ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "วิชาอ่านคน" ที่พระพุทธเจ้าสอน | เอาเปรียบ ช่วยเหลือ กระด้าง นุ่มนวล  (อ่าน 900 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




"วิชาอ่านคน" ที่พระพุทธเจ้าสอน : คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราช รามัญ


การใช้ชีวิตในโลกนี้ ย่อมต้องพบกับคนหลากหลายรูปแบบ ในทุกๆ สังคมล้วนมีทั้งคนดีและคนดีน้อย ปะปนกันอยู่ยอมเป็นธรรมดา สังคมเพื่อนบ้าน สังคมที่ทำงานทุกๆ สังคมต่างมีปัจจัยที่แตกต่างกันก็จริง แต่สิ่งที่ไม่แตกต่างกันเลยนั้น คือ อุปนิสัยของคนในสังคมนั้นๆ

เมื่อถามถึงอุปนิสัย แน่นอนหลายคนอาจมองว่า ความรู้เป็นพื้นฐานปัจจัยที่ทำให้เกิดอุปนิสัย บ้างก็คิดเอาว่าเพราะการเลี้ยงดูจากครอบครัวเป็นจุดบ่มเพาะนิสัย ในทางจิตวิทยานั้นเชื่อกันว่า ทุกนิสัยมักเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมปัจจุบันเป็นเหตุกำหนด

บางคนแต่เดิมนิสัยเห็นแก่ตัวเมื่อได้มาอยู่ในสังคมที่มีแต่การให้ แนวคิดความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นผู้รู้จักให้ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่เราไม่ควรลืม นั่นคือ บุพกรรม มนุษย์สร้างกรรมในอดีตไว้ไม่เท่ากัน

คติพุทธศาสนากล่าวชัดเจนว่า ผู้สร้างทานบารมีมามากย่อมเป็นผู้มีโภคทรัพย์สมบัติมาก ผู้รักษาศีลมามากย่อมมีความงดงามทางผิวพรรณและใบหน้า

อุปนิสัยอาจเป็นเรื่องของจิตใจที่เกิดจากประสบการณ์จากอดีตชาติที่ฝั่งลึกแน่นแล้วเวียนติดกายติดมโนแห่งจิตมาด้วย เราจึงมีมนุษย์มากมายหลากหลายแบบลักษณะ ในความหลากหลายนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสอุปมาอุปมัยนิสัยของมนุษย์เอาไว้แค่เพียง 4 ลักษณะ

วิชาดูคนของพระพุทธเจ้าจึงแม่นยำที่สุด ใช้ได้ทุกยุคสมัยไม่มีเสื่อมใดๆ แม้วันนี้ก็นำเอามาใช้ได้ แล้วจะเห็นได้อย่างแจ่มชัดว่า อุปนิสัยของคนบนโลกนี้ไม่เคยเปลี่ยนตามกาลเวลาเลย

@@@@@@@

พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องอุปนิสัยมนุษย์ว่า

ลักษณะของคนแบบที่ 1.
คนบางคน เหมือนมะม่วงผิวนอกสุกสดใส แต่เมื่อกินแล้วรสชาดหาได้อร่อยไม่
อุปมาอุปมัย คือ ดูภายนอกเรียบร้อย นุ่มนวลแต่นิสัยจิตใจหยาบกระด้าง เจ้าคิดเจ้าแค้น คอยเอาเปรียบผู้คนตลอดเวลา

ลักษณะของคนแบบที่ 2.
คนบางคน เหมือนมะม่วงผิวนอกหยาบไม่สวยดำๆด่างๆ แต่เมื่อกินแล้วรสชาดอร่อยหอมหวาน
อุปมาอุปมัย คือ ดูภายนอกไม่เรียบร้อยพูดจาห้วนๆ แต่นิสัยจิตใจมีเมตตา ไม่เอาเปรียบผู้คนคอยช่วยเหลือแบ่งปันผู้ที่แย่กว่า

ลักษณะของคนแบบที่ 3.
คนบางคน เหมือนมะม่วงผิวนอกสุกสดใสเมื่อกินแล้วก็อร่อยหอมหวานเหมือนผิวภายนอก
อุปมาอุปมัย คือ ดูภายนอกเรียบร้อยพูดจาไพเราะอ่อนหวาน นิสัยจิตใจก็ดีมีเมตตา  ไม่เอาเปรียบผู้คนคอยช่วยเหลือแบ่งปันผู้อื่นเสมอ เรียกว่า ดีทั้งในดีทั้งนอก

ลักษณะของคนแบบที่ 4.
คนบางคน เหมือนมะม่วงผิวนอกหยาบไม่สวยดำๆด่างๆ แต่เมื่อกินแล้วรสชาดก็ไม่อร่อยไม่หอมหวานใดๆเลย
อุปมาอุปมัย คือ ดูภายนอกหยาบกระด้างไม่เรียบร้อย ไม่นุ่มนวลนิสัยจิตใจก็หยาบกระด้างอีก เจ้าคิดเจ้าแค้น คอยเอาเปรียบผู้คนตลอดเวลา  อันนี้เรียกว่า แย่ทั้งนอกแย่ทั้งใน


@@@@@@@

ที่นี่เราคบใคร ก็ทำใจกลางๆค่อยๆดูไปเรื่อยๆ อย่ารีบร้อน อย่าเร่งรีบ อย่าเพิ่งตัดว่าเขาจะเป็นคนอย่างไรจนกว่า กาลเวลาจะนำพาความจริงมาให้เห็น เพราะว่า กาลเวลาพูดแต่ความจริงเสมอ





ขอบคุณ : https://www.thansettakij.com/columnist/469106
18 ก.พ. 2564 เวลา 4:30 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ