ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: นิสิตจบมหาวิทยาลัยสงฆ์ ควรเป็นจุดขาวในผ้าดำ หรือ เป็นคบไฟ ไล่ความมืดในศาสนา  (อ่าน 3883 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



นิสิตจบมหาวิทยาลัยสงฆ์ควรเป็นจุดขาวในผ้าดำ หรือเป็นคบไฟ ไล่ความมืดในศาสนา



KEY POINTS

    • การศึกษาพระพุทธศาสนาไม่เพียงแค่การได้รับปริญญา แต่ควรเป็นการใช้ปัญญาที่สะสมมาในการขับเคลื่อนความดี ปกป้องศาสนา และเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อให้แสงสว่างของธรรมะลบล้างความมืดมิดที่แผ่ปกคลุม

    • "สร้างนิสิตพุทธสาวกให้เป็นคบไฟในศาสนา" การศึกษาควรมุ่งเน้นการสร้างนิสิตที่สามารถนำความรู้และปัญญามาใช้ขับเคลื่อนพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง ผ่านการเผยแพร่ธรรมะและลดการบิดเบือนคำสอน เพื่อให้ศาสนาเต็มไปด้วยแสงสว่างและความจริง




 :25: :25: :25:

เพราะข่าวคราวในพุทธศาสนา มีแต่ภาพลบ เช่น พระสงฆ์ที่ขาดปาริสุทธิศีล เป็นข่าวทางสื่อมวลชน และโซเชียลมีเดียก็ดี คนที่ด้อยค่าพระพุทธศาสนาก็ดี บรรดาผู้รู้น้อยทำตนเหมือนรู้มากก็ดี สุดท้ายพวกปรัปวาทบิดเบือนคำสอนพุทธศาสนาก็ดี คนที่ว่านี้มีลักษณะเหมือนจุดดำในผ้าขาว หรือเหมือนความมืดแผ่ปกคลุมสังฆมณฑล

ต่อปัญหาที่ว่านี้ นิสิตควรมีหน้าที่นำปัญญาที่รับคู่กับปริญญามาช่วยขับไล่ความมืดและลบจุดดำให้ศาสนา ด้วยการทำความจริงให้ปรากฏ ถ้าทำได้น่าจะได้รับการสรรเสริญมิใช่น้อย

ส่วนวิธีไล่ความมืด หรือสร้างจุดขาวในผืนผ้าสีดำ ไม่มีอะไรดีเท่าการเผยแผ่พระธรรมคำสอนผ่านแพลตฟอร์ม ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่น่ามีปัญหาสำหรับพระนักศึกษาในยุคดิจิทัล หากทำได้ หรือได้ทำสีดำหรือความมืดในศาสนาจะลดน้อยลง ทำให้ข่าวดี หรือจุดขาวมาแทนที่ข่าวร้าย ที่มีเป็นประจำจนเบื่อ

ที่ผมเสนอความเห็นดังกล่าว เนื่องจากอ่านข่าวและบทความการประสาทปริญญาแก่นิสิต นักศึกษา ประจำปี 2567 ของมหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตลอด 2 วัน คือ 7-8 ธันวาคม 2567 ว่าหลายฝ่ายชื่นชมบรรยากาศ และการหลั่งไหลของญาติโยม และผู้ปกครองของนิสิต นักศึกษาจำนวนมากเขียนมาในมหาวิทยาลัย มจร. ย่านวังน้อย พระนครศรีอยุธยา เพื่อชื่นชมยินดีในความสำเร็จของลูกหลาน


@@@@@@@

ในข่าวและบทความนั้นๆ สรุปว่าเป็นการจัดการที่ดี แสดงถึงความสามัคคี และมืออาชีพของอาจารย์ผู้นำ ซึ่งไม่มีใครโต้แย้ง

สำหรับผู้เขียนเห็นว่าการจัดงานแบบนี้ คือได้จัดกิจกรรมประจำปีเป็นการประดับตกแต่งภายนอก ถ้ามีเงินมีปัจจัย มีไอเดีย มีความพร้อม จะทำอะไรก็ได้ แต่ที่ผมปรารถนาใคร่เห็นคือบทบาทนิสิต นักศึกษา ไม่ว่าดีกรีระดับไหน ที่มีความสามารถนำปริญญา (ความรู้รอบ) หรือปัญญาญาณที่สะสมภายใน มาเผยแพร่ เพื่อช่วยศาสนาให้เข้มแข็ง

แต่น่าเสียดายไม่มีใครถามหาหรือพูดถึง ทั้งๆ ที่สิ่งที่ว่านี้คือหัวใจ ของการศึกษา ดังพุทธภาษิตประจำ มหาวิทยาลัยว่า
    "ปัญญา โลกัสมิ ปัชโชโต : ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก"

ผมเชื่อว่าเรื่องที่ผมปรารถนาน่าจะสะกิดให้มหาวิทยาลัยสงฆ์คิดใหม่ ทำใหม่ เพิ่มอีกมิติหนึ่ง เพื่อสร้างนิสิตที่เป็น พุทธสาวก ให้เป็นจุดขาวในผ้าดำ ดีกว่าเป็นจุดดำในผ้าขาว ครับ





Thank to : https://www.thansettakij.com/blogs/columnist/gratitude-towards-buddhist/614265
บาสก | 12 ธ.ค. 2567 | 05:00 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ