ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 9 อาหาร และ สิ่งของ ไม่ควรนำมาใส่บาตร อาจทำให้พระสงฆ์ต้องอาบัติได้  (อ่าน 903 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



9 อาหาร และ สิ่งของ ไม่ควรนำมาใส่บาตร อาจทำให้พระสงฆ์ต้องอาบัติได้

หลายคนยังไม่รู้ของที่ใส่บาตรอาจเป็นของต้องห้ามหรือของไม่เหมาะสม มีอะไรกันบ้าง และไม่เหมาะอย่างไร.?

ชวนสายบุญมาเช็กให้ชัวร์ ว่าอาหารหรือสิ่งของต้องห้ามอะไรที่ไม่ควรนำมาใส่บาตร หากปฏิบัติอย่างถูกต้องจะได้รับอานิสงส์ 5 ประการของการทำบุญตักบาตร ที่ตามพุทธเจ้าตรัสไว้ คือ

1) เป็นที่รักของผู้คนทั้งหลาย
2) คนดีมีปัญญาย่อมชอบคบค้าสมาคมด้วย
3) มีชื่อเสียงที่ดีงาม
4) เป็นผู้ไม่ห่างไกลธรรม
5) เมื่อตายแล้วย่อมเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์

แต่ก็ยังมีข้อควรระวังสำหรับอาหารที่ไม่ควรใส่ ที่ศาสนิกชนพึงรู้ไว้ ดังนี้




อาหารที่ต้องห้ามใส่บาตรให้กับพระภิกษุ

1. เนื้อต้องห้าม

พระวินัยบัญญัติทุกสิกขาบท พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง โดยเนื้อที่ทรงห้ามสำหรับพระภิกษุมี 10 ชนิด คือ

    1) เนื้อมนุษย์
    2) เนื้อช้าง
    3) เนื้อม้า
    4) เนื้อสุนัข
    5) เนื้อราชสีห์
    6) เนื้องู
    7) เนื้อหมี
    8) เนื้อเสือโคร่ง
    9) เนื้อเสือดาว
  10) เนื้อเสือเหลือง

หากญาติโยมนำไปถวายจะถือว่าผิดหลักพระธรรมวินัย ห้ามใส่บาตรด้วยเนื้อเหล่านี้เป็นอันขาด

2. เนื้อดิบ

ปกติแล้วพระภิกษุสามารถฉันเนื้อได้ ไม่ผิดหลักเว้นแต่จะเข้า 10 เนื้อต้องห้าม แต่เนื้อดิบ อาทิ ซอยจุ๊ ซาชิมิ ลาบก้อย ที่กึ่งดิบกึ่งสุก หรือเนื้อดิบล้วน ๆ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งแก่การถวายให้พระภิกษุฉัน เนื่องจากหากฉันเข้าไปจะต้องอาบัติ อีกทั้งการรับประทานอาหารอย่างไม่ถูกสุขอนามัยอาจสาเหตุของการป่วยเป็นโรคพยาธิ และโรคแบคทีเรียต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้

@@@@@@@

3. ผลไม้มีเมล็ด

หากต้องการถวายผลไม้ให้แก่พระภิกษุ แนะนำให้ถวายผลไม้ที่ไร้เมล็ด หากผลไม้มีเมล็ดอ่อน แพร่พันธุ์ไม่ได้ สามารถถวายได้ แต่ถ้าเมล็ดนั้นสามารถแพร่พันธุ์ได้ ไม่ควรถวาย เพราะภิกษุรับประเคน และเผลอฉันเมล็ดเข้าไปจะต้องอาบัติ ปาจิตตีย์ ดังนั้น พระภิกษุจึงต้องทำกัปปิยะ เสียก่อน คือทำให้สุก หรือเอาเมล็ดทิ้ง จึงจะสามารถฉันได้โดยไม่ผิดพระธรรมวินัย

4. เครื่องดื่มบางชนิด

ทราบดีอยู่แล้วว่า พระภิกษุสามารถฉันน้ำปานะได้  แต่น้ำปานะที่ไม่สมควรตามหลักพระวินัย ได้แก่

    1) น้ำแห่งธัญชาติ (ข้าว) 7 ชนิด คือ ข้าวสาลี ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ข้าวละมาน ข้าวฟ่าง ลูกเดือย และหญ้ากับแก้
    2) น้ำผลไม้ 9 ชนิด คือผลตาล มะพร้าว ขนุน สาเก น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไทย แตงโม และฟักทอง
    3) น้ำจากอาหารอื่น ๆ เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ มีถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ และงา แม้จะต้มจะกรอง ทำเป็นเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ

    ซึ่งปานะนี้ให้สุกด้วยแสงแดดเท่านั้น ห้ามให้สุกด้วยไฟ และน้ำปานะจัดเป็นยามกาลิก(ฉันชั่วคราว) จึงควรเก็บไว้ฉันได้ตลอด 1 วัน กับ 1 คืนเท่านั้น

5. น้ำมัน

พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ว่า ภิกษุใดออกปากขอโภชนะอันประณีตเช่นนี้ คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน มาเพื่อตนแล้วฉัน ต้องอาบัติ ปาจิตตีย์




อาหารที่ไม่ควรใส่บาตร ไม่แนะนำ

6. ข้าวสาร อาหารแห้ง

การที่หลายคนถวายข้าวสาร อาหารแห้งเป็นปกติ และพบได้ทั่วไป ไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม เนื่องจากตามพระธรรมวินัย พระภิกษุไม่สมควรทำอย่างคฤหัสถ์ คือประกอบอาหารเอง ควรประพฤติขัดเกลาและศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น หากจะถวายข้าวสาร อาหารแห้ง ควรถวายให้กับวัด เพื่อให้ทางวัดเป็นผู้จัดเก็บเข้าโรงทาน สำหรับให้ฆราวาสได้ประกอบอาหารต่อไปจะเหมาะสมกว่า

7. อาหารกึ่งสำเร็จรูป

เหตุผลเดียวกันกับการถวายข้าวสาร อาหารแห้ง เพราะพระภิกษุไม่สามารถทำอาหารเองได้ และจะเก็บอาหารไว้ฉันเองในวันต่อ ๆ ไป ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้น การถวายอาหารกึ่งสำเร็จรูปจึงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม อีกประการสำคัญคือ ส่วนประกอบและกรรมวิธีของอาหารกึ่งสำเร็จรูป มีโภชนาการที่ต่ำกว่าอาหารทำสด ใหม่ และเต็มไปด้วย ไขมัน โซเดียม หรือคาร์โบไฮเดรตที่เกินพอดี ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสุขภาพของพระภิกษุได้

8. ขนมหวาน

จะพบการถวายขนมหวาน อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด หรือขนมไทยต่าง ๆ ให้แก่พระภิกษุอยู่เป็นประจำ ซึ่งการฉันขนมหวานไม่ได้ผิดหลักพระธรรมวินัย แต่ไม่เหมาะสม เนื่องจากขนมหวานอาจจะมีส่วนประกอบที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นหากถวายต้องคำนึงถึงน้ำตาล กะทิ หรือส่วนประกอบที่จะเป็นผลเสียต่อร่างกายพระภิกษุ

9. เงิน

พระพุทธเจ้าเคยกล่าวกับพระอานนท์ไว้ว่า เงินเปรียบเสมือนอสรพิษ ที่คอยแว้งกัดและให้โทษ กับผู้มีหรือครอบครองมันไว้ พระพุทธองค์จึงไม่สนับสนุนให้พระสาวกมีหรือครอบครองเงินไว้ แต่ถ้า ต้องรับก็ต้องรับไว้ด้วยจิตไม่คิดยินดี และถ้าเงินนั้นไม่ได้รับจากผู้ถวายด้วยเจตนาแล้วครอบครองไว้ พระสงฆ์จะต้องปาราชิก การถวายเงินหรือปัจจัยไม่ได้มีความจำเป็น หรือเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติแต่อย่างใด

@@@@@@@

ข้อควรระวังในการตักบาตร

1. อย่าให้ทัพพีภาชนะโดนบาตร
2. อย่าชวนพระสนทนาขณะใส่บาตร
3. ควรถอดรองเท้าทุกครั้ง
4. ไม่ควรใส่สิ่งของที่ใหญ่เกินไป เช่น ขวดน้ำ ข้าวถุงใหญ่
5. ควรจัดอาหารที่หาได้สะดวก
6. ไม่ควรใส่อาหารกระป๋อง ของดิบ หรือของเหลือที่รับประทานแล้ว






ขอขอบคุณ :-
ที่มา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
โดย PPTV Online | เผยแพร่ : 31 พ.ค. 2566 ,16:30น.
URL : https://www.pptvhd36.com/news/ไลฟ์สไตล์/191129
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2023, 06:49:02 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ