พระพุทธองค์ทรงเมตตาในพระราหุลฉันใด ก็เมตตาในพระเทวฑัตฉันนั้นผมเคยได้ยินได้อ่านคำเทศนาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำว่า (ประมาณว่า) "พระพุทธเจ้ารักพระราหุลอย่างไง ก็รักพระเทวฑัตอย่างนั้น" อยู่หลายครั้ง ผมพยายามสืบค้นหาคำกล่าวทำนองนี้ในพระไตรปิฎกอยู่หลายปี (ร่วมสิบปี)ก็หาไม่เจอ จนมาถึงปีนี้ได้ยินข่าว การฆ่าตัวตายของพระรูปหนึ่ง ท่านตัดศีรษตัวเองด้วยกีโยติน และถวายศีรษะเป็นพุทธบูชา โดยตั้งสัจจะอธิษฐานขอเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
ผมจำได้ว่า อรรถกภาจารย์ได้ระบุว่า พระเทวฑัตจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เพราะก่อนตายได้ถวายกระดูกให้พระพุทธเจ้า จึงไปอ่านเรื่องพระเทวฑัตในอรรถกถา และได้โพสต์เรื่อง 'พระเทวฑัต' จะได้ตรัสรู้เป็น "พระปัจเจกพุทธเจ้า" | เพราะก่อนตาย ได้ถวายกระดูกและลมหายใจแด่พระพุทธเจ้า ไว้ในห้องนี้ ท่านใดสนใจ ไปอ่านได้ที่ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=29633.0
การโพสต์ครั้งนั้นทำให้ผมได้คำตอบถึงที่มาของคำว่า "พระพุทธเจ้ารักพระราหุลอย่างไง ก็รักพระเทวฑัตอย่างนั้น" ข้อความใน "อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑." ตอนหนึ่งมีว่า
จึงกล่าวว่า (พระเทวฑัต) “ท่านทั้งหลายอย่าให้ข้าพเจ้าฉิบหายเลย ข้าพเจ้าทำอาฆาตในพระศาสดา, แต่สำหรับพระศาสดาหามีความอาฆาตในข้าพเจ้า แม้ประมาณเท่าปลายผมไม่”,
จริงอยู่ "พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงมีพระทัยสม่ำเสมอในบุคคลทั่วไป คือ ในนายขมังธนู ในพระเทวทัต ในโจรองคุลิมาล ในช้างธนบาล และในพระราหุล."
ขอให้สังเกตคำว่า "พระศาสดาหามีความอาฆาตในข้าพเจ้า แม้ประมาณเท่าปลายผม"
และคำว่า "ทรงมีพระทัยสม่ำเสมอในบุคคลทั่วไป คือ ในนายขมังธนู ในพระเทวทัต ในโจรองคุลิมาล ในช้างธนบาล และในพระราหุล."
สองประโยคนี้น่าจะเป็นที่มาของคำเทศนาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ว่า "พระพุทธเจ้ารักพระราหุลอย่างไง ก็รักพระเทวฑัตอย่างนั้น" (ประมาณนี้) ผมขออนุญาตแต่งคำขึ้นใหม่ ขอใช้คำว่า "พระพุทธองค์ทรงเมตตาในพระราหุลฉันใด ก็เมตตาในพระเทวฑัตฉันนั้น"
ท้ายนี้ขอยกข้อธรรมใน "อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑." ที่ควรอ่าน มาแสดงดังนี้
พระเทวทัตให้สาวกนำไปเฝ้าพระศาสดา
ฝ่ายพระเทวทัตแล เป็นไข้ถึง ๙ เดือน, ในกาลสุดท้าย ใคร่จะเฝ้าพระศาสดา จึงบอกพวกสาวกของตนว่า
“เราใคร่จะเฝ้าพระศาสดา, ท่านทั้งหลายจงแสดงพระศาสดานั้นแก่เราเถิด.”
เมื่อสาวกเหล่านั้นตอบว่า
“ท่านในเวลาที่ยังสามารถ ได้ประพฤติเป็นคนมีเวรกับพระศาสดา, ข้าพเจ้าทั้งหลายจักนำท่านไปในที่พระศาสดาประทับอยู่ไม่ได้”
จึงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายอย่าให้ข้าพเจ้าฉิบหายเลย ข้าพเจ้าทำอาฆาตในพระศาสดา, แต่สำหรับพระศาสดาหามีความอาฆาตในข้าพเจ้า แม้ประมาณเท่าปลายผมไม่”,
จริงอยู่ "พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงมีพระทัยสม่ำเสมอในบุคคลทั่วไป คือ ในนายขมังธนู ในพระเทวทัต ในโจรองคุลิมาล ในช้างธนบาล และในพระราหุล."
เพราะฉะนั้น พระเทวทัตจึงอ้อนวอนแล้วๆ เล่าๆ ว่า
“ขอท่านทั้งหลายจงแสดงพระผู้มีพระภาคเจ้าแก่ข้าพเจ้า”
ทีนั้น สาวกเหล่านั้น จึงพาพระเทวทัตนั้นออกไปด้วยเตียงน้อย ภิกษุทั้งหลายได้ข่าวการมาของพระเทวทัตนั้น จึงกราบทูลพระศาสดาว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข่าวว่า พระเทวทัตมาเพื่อประโยชน์จะเฝ้าพระองค์”
พระศาสดาตรัสว่า
“ภิกษุทั้งหลาย เทวทัตนั้นจักไม่ได้เห็นเราด้วยอัตภาพนั้น”
นัยว่า พวกภิกษุย่อมไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าอีก จำเดิมแต่กาลที่ขอวัตถุ ๕ ประการ, ข้อนี้ย่อมเป็นธรรมดา,
พวกภิกษุกราบทูลว่า
“พระเทวทัตมาถึงที่โน้นและที่โน้นแล้ว พระเจ้าข้า”
ศ. เทวทัตจงทำสิ่งที่ตนปรารถนาเถอะ, (แต่อย่างไรเสีย) เธอก็จักไม่ได้เห็นเรา.
ภ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเทวทัตมาถึงที่ประมาณโยชน์หนึ่ง แต่ที่นี้แล้ว, (และทูลต่อๆ ไปอีกว่า) มาถึงกึ่งโยชน์แล้ว, คาพยุตหนึ่งแล้ว, มาถึงที่ใกล้สระโบกขรณีแล้ว พระเจ้าข้า.
ศ. แม้หากเทวทัตจะเข้ามาภายในพระเชตวัน, ก็จักไม่ได้เห็นเราเป็นแท้.
@@@@@@@
พระเทวทัตถูกธรณีสูบ
พวกสาวกพาพระเทวทัตมา วางเตียงลงริมฝั่งสระโบกขรณีใกล้พระเชตวันแล้ว ต่างก็ลงไปเพื่อจะอาบน้ำในสระโบกขรณี.
แม้พระเทวทัตแล ลุกจากเตียงแล้วนั่งวางเท้าทั้งสองบนพื้นดิน เท้าทั้งสองนั้นก็จมแผ่นดินลง. เธอจมลงแล้วโดยลำดับเพียงข้อเท้า, เพียงเข่า, เพียงเอว, เพียงนม, จนถึงคอ, ในเวลาที่กระดูกคางจดถึงพื้นดิน ได้กล่าวคาถานี้ว่า
“ข้าพระองค์ขอถึงพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นบุคคลเลิศ เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ เป็นสารถี ฝึกนรชน มีพระจักษุรอบคอบ มีพระลักษณะ (แต่ละอย่าง) เกิดด้วยบุญตั้งร้อย ว่าเป็นที่พึ่ง ด้วยกระดูกเหล่านี้พร้อมด้วยลมหายใจ.”
นัยว่า “พระตถาคตเจ้าทรงเห็นฐานะนี้ จึงโปรดให้พระเทวทัตบวช. ก็ถ้าพระเทวทัตนั้น จักไม่ได้บวชไซร้, เป็นคฤหัสถ์ จักได้ทำกรรมหนัก, จักไม่ได้อาจทำปัจจัยแห่งภพต่อไป, ก็แลครั้นบวชแล้ว จักทำกรรมหนักก็จริง, (ถึงดังนั้น) ก็จะสามารถทำปัจจัยแห่งภพต่อไปได้” เพราะฉะนั้น พระศาสดาจึงโปรดให้เธอบวชแล้ว.____________________________
ที่มา : อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑ ,เรื่องพระเทวทัต
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=11&p=12