ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดูการบูรณะ ‘วัดแบบทิเบต’ เก่าแก่ 300 ปี จุดเก็บตำราโบราณหายาก ด้วยเทคโนโลยีใหม่  (อ่าน 799 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
(ขวา) ประชาชนกราบไหว้ใน วัดลาบรัง เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2022 (ซ้าย) สิ่งปลูกสร้างในวัดลาบรัง วันที่ 4 มี.ค. 2022 ภาพจาก แฟ้มภาพซินหัว


ดูการบูรณะ ‘วัดแบบทิเบต’ เก่าแก่ 300 ปี จุดเก็บตำราโบราณหายาก ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

วัดลาบรัง (Labrang Monastery) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก” เริ่มดำเนินโครงการบูรณะซ่อมแซมแบบกึ่งปิดครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2012 และยกระดับการปกป้องโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมด้วยวิธีการที่ทันสมัย ล่าสุด รายงานข่าวจากซินหัวเผยว่า จนถึงขณะนี้งานซ่อมแซมหลักของอุโบสถ 14 แห่ง อันรวมถึงอุโบสถเซี่ยปู่ตันและอุโบสถพระศรีอริยเมตไตรย เสร็จสิ้นลงแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุดในรายงานข่าวระบุว่า กระบวนการขณะนี้ (23 มีนาคม 2022) อยู่ระหว่างรอตรวจรับโดยหน่วยงานบริหารโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ขณะที่ภาพวาดสีน้ำมันและภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในสิ่งปลูกสร้างบางแห่งกำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม


สิ่งปลูกสร้างใน วัดลาบรัง วันที่ 4 มี.ค. 2022 ภาพจาก แฟ้มภาพซินหัว

วัดลาบรัง ตั้งอยู่ในอำเภอเซี่ยเหอ แคว้นปกครองตนเองกานหนาน กลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เริ่มก่อสร้างในปี 1709 และถูกจัดให้เป็นหนึ่งในวัดขนาดใหญ่ที่สุดของพุทธศาสนาทิเบตนิกายเกลุก (Gelug) ก่อนจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญระดับชาติในปี 1982

โจวหัวต้าวจี๋ หัวหน้าโครงการฯ จากสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอำเภอเซี่ยเหอ เผยว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการบูรณะซ่อมแซมขนาดใหญ่ครั้งแรกของวัดในรอบกว่า 300 ปี ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 400 ล้านหยวน (ราว 2.1 พันล้านบาท) โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยว

โจวกล่าวว่า การซ่อมแซมยึดหลักบูรณะของเก่าให้คงสภาพเดิม โดยรักษาไว้ซึ่งลักษณะพิเศษของสถาปัตยกรรมทิเบตแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีการประยุกต์ใช้วิธีการที่ทันสมัยในการซ่อมแซมโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม การปรับปรุงระบบไฟฟ้า การป้องกันอัคคีภัย และระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ

การปกป้องตำราโบราณยังถือเป็นส่วนสำคัญของการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมของวัดลาบรัง เนื่องจากหอพระไตรปิฎกของวัดเป็นแหล่งเก็บรักษาตำราโบราณหายากกว่า 68,000 เล่ม

โดยเป็นเอกสารมากกว่า 10 ประเภท อาทิ ปรัชญา พุทธศาสนานิกายวัชรยาน ตำรายา ดาราศาสตร์ และประวัติศาสตร์ ตลอดจนคัมภีร์และหนังสือหายากอีกหลายเล่มที่เขียนด้วยน้ำแป้งล้ำค่า เช่น น้ำทองคำ น้ำเงิน ปะการัง และไข่มุก จนหอพระไตรปิฎกแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งอนุรักษ์ตำราโบราณแห่งชาติในปี 2009

บรรยากาศภายในวัดลาบรัง วันที่ 4 มี.ค. 2022 ภาพจาก แฟ้มภาพซินหัว

กระบวนการที่ผ่านมามีติดตั้งถังดับเพลิงทรงกลม เครื่องตรวจจับควันไฟ สัญญาณเตือนภัย และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอื่นๆ ในหอพระไตรปิฎก คัมภีร์และตำราถูกจัดเรียงบนชั้นหนังสือตามประเภทอย่างเป็นระเบียบ

สั่วหนานมู่ สมาชิกคณะกรรมการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมของวัด กล่าวว่า เหล่าพระสงฆ์ได้ผลัดเปลี่ยนเวรกันเข้ามาจัดเรียงพระคัมภีร์และตำราเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ

“การบูรณะซ่อมแซมวัดลาบรังไม่เพียงช่วยปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมในวัดเท่านั้น แต่ยังยกระดับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้วัดเก่าแก่แห่งนี้กลับมาดูใหม่เอี่ยมอีกครั้ง เพื่อจะได้ให้บริการนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น” สั่วเสริม


บรรยากาศภายในวัดลาบรัง วันที่ 4 มี.ค. 2022 ภาพจาก แฟ้มภาพซินหัว

บรรยากาศภายในวัดลาบรัง วันที่ 4 มี.ค. 2022 ภาพจาก แฟ้มภาพซินหัว

หมายเหตุ : เนื้อหานี้เรียบเรียงขึ้นจากเนื้อหาในบริการข่าวสารภาษาไทยโดยสำนักข่าวซินหัว เรื่อง “จีนบูรณะ ‘วัดแบบทิเบต’ เก่าแก่ 300 ปี ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่” เผยแพร่เมื่อ 23 มีนาคม 2565




เผยแพร่ : วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2565
เผยแพร่เนื้อหาในเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรมครั้งแรก : เมื่อ 23 มีนาคม 2565
Thank to : https://www.silpa-mag.com/news/article_84831
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ