ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 8 ทักษะใหม่ที่ควรรู้ หากอยากทำงานให้รอดในโลกอนาคต  (อ่าน 911 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



8 ทักษะใหม่ที่ควรรู้ หากอยากทำงานให้รอดในโลกอนาคต

เพราะโลกเปลี่ยนไปอยู่เสมอ ผู้คนจึงจำเป็นต้องมีทักษะใหม่ๆ มารับมือกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เช่นบทบาทของระบบดิจิทัลที่ตอนนี้สามารถเข้ามาแทนที่คนจำนวนหนึ่งได้ และการปรับรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Hybrid ที่ทำให้ผู้ที่ชอบ WFH รู้สึกขัดใจ ดังนั้นการที่เรากลับไปทำงาน ไม่ได้แปลว่า เรากลับไปทำงานแบบเดิมๆ

แล้วเราต้องเพิ่มทักษะอะไรบ้าง.?

เพราะการทำงาน คือ การรับมือสิ่งใหม่อยู่เสมอ ทำให้ทักษะการทำงานที่พาเรามาถึงจุดนี้ ไม่ได้แปลว่า มันจะสามารถพาเราไปต่อได้ วันนี้เราจะมาแนะนำ 8 ทักษะที่จำเป็นต้องเรียนรู้ พัฒนา และให้คงอยู่ตลอดการทำงานของเรา


@@@@@@@

1. ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนให้ได้ (Ambiguity)

สมองของเราชอบความชัดเจน เพราะทำให้เราสามารถรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เราจึงเกิดสัญชาตญาณที่เกลียดความไม่ชัดเจน ให้ลองจินตนาการถึงตอนที่เรากำลังขับรถด้วยความเร็วสูงดู เมื่อรถอยู่ในระดับเร็วมากๆ จนเรามองไม่เห็นสิ่งรอบข้างและไม่สามารถประมวลสิ่งต่างๆ ได้ความไม่ชัดเจนนี้เองที่บอกเราโดยอัตโนมัติให้ลดความเร็วลงเพื่อสามารถประเมินสถานการณ์รอบข้างได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงเร็วจะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และเราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับมัน ดังนั้นเราจึงต้องก้าวผ่านสัญชาตญาณที่ต้องการแต่ความแน่นอนและชัดเจน ทำตัวให้ชินกับความไม่แน่นอน ฝึกตัดสินใจด้วยเหตุผลและเดินหน้าต่อด้วยความมั่นใจ แม้ว่าจะต้องตัดสินใจทั้งๆ ที่ข้อมูลไม่ชัดเจนก็ตาม

2. อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ (Curiosity)

ยิ่งโลกเปลี่ยนไปเท่าไหร่ อนาคตของเรายิ่งมีสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนมากตาม ทำให้เรายิ่งต้องเป็นคนอยากรู้อยากเห็นสิ่งที่เราไม่เคยพบมากขึ้น แต่ถ้าใครรู้เรื่องใหม่ๆ ได้กว้างกว่า พวกเขาก็จะยิ่งเชื่อมโยงได้เร็วและเข้าใจโลกได้มากกว่า

แต่ไม่ใช่แค่เราต้องอยากรู้ในสิ่งที่เราต้องชำนาญเท่านั้น แต่เราต้องอยากรู้ทุกอย่างตั้งแต่หัวข้อเรื่องราวหรือธีมต่างๆ จนเราสามารถเห็นรูปแบบ เทรนด์ และเรื่องราวลึกๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้นได้

3. เปิดใจรับฟังสิ่งใหม่ๆ (Openness)

ในปัจจุบัน เราไม่ได้รับข้อมูลทุกด้านอย่างเท่าๆ กัน อาจหนักไปทางใดทางหนึ่ง นั่นเป็นเพราะ Algorithm บนระบบโซเชียลมีเดียที่คัดเลือกให้เราเห็นเฉพาะสิ่งที่เราสนใจหรือเคยเห็นมาก่อน

เราจึงต้องเปิดใจรับฟังข้อมูลหลายๆ ด้าน ซึ่งทักษะนี้รวมไปถึงการที่เราเสาะหาความคิดเห็นและเรียนรู้สิ่งที่แตกต่างไปจากที่เราเคยพบเจอ เพราะบางข้อมูลอาจล้มล้างสิ่งที่เราคิดว่ามันถูกต้องอยู่แล้ว

และอย่าลืมว่า ความสำเร็จมักมาพร้อมกับความสามารถในการรับฟัง แบ่งปัน และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่มีทางใช้ข้อมูลเก่าเอาชนะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอได้

4. ลองใช้มุมมองเจ้าของกิจการและความเห็นอกเห็นใจ (Entrepreneurship and Empathy)

ยุคที่ทุกอย่างพร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้ความรู้ด้านการตลาดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เราจะต้องลองมองการทำงานด้วยสองมุมมองคือ มองจากมุมผู้ขายและลูกค้า

การมองหลายๆ ด้านนี้จะทำให้เราเข้าใจสถานการณ์รอบด้าน และเปลี่ยนสิ่งที่เป็นอุปสรรคให้กลายเป็นโอกาสทอง

เราสามารถนำสองมุมมองนี้มาปรับใช้กับการทำงาน โดยเราอาจต้องเลือกรับความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด เช่น เลือกว่า “จะยอมแก้ปัญหาในที่ทำงาน” หรือ “หาทางใหม่ๆ เพื่อรับมือกับโปรเจกต์ที่รอเราอยู่” ไม่ก็ “ออกจากงานเก่าแล้วหางานใหม่” นี่คือสิ่งที่เราต้องคิดและไตร่ตรองให้ดี

@@@@@@@

5. มีความยืดหยุ่น (Resilience)

มนุษย์จะไม่สามารถอยู่รอดได้ หากไม่รู้จักการปรับตัวและเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง เราจึงจำเป็นต้องมี 3 สิ่งเพื่อให้เกิดทักษะยืดหยุ่นที่ช่วยให้เราสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ คือ การรับข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอ, การทำความเข้าใจข้อมูลที่ได้รับอย่างลึกซึ้ง และการนำข้อมูลมาพลิกแพลงเพื่อแก้ปัญหา

หากเราสามารถปฏิบัติสามสิ่งนี้ได้ ไม่ว่าปัญหาจะมาอีกร้อยแปดพันเก้า เราก็จะฝ่าฟันไปได้อย่างแน่นอน

6. โลกในแง่ดีและมีจินตนาการอยู่เสมอ (Optimism and Imagination)

ไม่ใช่แค่เราสามารถปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ แล้วจะทำให้เราประสบความสำเร็จ แต่เราต้องเชื่ออีกว่า อนาคตที่เรากำลังเดินทางไป คือ อนาคตที่สดใสและสามารถเกิดขึ้นจริงได้ และนี่คือเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถรับมือกับความผิดพลาดขณะทำการทดลองได้

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น.?  หากเราอยากสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆ ให้สำเร็จ เราต้องมีจินตนาการและสามารถคาดเดาสิ่งที่อาจจะ เกิดขึ้น เพราะในขณะนั้นเราเต็มไปด้วยแรงผลักดัน แรงบันดาลใจ และเตรียมใจรับมือกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า

7. อย่าลืมสร้างมิตรภาพและเครือข่ายที่ดี (Rapport and Relationships)

“เครือข่าย” เป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ แต่ในอนาคตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เราจึงต้องพึ่งพาปัจจัยนี้มากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะเราไม่สามารถสร้างมิตรภาพได้ง่ายดายผ่านการจิบชา ทานมื้อค่ำด้วยกันเหมือนในสมัยก่อนอีกแล้ว

เราจึงต้องรู้จักวิธีที่จะสร้างมิตรภาพได้อย่างรวดเร็วและทำได้จากระยะไกลๆ ซึ่งโซเชียลมีเดียจึงกลายเป็นช่องทางสำคัญที่เราจะสร้างมิตรภาพได้ดียิ่งขึ้น

8. ลงมือทำ (Action)

เราอาจจะเคยได้ยินข้อความที่ว่า “ความสำเร็จไม่มีวันลอยมาหาผู้ที่นั่งอยู่เฉยๆ” ดังนั้นเราจะต้องลงมือทำแบบใช้สมอง โดยเริ่มจากการหาวิธีทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ ต่อมาคือ หาพรรคพวกสนับสนุนและสุดท้ายคือ ต้องทุ่มเทเวลาและความพยายามลงไป

ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจสร้างแรงบันดาลใจให้อยากทำงานหนัก โดยการเห็นคนอื่นทำงานหนัก แล้วเราก็ทำตามพวกเขาได้เช่นกัน ดังนั้น ขอแค่เราเข้าร่วมและลงมือทำงานให้สำเร็จเป็นพอ

จำไว้ว่า ทักษะที่เรามีในวันวานอาจเป็นเพียงแค่ “จุดเริ่มต้น” ของการทำงาน แต่หากเราอยากประสบความสำเร็จในอนาคต เรายังคงต้องเพิ่มพูนทักษะที่เรายังไม่เคยมี เพราะมันจะทำให้เราดูน่าสนใจและแตกต่างจากคนอื่นๆ ดังนั้น อย่าลืมเช็กสิ่งเหล่านี้ กาย…พร้อม ใจ…พร้อม ทักษะ…พร้อมเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็ลุยเลย!






แปลและเรียบเรียง : https://bit.ly/3piZnmM
Thank to : https://today.line.me/th/v2/article/zNJkPz6
Mission To The Moon , เผยแพร่ 08 ธ.ค. เวลา 20.00 น. • Thanwarat Choktapra
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ