานะชาวพุทธ เรามีวิธีสนุกร่าเริงแบบพุทธอยู่แล้ว ทำไมไม่เอามาใช้ ผมไม่ได้ต่อต้านการเล่นสนุกแบบชาวโลก แต่มีความเห็นว่า ถ้าอยากจะสนุกแบบนั้นก็มีเรื่องทางโลกๆ ที่สามารถเอามาเล่นสนุกได้อีกเยอะแยะไป ถ้าเคารพธรรม ควรหลีกเลี่ยง อย่าเอาเรื่องทางธรรมมาล้อเล่น




ขอขอบคุณ :-
บทความของ : นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๔ ๑๘:๑๒
ภาพประกอบ : จาก google
web : dhamma.serichon.us/2021/06/20/ถอดรองเท้าใส่บาตร/
20 มิถุนายน 2021 By admin.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2021, 06:50:53 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ