ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม  (อ่าน 814 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม
« เมื่อ: ตุลาคม 08, 2024, 07:34:03 am »
0




ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม

ผู้สร้างกรรมเอาไว้ แต่ยังไม่ได้รับผลของกรรม ชื่อว่า เป็นผู้มีหนี้กรรมจะต้องชดใช้

หนี้กรรม เป็นหนี้ศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นพรหม เทวดา มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน
เปรต อสุรกาย สัตว์นรก

แม้แต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ถ้าหากเคยทํากรรมไม่ดีเอาไว้ ก็ต้องชดใช้กรรมเช่นเดียวกัน ไม่มีข้อยกเว้น

ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่า ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม




ขอขอบคุณ :-
ภาพจาก : pinterest
ที่มา : หนังสือ ไม่มีใครใหญ่เกิดกรรม จัดทำโดย บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด พิมพ์เผยแผ่เป็นธรรมทาน
website : https://www.dhamma2u.com/product/ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม/


 :25: :25: :25:

นิพเพธิกสูตร ว่าด้วยธรรมบรรยายชำแรกกิเลส

เรากล่าวไว้เช่นนี้แลว่า
     ‘เธอทั้งหลายพึงทราบ กรรม เหตุเกิดแห่งกรรม ความต่างกันแห่งกรรม วิบากแห่งกรรม ความดับแห่งกรรม ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งกรรม’

เพราะอาศัยเหตุอะไร.? เราจึงกล่าวไว้เช่นนั้น
ภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยเหตุนี้ว่า เรากล่าวเจตนาว่าเป็นตัวกรรม บุคคลคิดแล้ว จึงกระทำกรรมด้วยกาย วาจา ใจ
             
@@@@@@@

เหตุเกิดแห่งกรรม เป็นอย่างไร.? คือ ผัสสะเป็นเหตุเกิดแห่งกรรม

ความต่างกันแห่งกรรม เป็นอย่างไร.? คือ กรรมที่พึงเสวยในนรกก็มี กรรมที่พึงเสวยในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มี กรรมที่พึงเสวยในแดนเปรตก็มี กรรมที่พึงเสวยในมนุษยโลกก็มี กรรมที่พึงเสวยในเทวโลกก็มี นี้เรียกว่า ความต่างกันแห่งกรรม

วิบากแห่งกรรม เป็นอย่างไร.? คือ เรากล่าววิบากแห่งกรรมว่ามี ๓ ประการ คือ
    ๑. กรรมที่พึงเสวยในปัจจุบัน
    ๒. กรรมที่พึงเสวยในอัตภาพถัดไป
    ๓. กรรมที่พึงเสวยในอัตภาพต่อๆ ไป(๑-)
นี้เรียกว่า วิบากแห่งกรรม

ความดับแห่งกรรม เป็นอย่างไร.? คือ เพราะผัสสะดับ กรรมจึงดับ

ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งกรรม ได้แก่ อริยมรรคมีองค์ ๘

______________________________
(๑-) กรรมที่พึงเสวยในปัจจุบัน เรียกว่า ทิฏฐเวทนียกรรม กรรมที่พึงเสวยในอัตภาพถัดไป เรียกว่า "อุปปัชชเวทนียกรรม" กรรมที่พึงเสวยในอัตภาพต่อๆ ไป เรียกว่า "อปราปริยเวทนียกรรม"





ที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ , พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต , นิพเพธิกสูตร ว่าด้วยธรรมบรรยายชำแรกกิเลส , https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=22&siri=314
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ