ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ส่อง “คันฉ่อง” สมัยราชวงศ์ซ่ง อายุร่วมพันปี สะท้อนความยิ่งใหญ่เมือง “เพชรบุรี”  (อ่าน 957 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.

คันฉ่องสมัยราชวงศ์ซ่ง พบที่เพชรบุรี ภาพถ่ายโดย นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว (ภาพจากศิลปวัฒนธรรม ฉบับตุลาคม 2565)


ส่อง “คันฉ่อง” สมัยราชวงศ์ซ่ง อายุร่วมพันปี สะท้อนความยิ่งใหญ่เมือง “เพชรบุรี”



 :96: :96: :96:

คันฉ่อง สมัยราชวงศ์ซ่ง สะท้อนความยิ่งใหญ่เมืองเพชรบุรี หรือ เมืองพริบพรี

คันฉ่องนี้งมได้จากแม่น้ำเพชรบุรี เขตอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ปรากฏอักษรจีนสี่ตัวความว่า “หลินอันหวางเจีย” , “หลินอัน” เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในมณฑลหางโจว ส่วน “หวางเจีย” คือบ้านของตระกูลหวาง รวมความแล้วหมายถึง “บ้านตระกูลหวางแห่งหลินอัน”

คุณกิตติพงษ์ พึ่งแตง นำคันฉ่องมาให้ อ.ล้อม เพ็งแก้ว และคุณพิเชษฐ์ วนวิทย์ ช่วยตรวจสอบ คุณพิเชษฐ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตัวอักษรบนคันฉ่องไม่ใช่อักษรรุ่นเก่าสมัยจิ๋นซี แต่ก็มีอายุกว่าพันปีมาแล้ว

ประเด็นที่พิจารณาคือ คันฉ่องด้ามนี้ทำขึ้นในสมัยใด.?

คุณพิเชษฐ์ชี้ว่า ด้านซ้ายของคันฉ่อง คนที่นั่งอยู่บนนกกระเรียนใส่หมวกขุนนาง หมวกแบบนี้ใช้กันก่อนราชวงศ์ชิง นั่นคือหมวก “ฉางซื่อเม่า” แปลว่า หมวกปีกยาว มีหลายขนาดทั้งสั้นทั้งยาว บ้างอาจยาวได้ถึง 1 เมตร หมวกชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นสมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) โดย “ซ่งไท่จู่” ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ซ่ง

การที่จักรพรรดิซ่งไท่จู่สร้างหมวกปีกยาวให้ข้าราชการใช้ ก็เพื่อป้องกันการซุบซิบนินทาของเหล่าขุนนางเวลาเข้าเฝ้า และเป็นการรักษาระยะห่างอีกด้วย

@@@@@@@

ประเด็นต่อไปที่พิจารณาคือ “คันฉ่อง” นี้มาอยู่ที่เมืองเพชรบุรีได้อย่างไร.?

อ.ล้อม อธิบายว่า ในจดหมายเหตุจีนร่วมสมัยยุคสุโขทัย ได้กล่าวถึงจักรพรรดิจีนพระองค์หนึ่งเสด็จออกรับทูตจากเมืองเพชรบุรี ทูตจากเมืองเพชรบุรีจึงมีโอกาสเดินทางไปจิ้มก้องถึงเมืองจีน ตอนขากลับคณะทูตย่อมได้รับของพระราชทานจากจักรพรรดิจีน และทางขุนนางจีนก็คงถือโอกาสมอบของตอบแทนด้วยเช่นกัน และเป็นไปได้ที่ “คันฉ่อง” ของบ้านตระกูลหวาง น่าจะเป็นของที่ทูตเมืองเพชรบุรีได้รับจากขุนนางจีน และนำกลับมาจากเมืองจีนด้วยนั่นเอง

คันฉ่องโบราณสมัยราชวงศ์ซ่ง จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงสถานะของเมืองเพชรบุรีในสมัยนั้นว่า เคยมีฐานะสูงมากระดับหนึ่ง ซึ่งทางการจีนให้การรับรอง มีการติดต่อสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน แต่ต่อมาเมืองเพชรบุรีลดฐานะลง หรืออาจถูกรวมเข้ากับรัฐอื่นที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าหรือฐานะสูงกว่า

อ่านเพิ่มเติม :-

    • ทำไมถึงเสียเมืองเพชรบุรี? เมื่อพระยาละแวก กษัตริย์กัมพูชาผู้ครองละแวกยกทัพบุก
    • “เมืองพริบพรี” อาจไม่ใช่ชื่อเดิมของ “เพชรบุรี”.?
    • งมคันฉ่องโบราณจากแม่น้ำเพชรบุรี พบชิ้นใหญ่-ชิ้นเล็กห่างกัน 5 ปีแต่ประกบกันได้พอดี





ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : หนุ่มบางโพ
เผยแพร่ : วันพุธที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2566
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 17 ตุลาคม 2565
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_94834
อ้างอิง : ล้อม เพ็งแก้ว. (ตุลาคม, 2565). คันฉ่องสมัยซ่งมาอยู่เมืองเพชรได้อย่างไร?. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 43 : ฉบับที่ 12.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ