.
พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพรอุโบสถวัดพระเชตุพนฯ (ภาพจาก “108 องค์พระฏิมา พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน” กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม)“พระพุทธรูป 1248 องค์” รัชกาลที่ 1 ทรงอัญเชิญมาจากไหน ไปประดิษฐานที่ใด“พระพุทธรูป 1248 องค์” เป็นพระพุทธรูปที่ชำรุดจากหัวเมืองฝ่ายเหนือ ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดให้อัญเชิญลงมายังพระนคร เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ จากนั้นจึงพระราชทานไปประดิษฐานยังพระอารามต่างๆ ในกรุงเทพฯ
ที่มาของพระพุทธรูป 1248 องค์
พ.ศ. 2327 รัชกาลที่ 1 ทรงมีความคิดที่จะรวบรวมพระพุทธรูปจำนวนมากจากหัวเมืองเหนือ ได้แก่ สุโขทัย, พิษณุโลก, สวรรคโลก, อยุธยา มาประดิษฐานที่พระนคร เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนา
“วัดพระแก้ว” หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ภายในพระบรมมหาราชวัง (ภาพจากหนังสือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก)มีข้อสันนิษฐานว่า ชนชั้นนำในราชสำนักและรัชกาลที่ 1 เอง ทรงมีความคิดที่จะรวบรวมพระพุทธรูปจากหัวเมืองเข้ามาประดิษฐานในพระนครอยู่เดิมแล้ว ด้วยก่อนขึ้นครองราชย์ทรงเดินทางไปราชการทัพตามหัวเมืองต่างๆ จึงพบเห็นพระพุทธรูปที่เป็นสิ่งสำคัญของท้องถิ่นต่างๆ ทั้งที่งดงาม และเสียหายจากศึกสงคราม
เมื่อสถาปนากรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว จึงสมควรแก่เวลาที่จะรวบรวมพระพุทธรูปเหล่านั้นลงมาเป็นมงคลแก่พระนคร
ปฏิสังขรณ์วัด
พ.ศ. 2331 รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดโพธารามใหม่ทั้งหมด (ปัจจุบันคือ วัดพระเชตุพนฯ) ตั้งแต่ปรับพื้นดิน สร้างพระอุโบสถที่ล้อมรอบด้วยพระระเบียง 2 ชั้น และพระวิหารทิศทั้ง 4 ทิศ วิหารน้อยที่อยู่รายรอบ
วัดพระเชตุพนฯ จึงกลายมาเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามอุดมการณ์ทางศาสนา
จากนั้นโปรดให้อัญเชิญพระพุทธรูปที่ชำรุดเสียหายจำนวน 1,248 องค์ จากหัวเมืองเหนือที่กล่าวไปข้างต้น ลงมาซ่อมแซมที่กรุงเทพฯ แล้วทรงอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระเชตุพนฯ ที่มีการเตรียมสถานที่ไว้รองรับ
พระอุโบสถวัดโพธิ์ (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม) ภาพถ่ายสมัยรัชกาลที่ 4 (ภาพจาก ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน, 2544)ในการบูรณะพระพุทธรูปพันกว่าองค์นั้น มีการดำเนินการด้วยกันหลายวิธี
บูรณะพระ
ตัวอย่างเช่น “พระศรีสรรเพชญ์” พระพุทธรูปยืนสูง 8 วา พระพุทธรูปทองสำริดหุ้มทองคำ แต่ถูกลอกไปราวเสียกรุงครั้งที่ 2 เดิมจะนำทองสำริดเดิมมาหลอมเพื่อหล่อเป็นพระพุทธรูป เมื่อทรงสอบถามไปยังพระราชาคณะก็ทรงได้รับคำแนะนำว่า โลหะที่หล่อเป็นพระพุทธรูปแล้ว ไม่ควรนำกลับไปหลอม จึงโปรดเกล้าฯ ให้บรรจุ “พระศรีสรรเพชญ์” ไว้ภายในพระเจดีย์ “พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ”… และก่ออิฐปิดทับแทน
พระศรีศากยมุนีบางส่วนเมื่อบูรณะเสร็จสิ้นก็อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดอื่นๆ เช่น พระศรีศากยมุนี จากสุโขทัย ประดิษฐานที่วัดมหาสุทธาวาส (ปัจจุบันคือ วัดสุทัศน์ฯ), พระสิทธารถ จากพิษณุโลก ประดิษฐานที่วัดพิชยญาติการาม, พระพุทธเทวปฏิมากร ประดิษฐานที่วัดศาลาสี่หน้า (ปัจจุบันคือ วัดคูหาสวรรค์ ภายหลังย้ายกลับมาวัดพระเชตุพนฯ)
นอกจากนี้ บางส่วนยังมีผู้อื่นรับไปดำเนินการ เช่น สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงรับไปบูรณะ และทรงอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ หรือขุนนาง, พระสงฆ์ รับไปบูรณะเป็นพระประธานตามวัดต่างๆ ในกรุงเทพฯ
อ่านเพิ่มเติม :-
• “พระศรีสรรเพชญ์” จากอยุธยาสู่พระเจดีย์วัดโพธิ์ กับพุทธลักษณะที่ยังเป็นปริศนา
• วัดพระธรรมกาย กับพุทธศิลป์แบบแฟนตาซี ที่สลัดศิลปะไทยประเพณี ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : วิภา จิรภาไพศาล
เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ.2568
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 6 มีนาคม 2568
website :
https://www.silpa-mag.com/history/article_149400อ้างอิง :-
- วิราวรรณ นฤปิติ. การเมืองเรื่องพระพุทธรูป, สำนักพิมพ์มติชน กุมภาพันธ์ 2560.
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. ตำนานพระพุทธรูปสำคัญ แจกในการพระกฐินพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ณ วัดชุมพลนิกายาราม วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พุทธศักราช 2468.
- ไม่ระบุชื่อผู้เขียน. 108 องค์พระฏิมา พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน, กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชา พุทธศักราช 2560.