ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มองแบบวิทย์ คิดแบบพุทธ  (อ่าน 822 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
มองแบบวิทย์ คิดแบบพุทธ
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2022, 06:44:46 am »
0



มองแบบวิทย์ คิดแบบพุทธ

ผู้คนมักมีความเข้าใจเอาเองว่า...สิ่งที่หลายคนมองว่า คือ ปาฏิหาริย์นั้น เป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติ เป็นเรื่องที่มิได้เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบาย ที่เราไปเชื่อแบบนั้นอาจจะเป็นเพราะความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์เราอาจจะไม่มากพอ ตลอดทั้งเรามีความรู้ทางด้านตำราคัมภีร์พุทธที่แน่นเพียงฝ่ายเดียว

เอาเพียงแค่คำว่า “ปรมาณู” คำนี้พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลแรกที่พูดบนโลกนี้ แล้วก็ทรงแยกแยะให้เข้าใจเลยว่า ลักษณะแบบไหนเล็กขนาดไหน จึงเป็นปรมาณู แต่คนทั่วไปกลับไปคิดถึงระเบิดปรมาณูเพียงอย่างเดียว ซึ่งระเบิดปรมาณูก็มีรากฐานแนวคิดของการแบ่งแยกพลังงานต่างๆที่เล็กๆจนมองไม่เห็น แต่อานุภาพมาก ด้วยการทำให้หัวระเบิดมีอากาศเป็นพลังงานเข้าไปสะสม แล้วมีดินระเบิดแค่เพียงกล่องไม้ขีดไฟ แล้วก็ทำให้อากาศนั้นอัดกระแทกพื้นมีแรงดันสูง มีดินระเบิดเป็นจุดระเบิดแค่นั้น แต่อานุภาพสูงมาก จึงเรียกว่า ปรมาณู

@@@@@@

ส่วนปรมาณูของพระพุทธเจ้า คือ การแบ่งแยกนับสภาวะของวัตถุให้เล็กลงไปเรื่อยๆ จนเกือบมองไม่เห็นจึงเรียกว่า ปรมาณู ดังนี้

ฉตฺตึส ปรมาณูน เมโก ณุจ ฉตึ เต
ตชฺชรี ตาปี ฉตฺตึส รถเรณูจฺ ฉตึส เต
ลิกฺขา ตา สตฺต อูกา ตา ธญฺญมาโสติ สตฺเต

   ๓๖ ปรมาณู เป็น ๑ อณู
   ๓๖ อณูเหล่านั้น เป็น ๑ ตัชชารี
   ๓๖ ตัชชารีเหล่านั้น เป็น ๑ รถเรณู
   ๓๖ รถเรณูเหล่านั้น เป็น ๑ ลิกขา
   ๗ ลิกขา เป็น ๑ อูกา
   ๗ อูกาเหล่านั้น เรียกว่า ธัญญามาส

ถ้าจะกลับเสียก็ได้ดังนี้
   ๑ เม็ดข้าวเปลือก = ๗ อูกา
   ๑ อูกา = ๗ ลิกขา
   ๑ ลิกขา = ๓๖ รถเรณู
   ๑ รถเรณู = ๓๖ ตัชชารี
   ๑ ตัชชารี = ๓๖ อณู
   ๑ อณู = ๓๖ ปรมาณู


@@@@@@

แต่เจตนาการแยกแยะ...ในเรื่องนี้ของพระพุทธเจ้าเพื่อให้มนุษย์มองเห็นว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นเพราะมันไม่อาจคงทนต่อสภาพได้ ไม่สามารถอยู่ยั่งยืนยงได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป แม้นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายเข้าใจในเรื่องสภาวะต่างๆ ที่แยกแยะออกให้เล็กลงจนมองไม่เห็นนี้ได้ แต่ทว่านักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นก็ยังมีความทุกข์อยู่ แต่พระพุทธเจ้าทั้งรู้ทั้งเห็นและเข้าใจ อีกทั้งไม่มีความทุกข์ใดๆ เลย
 
นอกจากนี้ เรื่องหูทิพย์ ตาทิพย์ ล้วนเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ถ้าเรารู้เรื่องอะตอม เรารู้เรื่องของกลศาสตร์ควอนตัม (อังกฤษ: quantum mechanics) เป็นสาขาหนึ่งในทฤษฎีรากฐานของฟิสิกส์ เราจะไม่มองเรื่องที่เราเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อีกต่อไป แต่มันคือธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่เป็นวิทยาศาสตร์ด้วย






Thank to : https://www.thansettakij.com/blogs/lifestyle/522740
คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราช รามัญ , 28 เม.ย. 2565 เวลา 4:00 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ