พิมพ์

[raponsan]

เที่ยว ‘นาสาร’ เมืองสโลว์ไลฟ์ ในคำขวัญประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ไม่ได้มีดีแค่เงาะอร่อย

Summary

    • พาไปเที่ยวกันที่ ‘นาสาร’ หรืออำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองที่อาจอยู่นอกสายตาของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน แต่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขาและน้ำตก แถมยังเป็นต้นกำเนิดของของดีเมืองสุราษฎร์ฯอย่าง ‘เงาะโรงเรียน’ ด้วย

    • เริ่มกันที่ ‘คลองฉวาง’ กับวิวภูเขาตั้งตระหง่าน มีลำคลองใหญ่คั่นตรงกลาง พร้อมเนินทรายขาวๆ สลับกับทุ่งหญ้า, ตามด้วย ‘สะพานแคบ’ หรือสะพานข้ามรถไฟที่แคบที่สุดในประเทศไทย แถมยังอยู่ใกล้กับต้นกำเนิดของเงาะโรงเรียน ไปจนถึงพื้นที่เก่าแก่ และเหมาะกับการถ่ายรูปอย่าง ‘เนินทรายเหมืองแกะ’ และปิดท้ายด้วยความสวยงามของ ‘น้ำตกเหมืองทวด’


ฉันมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ่อยครั้งเมื่อคนรอบตัวจะมาเที่ยวที่นี่ ฉันจึงมักได้รับคำถามประเภท ‘จะมาสุราษฎร์ฯ ไปเที่ยวไหนดี’ อยู่บ่อยๆ

หลายครั้งเช่นกันที่เมื่อได้รับคำถามแนวนี้ สมองของฉันกลับว่างเปล่า ตอบไปแค่ว่า ‘นั่นสิ ไม่รู้เหมือนกัน’ บ่อย จนชักละอายแก่ใจ

จนเมื่อช่วงปีก่อนที่ต้องหนีโควิดกลับไป work from home ที่บ้านเกิด ตอนนั้นเองที่ฉันเพิ่งค้นพบว่าในอำเภอที่ฉันคุ้นชื่อ แต่ไม่คุ้นเคยอย่างอำเภอบ้านนาสาร มีที่เที่ยวสวยๆ ซ่อนอยู่มากมาย

ทั้งๆ ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขาและน้ำตก แต่นาสารกลับเป็นเมืองนอกสายตาของใครหลายๆ คน

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมีจุดหมายไว้ว่ามาสุราษฎร์ฯ แล้วต้องไปเขาสก ต้องแวะเขื่อนรัชชประภา ไม่ก็ไปดำน้ำที่เกาะเต่า เที่ยวเกาะสมุย หรือเกาะพะงัน ยิ่งเพราะนาสารเป็นต้นกำเนิดของของดีเมืองสุราษฎร์ฯอย่าง เงาะโรงเรียน เวลาใครต่อใครพูดถึง ชื่อเสียงของเงาะจึงกลบความงดงามของทัศนียภาพไปซะหมด กระทั่งฉันเองที่เป็นคนพื้นที่ก็ยังหลงลืมไปแล้วว่าสมัยเด็กหากมีวันหยุดเมื่อไหร่ จุดหมายที่พ่อแม่พาไปเสมอก็คือ ถ้ำขมิ้นและน้ำตกดาดฟ้า แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในอำเภอนี้นี่แหละ

พอครั้งนี้ได้กลับบ้านเนื่องในวันหยุดยาว ฉันเลยถือโอกาสชวนสารถี (aka พ่อแม่) ออกไปสำรวจและอัปเดตสถานที่เที่ยวในเมืองนาสารเสียหน่อย เผื่อจะตอบคนอื่นเขาได้สักทีว่าถ้ามาสุราษฎร์ฯ แล้วจะต้องไปเที่ยวที่ไหนดี



01 คลองฉวาง

เริ่มที่แรกกันที่ คลองฉวาง คลองความยาวกว่า 50 กิโลเมตร ที่เป็นเหมือนปราการด่านแรกก่อนเข้าเมืองนาสาร

ที่นี่แหละ คือต้นเหตุที่ทำให้ฉันสถาปนาตัวเป็นผู้อวยความสวยของนาสารไม่หยุด เพราะทันทีที่ขับถึงเขตนาสารก็จะเจอกับภูเขาก้อนโตตั้งตระหง่าน มีลำคลองใหญ่คั่นตรงกลาง พร้อมเนินทรายขาวๆ สลับกับทุ่งหญ้าเขียวดูสดชื่น ให้ฟีลคล้ายต่างจังหวัดของญี่ปุ่น

ส่วนทางเดินริมถนนด้านบนก็ออกแบบมาเป็นฟุตปาทยาวตลอดแนว ให้คนวิ่งออกกำลังกาย ลองนึกภาพเมืองเงียบๆ ที่นอกจากวิวสุดอลังการที่ว่า สองข้างทางยังเต็มไปด้วยสวนผลไม้สิ แค่นั่งมองวิวนอกหน้าต่างรถก็มีความสุข ขอซื้อคำว่า ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว มาใช้กับเมืองนี้



ว่ากันว่าในอดีตคลองแห่งนี้ถูกใช้เป็นเส้นทางค้าขาย ขนทั้งข้าว ยางพารา ของป่า และไม้ ส่วนชาวบ้านก็อาศัยปลาในแหล่งน้ำเป็นอาหารเลี้ยงชีพ แต่ในปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่ผู้ปกครองต่างพาเด็กๆ มาเล่นน้ำแก้ร้อน บริเวณริมเนินทรายก็เปิดให้ชาวบ้านมาขายของ และนั่งปิกนิกได้

บริเวณภูเขาก้อนโตที่ฉันบอก คือที่ตั้งของวัดนาสาร ซึ่งมีเจ้าแม่กวนอิมขนาดความสูงกว่า 12 เมตร ประดิษฐานอยู่ หากวันไหนฟ้าใส เมื่อขึ้นไปสักการะจะเห็นนครศรีธรรมราชที่อยู่ไกลออกไปได้เลย

02 สะพานแคบ

เลี้ยวรถไปทางขวามือ มุ่งหน้าไปตามลำน้ำ จะมาบรรจบกับ สะพานแคบ ซึ่งถือเป็นสะพานข้ามรถไฟที่แคบที่สุดในประเทศไทย ลักษณะเป็นสะพานเหล็ก ยาว 150 เมตร ที่นี่เหมาะจะเป็นที่ถ่ายรูปเช็กอินชิกๆ เป็นหลักฐานว่า มาถึงนาสารแล้ว เพราะด้านหลังของทางรถไฟมีภูเขาหินปูนก้อนโตสวยงาม (แต่ระวังรถไฟด้วยนะ)

หากมาถึงแล้วฉันอยากให้ลองแวะกินขนมจีนที่อยู่ก่อนถึงทางเลี้ยว เป็นร้านบ้านๆ ที่คนพื้นที่มากินกันเยอะ ไม่มีชื่อร้านแต่รับประกันความหรอย และมีผักแนมให้เต็มโต๊ะ ตรงตำรับขนมจีนใต้



สะพานแคบยังอยู่ใกล้กันกับ โรงเรียนนาสาร ต้นกำเนิดของเงาะโรงเรียนด้วย – ต้นกำเนิดของเงาะโรงเรียนนั้นเริ่มมาจาก นายเค วอง ชาวมาเลเซีย ที่เข้ามาทำกิจการเหมืองแร่ดีบุกในนาสาร โดยเขาปลูกเงาะพันธุ์พื้นเมืองของปีนังไว้ใกล้กับบริเวณที่พักซึ่งอยู่ริมทางรถไฟ และนำเงาะนั้นมานั่งกินตามปกติ จากนั้นก็ทิ้งเมล็ดลงบนพื้นดิน แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของดินบริเวณดังกล่าวจึงทำให้เมล็ดที่ถูกทิ้งงอกขึ้นมาเป็นต้นเงาะ

เมื่อนายเค วอง เลิกกิจการเหมืองแร่ ขายที่ดินพร้อมบ้านพักให้กับทางราชการไทย ต่อมาก็มีการตั้งโรงเรียนขึ้นมา ชื่อว่าโรงเรียนนาสาร โดยบริเวณโรงเรียนนี้เองมีต้นเงาะต้นหนึ่งที่แปลกไปจากต้นอื่นๆ คือมีผลค่อนข้างกลม เนื้อกรอบ หวานอร่อย

ต่อมาชาวนาสารจึงนำเมล็ดพันธุ์ของต้นเงาะดังกล่าวไปปลูกขยายพันธุ์กันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่รู้จักกันทั่วในชื่อว่า เงาะโรงเรียน อย่างในปัจจุบัน

แถวนี้ยังมีประติมากรรมเงาะโรงเรียนด้วยนะ เผื่อใครอยากเช็กอินแบบตะโกน บอกใครต่อใครให้รู้ว่าฉันมาถึงเมืองเงาะอร่อยแล้ว



03 เนินทรายเหมืองแกะ

คือสถานที่ท่องเที่ยวที่แม้แต่คนสุราษฎร์ฯ หลายๆ คนก็ไม่รู้จัก เนินทรายแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณชุมชนเหมืองแกะ ในอดีตเป็นแหล่งแร่ดีบุกที่เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญและมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ในสมัยรัชกาลที่ 6 ชาวจีนจากประเทศมาเลเซียที่เข้ามารับเหมาสร้างทางรถไฟ ได้ทำกิจการเหมืองแร่ดีบุกควบคู่ไปด้วย โดยในยุคแรกๆ การทำเหมืองแร่ดีบุกจะมีลักษณะเป็นเหมืองหลุม คือมีการเปิดหน้าดินเป็นบ่อลึกลงไปจนถึงชั้นแร่ แล้วค่อยขุดแร่ออกมาใช้งาน



ในราวปี พ.ศ. 2525-2526 บริษัทเหมืองแร่สุราษฎร์ จำกัด ได้ตั้งกิจการเหมืองแร่ในบริเวณชุมชนเหมืองแกะ โดยการใช้เครื่องจักรดูดแร่ขึ้นมาจากใต้ดิน และถ่ายเททรายจากการทำเหมืองทับถมไว้เรื่อยๆ จนเกิดเป็นเนินทรายขนาดใหญ่ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2528-2529 บริษัทเลิกกิจการไป จึงเหลือไว้แต่เพียงเนินทรายสีขาว ที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร หรือราวๆ ตึก 5 ชั้น ส่วนบริเวณพื้นที่ด้านบนก็มีลักษณะเป็นลานทรายกว้างๆ ในปัจจุบันเป็นจุดชมวิวที่คนนิยมมาดูวิวแบบ 360 องศา

แม้จะเนินทรายที่ว่าจะค่อนข้างสูง แต่ทางเดินไม่ได้เดินยากขนาดนั้น เป็นทางชันให้เดินขึ้นไปเรื่อยๆ แต่เนื้อทรายแข็ง ไม่ลื่นไถล รับประกันเพราะหลานวัย 1 ขวบกว่าๆ ของฉันก็สามารถเดินขึ้นได้!

สำหรับคนที่รักการถ่ายรูป แนะนำว่าให้แต่งตัวสีตัดกับเนื้อทรายมาหน่อยก็สวยเว่อร์

ป.ล. ถ้าไม่อยากหน้ามืดกลางทางเพราะร้อนแดด มาตอนเช้าๆ หรือเย็นๆ ไปเลยจะมีความสุขกับการเดินมากกว่า



04 น้ำตกเหมืองทวด

ด้วยความสูงแค่ 3 ชั้น หรือเดินเท้าขึ้นไประยะทางประมาณ 900 เมตร ก็สามารถเห็นน้ำตกที่สวยงามได้ น้ำตกเหมืองทวดจึงเป็นเหมือนน้ำตกลับๆ ที่คนในพื้นที่นิยมมา (น้ำตกยอดฮิตในนาสารที่คนทั่วไปรู้จัก และนิยมไปคือ น้ำตกดาดฟ้า เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสูงที่สุดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีหน้าผาสูงชันประมาณ 80 เมตร ในฤดูฝนน้ำจะไหลลงมาเต็มหน้าผา ราวกับว่าไหลลงมาจากฟากฟ้า)

เส้นทางก่อนถึงน้ำตกเป็นบันไดปูนสลับกับทางเดินป่าที่ค่อนข้างชันพอสมควร ฉันที่มากับหลานเล็กจึงต้องยอมถอดใจแวะเล่นที่ชั้นหนึ่งเท่านั้น



แม้จะไม่เจอน้ำตกไหลจากไหล่เขาส่งเสียงซู่ซ่า แต่ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ด้านล่างก็พอจะชดเชยกันได้ (ฉันเจอกบภูเขาด้วย) เหมาะกับคนที่ไม่ได้อยากแช่น้ำทั้งตัว แค่หย่อนเท้าในน้ำเย็นเจี๊ยบให้ปลาตอดก็มีความสุข

นาสารยังมีที่เที่ยวอีกเพียบ ทั้งทะเลหมอก ที่โครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 ฟาร์มเมล่อน วังโข ที่พักที่มีกิจกรรมให้ล่องห่วงยางไปตามสายน้ำ ถ้ำขมิ้น ถ้ำใหญ่อันดับสองของภาคใต้ หรือกระทั่งคาเฟ่ ของคนรุ่นใหม่ที่กลับบ้าน

ไว้วันหน้าถ้าได้มาสุราษฎร์ธานีอย่าลืมแพลนมาเที่ยวที่อำเภอนี้ดูได้ รับรองว่าจะหลงเสน่ห์ และรู้ว่านาสารไม่ได้มีดีแค่เงาะแน่นอน!








Thank to : https://plus.thairath.co.th/topic/everydaylife/102878
Thairath Plus › Everyday Life | 10 มี.ค. 66 | creator : ปวีณ์กานต์ อินสว่าง