ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘สมเด็จพระมหาวีรวงศ์’ เตือนเผยแผ่พุทธศาสนา ห้ามทำตามลาภสักการะ  (อ่าน 793 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




‘สมเด็จพระมหาวีรวงศ์’ เตือนเผยแผ่พุทธศาสนา ห้ามทำตามลาภสักการะ

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) แม่กองธรรมสนามหลวง เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) แม่กองธรรมสนามหลวง เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาท ว่า ขอฝากให้พิจารณาประเด็นต่างๆ ดังนี้

@@@@@@@

1. ความสำคัญของความรู้ชัด รู้ตรง และรู้จริง การแผยแผ่พระพุทธศาสนาสนาต้องยึดมั่น ในความรู้ที่ถูกต้องและชัดเจน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสื่อสารธรรมะ

2. การยอมรับความไม่รู้ ปัญหาใหญ่ในการเผยแผ่ คือ ผู้ที่ไม่รู้ตนเองว่าตนไม่รู้ หรือยึดมั่นในความเห็นผิด การรู้จักเรียนรู้และวิจัยเป็นสิ่งจำเป็น

3. การศึกษาพระปริยัติธรรม บุคลากรควรศึกษาให้ถ่องแท้ทั้งแผนกธรรรม แผนกบาลี และแผนกสามัญ เพื่อเผยแผ่ได้ถูกต้องตามหลักธรรมและวิธีการที่บูรพาจารย์ได้วางไว้

4. การยึดหลักการจากพระไตรปิฎกและคัมภีร์ ต้องยึดหลักจากพระไตรปิฎก คัมภีร์อรรถกถา ฎีกา และปกรณ์ต่างๆ เพื่อความถูกต้องและป้องกันการเกิดสัทธรรมปฏิรูป

5. การเผยแผ่ตามพระธรรมวินัย นักเผยแผ่ควรดำเนินงานเผยแผ่ตามพระธรรมวินัย และวิธีการที่ได้รับการถ่ายทอดจากพระบรมครูและบูรพาจารย์

6. การไม่เผยแผ่ด้วยอัตโนมติ ห้ามใช้อัตโนมติส่วนตัวในการเผยแผ่ หรือทำตามกระแสแห่งลาภสักการะที่ไม่ยั่งยืน สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า

7. การยุติปัญหาด้วยธรรม การยุติปัญหาทุกอย่างควรอ้างอิงตามลำดับขั้นตอนของการศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างเป็นระบบและถูกต้อง

8. การไม่เรียนลัดตัดตอน ห้ามการเรียนรู้หรือเผยแผ่ด้วยวิธีการที่เร่งรัด ไม่ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ถูกต้องและเป็นไปตามหลักธรรมะ

9. การเผยแผ่ตามหลักอนุปุพพิกถา ควรเผยแผ่ธรรมะตามลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม ตรวจสอบพื้นฐานความรู้และอัธยาศัยของผู้ฟังก่อนเผยแผ่

10. ความมุ่งมั่นและความมีกุศลเจตนา นักเผยแผ่ควรมุ่งมั่นในการธำรงรักษาพระสัทธรรมด้วยกุศลเจตนาที่บริสุทธิ์ เพื่อให้การเผยแผ่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและก่อเกิดผลในการปฏิบัติจริง






ทั้งนี้ขอให้ตั้งปณิธานที่จะมีความรู้รอบรู้ลึกในพระพุทธธรรมให้จงได้ แล้วจงทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง เป็นการรักษาพระศาสนาในบริสุทธิ์บริบูรณ์ ขอให้ช่วยกันสอดส่อง แก้ไข ชี้แจง และกำกับดูแลให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผน และเพื่อจะได้เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณและทางสติปัญญาของสังคมไทย สมหน้าที่พุทธสาวกของสมเด็จพระบรมศาสดาสืบไป




ขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/news/3847120/
10 ก.ย. 2567 • 14:34 น. | การศึกษา-ศาสนา
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ