พิมพ์

[raponsan]

คน 6 ประเภท ที่ไม่น่าให้อภัย จากการกระทำที่ตั้งใจ ไม่ใช่พลาด.

จั่วหัวมาแบบนี้อย่าเพิ่งตีความไปว่าผู้เขียนใจร้ายจัง คนทำผิดก็ไม่ให้อภัย หรือถือความแค้นไปก็เหนื่อยใจตัวเองเปล่า ๆ แต่สิ่งที่ผู้เขียนกำลังจะสื่อออกมาในบทความนี้คือ คน 6 ประเภทที่ทำเรื่องไม่ดีบ่อย ๆ จนน่าระอาใจพอได้รับการอภัยก็ยังจะทำพฤติกรรมเดิม ๆ อีก ให้โอกาสกลับตัวก็แล้ว แต่ไม่เป็นผล เพราะฉะนั้นถ้าเลือกที่จะทำผิดอย่างตั้งใจแล้ว ก็ไม่ควรได้รับการอภัยอีก เผื่อว่าจะกลับใจได้จริงจังเสียที

อีกอย่างก็ต้องยอมรับว่าคนที่ไม่รู้จักปรับปรุงตัวจากการทำผิด มีอยู่จริง บางคนได้รับการให้อภัยจนได้ใจ บางคนได้รับโอกาสจนมันไม่มีค่า กลายเป็นว่าฝ่ายที่จมทุกข์กลับไม่ใช่คนทำผิด แต่เป็นคนให้อภัยนั้นเสียเอง เพราะฉะนั้นขอย้ำว่าคน 6 ประเภทที่ไม่น่าให้อภัยอีกแล้วเพราะเกิดจากการกระทำที่ตั้งใจ ไม่ใช่พลาดพลั้ง

@@@@@@@

1. คนนอกใจ

ถ้าสำรวจจากโลกออนไลน์ หรือเว็บบอร์ดที่มีไว้ปรึกษาเรื่องต่าง ๆ พบว่าปัญหาเรื่องความรักก็มักจะมาเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ โดยเฉพาะเรื่องของการนอกใจ และคำถามยอดฮิตคงหนีไม่พ้น “แฟนนอกใจ ไปต่อหรือพอแค่นี้”

การนอกใจไม่มีพลาด มีแต่ตั้งใจทั้งนั้น-ชาวเน็ตเคยพูดไว้เช่นนี้ ซึ่งก็น่าจะจริง เพราะกว่าใครสักคนจะแอบคุยลับหลัง แอบกดไลก์ แอบโทรหากัน แอบเจอกัน มันต้องผ่านกระบวนการความคิดมาระดับหนึ่งก่อนที่จะลงมือทำ ซึ่งหากระหว่างนั้น ไม่มี ‘ความยับยั้งชั่งใจ’ สิ่งที่ตามมาก็เป็นอย่างที่เห็น คือ นอกใจ จับได้ ทะเลาะกัน บางคนอาจจะเลิกกันไป หรือบางคนอาจสับสนว่าเอายังไงต่อดี ควรให้อภัยหรือไม่ เป็นการนอกใจครั้งแรกก็อาจจะได้รับโอกาสให้กลับตัวกลับใจได้ง่าย แต่สำหรับบางคนก็ขอตัดใจอย่างเด็ดขาดไปเลย ซึ่งก็ไม่มีใครผิดหรือถูกเป๊ะตามตำราเรื่องรัก

ส่วนใครที่เคยให้อภัยแล้วยังเกิดปัญหาเดิม ๆ อีก การไม่ให้อภัยอีกต่อไปคือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะไม่ควรมีใครต้องเจ็บซ้ำซากกับเรื่องเดิม ๆ กับคนเดิม ๆ ที่ไม่เคยคิดจะปรับปรุงตัวเองอย่างที่พูดไว้ความรักที่ดีควรจะเป็นการมอบความสุขกายสบายใจให้กันและกัน ไม่ใช่นอนจมกองน้ำตา ใช่ไหมล่ะคะ

อย่าลืมว่า การนอกใจไม่มีพลาด มีแต่ตั้งใจทั้งนั้น-ชาวเน็ตเคยพูดไว้ค่ะ

2. คนคดโกง

นอกจากเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แล้ว เรื่องเงินทองก็ไม่เข้าใครออกใครเช่นกันค่ะ ใครเคยเจอคนใกล้ชิดทำเจ็บแสบไว้ด้วยการโกงเงินก็คงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี คนที่ครั้งหนึ่งเคยขี้โกงแล้ว หากสบโอกาส ทางสะดวก ก็มีแนวโน้มจะก่อเหตุโกงขึ้นได้อีกทุกเมื่อ หากตลอดเวลานั้นไม่ถูกจับได้ หรือจับได้แต่ยังไม่ถูกลงโทษแบบเด็ดขาดให้หลาบจำ

ไม่ว่าจะเงินเล็กเงินน้อย หรือรวมไปถึงกระบวนการฉกฉวยโอกาสโกงในรูปแบบอื่นที่อาจไม่ใช่เงินแต่เป็นสิ่งของ ก็ไม่ได้ทำให้การโกงดูดีขึ้นเลย หากการนอกใจต้องผ่านกระบวนการคิดมาก่อน การโกงก็ไม่ต่างกัน เพราะกว่าจะหาโอกาสที่เหมาะ หาทางสะดวก หาวิธีคดโกงไม่ให้คนอื่นจับได้ มันก็ผ่านการคิดและวางแผนมาก่อนทั้งนั้นเหมือนกัน ยิ่งทำบ่อย ๆ เพราะได้ใจว่าไม่มีใครรู้ คนแบบนี้ก็ยิ่งไม่ควรได้รับการให้อภัย หรือเลี้ยงไว้ใกล้ตัวอีก เพราะอาจจะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่หากใครอยากให้โอกาสกลับตัวกลับใจก็ไม่ว่ากันค่ะ แต่หากให้อภัยแล้วยังต้องอยู่กับความหวาดระแวงก็คงไม่คุ้มกับสุขภาพจิตที่ต้องเสียไป ไม่ใช่หรือ

3.คนทำผิดซ้ำซาก

คนประเภทนี้คือคนที่ไม่ควรให้โอกาสมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะเห็นชัดแล้วว่าไม่เคยจะปรับปรุงหรือพัฒนาตนเอง การทำผิดซ้ำในเรื่องเดิม นอกจากจะทำให้เสียงานเสียการหรือเสียเวลาในเรื่องเดิมๆ แล้วยังต้องเสียอารมณ์ที่ต้องคอยตักเตือนอยู่ตลอดเวลาอีก มองไปทางไหนก็ไม่คุ้มเสียเลยค่ะ

ตามปกติแล้วหากคนเราทำความผิด หรือทำอะไรพลาดพลั้ง การถูกเตือนเพียงครั้งเดียวก็มากพอที่จะทำให้ปรับปรุงตัวเอง หากมีความตั้งใจจริง แต่หากยังผิดแล้วผิดอีก เท่าไหร่ก็ไม่จำ ก็พอเถอะค่ะการให้โอกาสและให้อภัยมันอาจจะไร้ค่าไปแล้วก็ได้ เหนื่อยเปล่า

@@@@@@@

4. คนทรยศ

คนที่ชอบหักหลังในทุกความสัมพันธ์คือคนที่ไม่ควรได้รับการอภัยอีกต่อไป เพราะความเชื่อใจและความรักถูกทำลายลงไปเพียงครั้งเดียวก็เกินพอ ไม่มีใครอยากคบกันอย่างระแวงหรอกค่ะ คงไม่มีใครอยากมีเพื่อนที่พร้อมจะเป็นนกสองหัว หรือนินทาเราลับหลัง หรือคิดไม่ซื่อกับเราแน่ ๆ เพราะคนที่ทรยศไม่มีหรอกที่ไม่ตั้งใจ คนแบบนี้ไม่ควรคบไว้เพราะจะมีแต่ความเจ็บปวด อะไรตัดได้ก็ตัด อะไรไม่ควรให้อภัยก็ต้องทำใจให้ได้ค่ะ

5. คนโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เช่นกันกับคนทรยศที่ว่าความเชื่อใจหากถูกทำลายลงเพียงครั้งเดียวก็เป็นบทเรียนมากเกินพอแล้ว คนขี้โกหกส่วนมากจะทำจนเป็นนิสัย โกหกแล้วโกหกอีก ไม่สำนึก เห็นว่าอีกฝ่ายเชื่อ อีกฝ่ายตายใจ ก็ยิ่งได้ใจที่จะทำต่อไป แล้วความสัมพันธ์ที่เป็นไปแบบนี้จะสบายใจได้อย่างไรกันล่ะคะ หากโกหกในเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไรก็ยังพอทำใจได้ แต่หากโกหกในเรื่องใหญ่โตก็จะสร้างความร้าวฉานเสียเปล่า ๆ พอจับได้แล้วให้อภัย ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าเขาจะไม่โกหกซ้ำอีก แต่ที่แน่ ๆ คือเกิดความไม่ไว้ใจต่อกันอีกแล้ว เพราะฉะนั้นหากใครกำลังมีสัมพันธ์กับคนที่ชอบโกหกซ้ำ ๆ ก็ไม่ควรหยิบยื่นอภัยให้อีกต่อไปแล้วนะคะ มีแต่เสียกับเสียทั้งนั้น

6. คนที่ชอบทำร้ายกายและใจ

คนประเภทสุดท้ายที่ไม่คู่ควรกับการให้อภัยคือคนที่ชอบทำร้ายทางกายและใจ คนที่ทำร้ายจิตใจคนอื่นบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางคำพูดหรือการกระทำ ก็สร้างความทุกข์ให้เรามาพอแล้ว ยิ่งเป็นคนที่ทำร้ายร่างกายอีก ยิ่งไม่ควรให้อภัยอย่างยิ่ง ชีวิตใคร ใครก็รักค่ะ ใครหน้าไหนก็ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ทำร้ายเราทั้งนั้น ทุกคนมีค่า อย่าให้คนแบบนั้นมาลดคุณค่าของเราเด็ดขาด เพราะฉะนั้นใครที่กำลังโดนทำร้ายทางกายและใจ ไม่ควรให้อภัยกับคนกระทำ และควรออกมาจากความสัมพันธ์แบบนั้นโดยเร็วที่สุดนะคะ คนแบบนี้ไม่ควรได้รับโอกาสเป็นครั้งต่อไปอีกแล้ว

@@@@@@@

จริงอยู่ที่การให้อภัยคนที่ทำให้เรารู้สึกแย่เป็นเรื่องที่ดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทั้งนัยที่ตัวเราเองไม่ต้องยึดติดกับความอาฆาตแค้น และคนที่ทำผิดพลาดก็ควรได้รับโอกาส แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีคนที่ตั้งใจสร้างความผิดพลาดนั้นด้วยมือและใจของเขาเองขึ้นมา ซ้ำร้ายยังทำแบบนั้นเรื่อย ๆ จนการให้อภัยไม่มีความหมายอีกต่อไป

เพราะฉะนั้น จงมอบ ‘อภัย’ ต่อคนอื่นอย่างเหมาะสม ไม่ใช้จนมันไร้ค่า นะคะ





ขอบคตุณ : https://today.line.me/th/v2/article/6ajZRN?referral=linetodayexclusive
LINE TODAY ORIGINAL , เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • nawa.
ขอบคุณภาพจาก : https://i.pinimg.com/