.
คารวะ ในมงคลสูตร (บาลีวันละคำ 3,304)ดูก่อนภราดา.! อำนาจทำให้คนกลัวได้ แต่ทำให้คนเคารพไม่ได้
คารวะ ในมงคลสูตร
ความเคารพ คำในพระสูตร : คารโว จ (คา-ระ-โว จะ) “คารวะ” อ่านว่า คา-ระ-วะ
“คารวะ” เขียนแบบบาลีเป็น “คารว” อ่านว่า คา-ระ-วะ รากศัพท์มาจาก ครุ + ณ ปัจจัย
(ก) “ครุ” (คะ-รุ) รากศัพท์มาจาก
(1) ครฺ (ธาตุ = ไหลไป; ลอยขึ้น) + อุ ปัจจัย : ครฺ + อุ = ครุ แปลตามศัพท์ว่า
-(1) “สิ่งที่เลื่อนไหลกว้างขวางไป”
- (2) “ผู้ลอยเด่น”
(2) คิรฺ (ธาตุ = คาย, หลั่ง) + อุ ปัจจัย, ลบสระต้นธาตุ (คิรฺ > ครฺ) : คิรฺ + อุ = คิรุ > ครุ แปลตามศัพท์ว่า
- (1) “ผู้คายความรักให้หมู่ศิษย์”
- (2) “ผู้หลั่งความรักไปในหมู่ศิษย์”
“ครุ” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้
เป็นคุณศัพท์ หมายถึง
(1) หนัก, น้ำหนักบรรทุก (heavy, a load)
(2) สำคัญ, ควรเคารพ, พึงเคารพ (important, venerable, reverend)
เป็นคำนาม (ปุงลิงค์) หมายถึง
(3) คนที่ควรนับถือ, ครู (a venerable person, a teacher)
@@@@@@@
(ข) ครุ + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อุ ที่ (ค)-รุ เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (ครุ > คโร > ครว), ทีฆะ อะ ที่ต้นศัพท์ คือ ค-(รว) เป็น อา ด้วยอำนาจ ณ ปัจจัย (ครว > คารว) : ครุ + ณ = ครุณ > ครุ > คโร > ครว > คารว (ปุงลิงค์)
แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะแห่งครุ” หมายถึง การคารวะ, ความเคารพ, ความนับถือ (reverence, respect, esteem); ความยำเกรง, ความนอบน้อม (respect for, reverence towards)
ความหมายในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า
“คารวะ : (คำนาม) ความเคารพ, ความนับถือ. (คำกริยา) แสดงความเคารพ. (ป.).”
ขยายความ
มงคลข้อที่ 22 ในมงคล 38 ตามนัยแห่งมงคลสูตร คำบาลีในพระสูตรว่า “คารโว จ” (คา-ระ-โว จะ) แปลว่า “ความเคารพ ประการหนึ่ง”
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [353] มงคล 38 บอกไว้ว่า
22. คารโว จ (ความเคารพ, การแสดงออกที่แสดงถึงความเป็นผู้รู้จักคุณค่าของบุคคล สิ่งของ สถานที่ หรือกิจการนั้นๆ และรู้จักให้ความสำคัญและความใส่ใจเอื้อเฟื้อโดยเหมาะสม — Gārava : reverence ; respect ; appreciative action)
“คารวะ” สำหรับชาวพุทธ โดยเฉพาะภิกษุ มีอะไรบ้าง พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ข้อ [261] แสดงไว้ดังนี้
[261] คารวะ หรือ คารวตา 6 (ความเคารพ, การถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะพึงใส่ใจและปฏิบัติด้วยความเอื้อเฟื้อ หรือโดยความหนักแน่นจริงจัง, การมองเห็นคุณค่าและความสำคัญแล้วปฏิบัติต่อบุคคลหรือสิ่งนั้นโดยถูกต้อง ด้วยความจริงใจ — Gārava, Gāravatā : reverence ; esteem ; attention ; respect ; appreciative action)
1. สัตถุคารวตา (ความเคารพในพระศาสดา — reverence for the Master) ข้อนี้บางแห่งเขียนเป็น พุทธคารวตา (ความเคารพในพระพุทธเจ้า — Satthu-gāravatā: reverence for the Buddha)
2. ธัมมคารวตา (ความเคารพในธรรม — Dhamma-gāravatā : reverence for the Dhamma)
3. สังฆคารวตา (ความเคารพในสงฆ์ — Saŋgha-gāravatā : reverence for the Order)
4. สิกขาคารวตา (ความเคารพในการศึกษา — Sikkhā-gāravatā : reverence for the Training)
5. อัปปมาทคารวตา (ความเคารพในความไม่ประมาท — Appamāda-gāravatā : reverence for earnestness)
6. ปฏิสันถารคารวตา (ความเคารพในปฏิสันถาร คือ การต้อนรับปราศรัย — Paṭisanthāra-gāravatā : reverence for hospitality)
ธรรม 6 อย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแห่งภิกษุ.
@@@@@@@
ในคัมภีร์ท่านแสดงอานิสงส์ของ “คารวะ = ความเคารพ” ไว้ดังนี้
โส สุคติคมนาทีนํ เหตุโต มงฺคลนฺติ วุจฺจติ.
มงฺคลตฺตวจเนน จสฺส อคารวสฺส อมงฺคลตฺตํ ทีปิตํ โหติ.
อคารโว หิ ทุคฺคติคมนาทิเหตุโต อมงฺคลนฺติ เวทิตพฺโพ.
ความเคารพนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุแห่งอิฐผลมีไปสุคติ เป็นอาทิ.
ก็ความที่อคารวะนั้นไม่เป็นมงคล เป็นอันพระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว ด้วยการตรัสความที่คารวะนั้นเป็นมงคล.
ความจริง ความไม่เคารพพึงทราบว่าเป็นอมงคล เพราะเป็นเหตุแห่งอนิฐผลมีไปทุคติ เป็นต้น._______________________________
ที่มา : มังคลัตถทีปนี ภาค 2 ข้อ 262 หน้า 194
@@@@@@@
ดูก่อนภราดา.! อำนาจทำให้คนกลัวได้ แต่ทำให้คนเคารพไม่ได้
ขอบคุณ :
https://dhamtara.com/?p=1600229 มิถุนายน 2021 | Admin ชมรมธรรมธารา
มงคลสูตร ว่าด้วยมงคล (จุฬา)
[๙] (๒๒) ความเคารพ (๒๓) ความถ่อมตน (๒๔) ความสันโดษ (๒๕) ความกตัญญู
(๒๖) การฟังธรรมตามกาล นี้เป็นมงคลอันสูงสุด
|๖.๘| คารโว จ นิวาโต จ สนฺตุฏฺฐี จ กตญฺญุตา
กาเลน ธมฺมสฺสวนํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ ฯ
@@@@@@@
ความในอรรถกถา : คาถาที่ ๗ (มี ๕ มงคล)
บัดนี้ พึงทราบวินิจฉัยในคาถานี้ว่า คารโว จ เป็นต้นดังต่อไปนี้.
ความเคารพ ชื่อว่า คารวะ.
ความประพฤติถ่อมตน ชื่อว่า นิวาตะ.
ความสันโดษ ชื่อว่า สันตุฏฐี
การรู้อุปการะที่ผู้อื่นทำแล้ว ชื่อว่า กตัญญุตา.
บทว่า กาเลน ได้แก่ โดยขณะ คือโดยสมัย.
การฟังธรรมชื่อว่า ธัมมัสสวนะ.
คำที่เหลือมีนัยอันข้าพเจ้ากล่าวแล้วนั้นแหละ.
นี่คือการพรรณนาเฉพาะบท.
------------------------
ส่วนการพรรณนาเนื้อความ พึงทราบดังต่อไปนี้.
การกระทำความเคารพ การกระทำความหนักแน่น ความเป็นผู้มีคารวะตามสมควร ในพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า สาวกของพระตถาคตเจ้า อาจารย์ อุปัชฌาย์ มารดาบิดา พี่ชายพี่สาวเป็นต้น ที่ควรแก่การกระทำความเคารพ ชื่อว่า คารวะ เพราะคารวะนี้นั้น เป็นเหตุแห่งการไปสู่สุคติภพเป็นต้น
เหมือนอย่างที่ตรัสไว้ (ในจูฬกัมมวิภังคสูตร) ว่า(๑-)
บุคคลกระทำความเคารพในบุคคลผู้ควรเคารพ ได้แก่นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา บุคคลเช่นนั้นเบื้องหน้าแต่การตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ด้วยกรรมนั้นอันเขาให้พรั่งพร้อมสมาทานแล้วอย่างนี้. ถ้าหากว่าเบื้องหน้าแต่การตายเพราะกายแตก เขาไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาสู่ความเป็นมนุษย์ จะอุบัติในที่ใดๆ ในภายหลัง ย่อมเป็นคนมีสกุลสูง ในที่นั้นๆ____________________________
(๑-) ม. อุ. เล่ม ๑๔/ข้อ ๕๙๓เหมือนอย่างที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า(๒-)
ภิกษุทั้งหลาย อปริหานิยธรรม ๗ ประการเหล่านี้.
๗ ประการ อะไรบ้าง คือ มีความเคารพในพระศาสดาเป็นต้น____________________________
(๒-) องฺ. สตฺตก. เล่ม ๒๓/ข้อ ๒๙เพราะฉะนั้น ความเคารพ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่าเป็นมงคล.
------------------------
ความเป็นผู้อ่อนน้อม คือ ความเป็นผู้มีความประพฤติถ่อมตน ชื่อว่า นิวาตะ ความประพฤติถ่อมตน.
บุคคลประกอบด้วยความเป็นผู้ประพฤติถ่อมตนใด ถูกนำมานะออกแล้ว ถูกนำความกระด้างออกแล้ว เป็นผู้เสมอด้วยผ้าเช็ดเท้า เป็นผู้เสมอด้วยโคเขาขาด และเป็นผู้เสมอด้วยงูที่ถูกถอนเขี้ยวเสียแล้ว เป็นผู้มีวาจาอ่อนหวานไพเราะและเสนาะโสต นี้ชื่อว่า นิวาตะ.
นิวาตะนี้นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุแห่งการได้คุณมียศเป็นต้น ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า บุคคลที่มีความประพฤติถ่อมตนเช่นนั้น เป็นผู้ไม่กระด้างแล้ว ย่อมได้ยศ(๓-) ดังนี้เป็นต้น____________________________
(๓-) ที. ปา. เล่ม ๑๑/ข้อ ๒๐๕ที่มา : อรรถกถา ขุททกนิกาย สุตตนิบาต จูฬวรรค (มงคลสูตร หน้าต่างที่ ๒/๒.)
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=317&p=2