ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระสยามเทวาธิราช เทวดาคุ้มครองบ้านเมือง  (อ่าน 950 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




พระสยามเทวาธิราช เทวดาคุ้มครองบ้านเมือง

พลิกแฟ้มข้อมูลพระราชพิธีบวงสรวง “พระสยามเทวาธิราช” มีกำหนดการประกอบพิธีกรรมในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินไทย

ตามคติความเชื่อ...คนไทยมักนิยมทำบุญตักบาตรเลี้ยงพระเนื่องในวันปีใหม่ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณบรรพบุรุษ รวมถึงบูชาเซ่นสรวงเทพยดาอารักษ์ที่เคารพนับถือ




การบวงสรวงเป็นธรรมเนียมที่ปรากฏในสมัยรัชกาลที่ 4 เนื่องมาจากพระราชดำริว่า...

“สยามประเทศดำรงความเป็นเอกราช ดำรงความผาสุกยั่งยืนมาตั้งแต่โบราณ แม้หลายครั้งหลายคราวจะมีเหตุที่ทำให้บ้านเมืองเพลี่ยงพล้ำข้าศึกศัตรูหรือมีเหตุจะเสียบ้านเสียเมืองแต่ก็รอดพ้นมาได้ทุกครั้ง ก็น่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทพยดาอารักษ์คุ้มครองให้รอดพ้นภัยอันตรายมาได้ทุกครั้ง”

หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง กล่าวไว้ในบันทึกว่า พระสยามเทวาธิราชเริ่มมีเมื่อสมัยก่อนรัชกาลที่ 4 แต่ก่อนพระเจ้าแผ่นดินสมัยนั้นก็บูชาเทวาชื่อนั้นชื่อนี้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นคนสำคัญ ขออย่างนั้นอย่างนี้

...ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ท่านเป็นนักปราชญ์ เป็นนักบาลีก็มาตั้งชื่อใหม่ว่า “พระสยามเทวาธิราช” หมายถึงว่า “เทวดาทั้งหมดที่รักษาประเทศสยาม” ทีนี้ถามว่า...ให้คุณให้โทษทางไหน ให้โทษนี้ก็ไม่ทราบ ให้คุณนี่ก็ไม่รู้ แต่ท่านเป็นเทวดา

คาถาบูชา “พระสยามเทวาธิราช”

“สยามะเทวาธิราชา เทวาติเทวา มหิทธิกา เทยยรัฏฐัง อนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะเอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา สยามะเทวานุภาเวนะ สยามะเทวะเตชะสา

ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสกา สัตตุ จุปัททะวา อเนกา อันตะรายาปี วินัสสันตุ อะเสสะโต ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง โสตถิภาคะยัง สุขัง พะลัง สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒิ จะ ยะสะวา สะตะวัสสา จะ อายุ จะ ชีวะสิทธิ ภะวันตุ เม”




คำแปล...พระสยามเทวาธิราชเป็นจอมเทวดา ยิ่งใหญ่กว่าเทวดาทั้งหลาย ทรงมีมหิทธิฤทธิ์ ขอจงอภิบาลรักษาประเทศไทยโดยให้ปราศจากโรคาพาธ อุปัทวอันตราย ความพินาศทั้งหลาย ขอให้ประเทศไทยมีความร่มเย็นเป็นสุข โดยประการทั้งปวง

ด้วยอำนาจสัจจะวาจาที่อ้างถึงพระสยาม เทวาธิราชนี้ขอจงประทานความสุขสวัสดี จง บังเกิดแก่ประเทศไทยด้วยประการทั้งปวง

ด้วยอานุภาพพระสยามเทวาธิราชและเดชพระสยามเทวาธิราช ขอจงขจัดทุกข์ โรคภัยความโศก ศัตรู อุปัทวะ และอันตรายมิใช่น้อยให้พินาศไปโดยไม่เหลือ ขอชัยชนะความสำเร็จแห่งกิจการทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความเจริญและยศ มีอายุยืนตลอดหนึ่งร้อยปีขึ้นไป

ความสำเร็จแห่งกิจการงานในความเป็นอยู่จงบังเกิด แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ

เชื่อ...ศรัทธากันเป็นอย่างยิ่งว่าคาถาบูชา “พระสยามเทวาธิราช”...นี้นั้นผู้ที่สวดบูชาเป็นประจำจะเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว มีความร่มเย็นเป็นสุข เจริญในหน้าที่การงาน

@@@@

เปิดบันทึก “พระสยามเทวาธิราช” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองไทยเรามาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

พระองค์มีพระราชดำริว่า...ประเทศไทยมีเหตุการณ์ที่เกือบจะต้องเสียอิสรภาพมาหลายครั้ง แต่บังเอิญมีเหตุให้รอดพ้นภยันตรายมาได้เสมอ...ชะรอยคงจะมี “เทพยดา” ที่ “ศักดิ์สิทธิ์” คอยอภิบาลรักษาอยู่สมควรที่จะทำรูปเทพยดาองค์นั้นขึ้นสักการบูชา

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระองค์ เจ้าประดิษฐวรการปั้นรูปสมมติขึ้นแล้วหล่อด้วยทองคำแท่งลักษณะแบบเทวรูป ความสูง 8 นิ้ว ทรงเครื่องอย่างเทพารักษ์ ทรงมงกุฎ ประทับยืน พระหัตถ์ขวา ทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นในท่าจีบเสมอพระอุระ ประทับในเรือนแก้วทำด้วยไม้จันทน์มีลักษณะ แบบวิมานเก๋งจีน




ถวายพระนามว่า...“พระสยามเทวาธิราช” โปรดเกล้าฯให้ประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง

พระองค์ทรงเคารพบูชาพระสยามเทวา ธิราชเป็นอย่างสูง...เป็นที่ร่ำลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งทรงถวายเครื่องสักการะเป็นประจำทุกวัน...

ทรงถวายเครื่องสังเวยทุก “วันอังคาร” และ “วันเสาร์” ก่อนเวลาเพล...โปรดเกล้าฯให้จัดพิธีสังเวยเทวดาในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งตรงกับ “วันขึ้นปีใหม่” ทางจันทรคติแบบโบราณด้วย

@@@@

คนไทยเราแต่โบราณนานมาเชื่อว่า...มี “เทวดา” ผู้ปกปักรักษาบ้านเมือง

สมัยกรุงสุโขทัยก็มี “พระขพุงผี” เชื่อกันว่า...“ถ้าไหว้ดีพลีถูก บ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าไหว้ดีพลีไม่ถูก บ้านเมืองก็ล่มจม”

วันเวลาผ่านไปเข้าสู่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็มีความเชื่อกันว่า... “พระเสื้อเมือง” “พระทรงเมือง” “พระหลัก เมือง” เป็นเทวดาคุ้มครองบ้านเมือง




อำนาจทางทหาร...อำนาจของข้าราชการพลเรือน ต้องเข้ม แข็ง...อำนาจตุลาการ ความยุติ ธรรมที่ถูกต้องเที่ยงตรง จะนำพาบ้านเมืองไปสู่ความร่มเย็นได้

ส่วนชาวบ้านก็ให้ความเคารพยำเกรงต่อ “พระแก้ว”...พระแก้วมรกตคู่บ้านคู่เมือง กับ “พระกาฬ”...บริวารพระยม มีหน้าที่นำดวงวิญญาณมนุษย์ไปยมโลก จนมีคำสาบานที่อ้างพระแก้วพระกาฬกันติดปาก

ศรัทธาที่คนไทยมีต่อ “พระสยามเทวาธิราช” จึงมีอยู่มากล้น ด้วยมีใจศรัทธาอาจรู้สึกสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจในการปกปักรักษาบ้านเมืองให้สุขสงบร่มเย็น

เชื่อไม่เชื่อ...อย่าได้ลบหลู่ เรื่องบางเรื่อง...ของบางอย่าง เราไม่เห็นไม่ได้แปลว่าไม่มี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเร้นลับก็เฉกเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นจริงก็คงไม่มีตำนานเรื่องเล่าต่างๆเกิดขึ้นมากมายสืบมาจนถึงวันนี้

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

                                        รัก-ยม






Thank to : https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/2695489#aWQ9NjI2YTRhM2FkZWI5NzkwMDEzNjQwNzE3JnBvcz0yJnJ1bGU9MA==
21 พ.ค. 2566 05:48 น. | ไลฟ์สไตล์ > วัฒนธรรม > รัก-ยม
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ