ชีวิตชาวพุทธที่ "นักการเมืองไม่มีปัญญาแก้ไข"
หลังจากที่มีผู้ก่อการร้ายตามล้างผลาญเข่นฆ่าคนไทยใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บริสุทธิ์รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์ ชาวพุทธฝ่ายฆราวาส และคนศาสนาอื่นผู้ร่วมมือกับฝ่ายรัฐบาลไทยเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า ๖ ปี โดยฝ่ายรัฐบาล ไม่สามารถจัดการให้เหตุการณ์สงบได้ ส่อให้เห็นว่าคนเลวร้ายกลุ่มนั้น ต้องการขับไล่ข่มขู่พุทธบริษัทให้อพยพไปอยู่ในจังหวัดอื่นๆ เพื่อพวกตนจะได้มีอำนาจปกครองกันเองทั้งๆ ที่พระสงฆ์มีแต่กรุณา มิได้พกพาอาวุธเพื่อที่จะไปเบียดเบียนใคร คนใจบาปก็ถือเป็นเป้าหมายที่จะกำจัดให้สิ้นไปจากแผ่นดินไทยใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้จงได้
เป้าหมายของคนชั่วๆ เหล่านี้ คือ ล้างผลาญชาวพุทธอย่างเดียว แต่ที่คนศาสนาอื่นต้องถูกเข่นฆ่าด้วย ก็เพราะคนเหล่านั้นไม่ร่วมมือปฏิบัติตามคนชั่วเหล่านั้น หรือไม่ก็เข้าข้างทางราชการเมื่อมันฆ่าคนศาสนาเดียวกับมันได้แล้ว มันก็อ้างความชอบธรรมว่า ที่มันต้องฆ่าชาวพุทธ เป็นการแก้แค้นให้คนศาสนาเดียวกัน ดูมันซิ
เหยื่อของคนชั่วใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็คือ คนที่ไม่มีอาวุธ คนดีมีศีลธรรม เพราะฉะนั้น มันจึงได้ตามล้างผลาญครู พระภิกษุ สามเณร จำนวนมาก ส่วนการที่พวกมันถล่มทำลายเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ก็เพราะว่า เพื่อแย่งชิงเอาอาวุธเพื่อกลับมาเข่นฆ่าชาวพุทธ จึงมีการปล้นปืนกันไปเป็นจำนวนมากมาย และอีกอย่างหนึ่งมันเห็นว่าเจ้าหน้าที่ เป็นตัวขัดขวางไม่ให้ยึดครองพื้นที่ง่ายๆ จึงต้องเด็ดชีพเสียให้หมดเรารู้สึกเศร้าสลดใจเป็นที่สุด ทุกครั้งที่ได้ยินว่า ชาวพุทธถูกลอบสังหาร โดยเฉพาะผู้บริสุทธิ์ เช่นครู และพระสงฆ์ ถ้าพวกมันไม่ใช่คนชั่วช้าสามานย์จริง มันจะไม่เข่นฆ่าเด็ดขาด เพราะพระสงฆ์มีแต่ความเมตตากรุณา ครูมีแต่ความเอื้อเฟื้อ หวังดีต่อผู้เรียน ซึ่งเป็นศาสนาเดียวกับพวกมันแท้ๆ และแล้วเช้าตรู่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔ ก็ถึงเวลาที่พระสงฆ์สามเณร ๓ รูป เดินออกจากวัดไปโปรดสัตว์ ยังไม่ทันได้ไปไกลเลย ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่ง ก็ใช้ปืนไล่ฆ่าพระภิกษุ และสามเณร ผู้มีแต่บาตรจีวร สำรวมกิริยา เดินไปอย่างสงบ และอำนวยพรขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุข
คุณยายวัย ๘๐ ที่ตักบาตรมาทั้งชีวิตอยู่ๆ ก็เห็นเหตุการณ์ร้ายเช่นนี้ ก็สุดระทึกสะเทือนใจหวาดเสียวเป็นที่สุด เป็นภาพที่ติดตาปลงไม่ตก เห็นบ้านเมืองขาดเจ้าหน้าที่คุ้มครอง เห็นพี่น้องชาวพุทธต้องตายตามกัน ซึ่งคงจะต้องหมดไปจากแดนใต้แน่ในเวลาไม่นานนัก เพราะผู้รับผิดชอบต่อบ้านเมือง ปล่อยปละละเลยถนอมรักษาแต่คนใจบาปหยาบช้า หาได้คิดรักษาคุ้มครองคนดีๆ ไม่(งานศพพระอภิไชย สีลเตโช)
พระภิกษุสามเณรผู้น่าสงสารยิ่งดังกล่าว ก็คือ๑) พระภิกษุ ชื่อ อภิไชย สีลเตโช (โรจนรังสันต์) อายุ ๒๗ ปี พรรษา ๒ วัดพระศรีมหาโพธิ์ ตำบลบางกรุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ท่านเป็นบุตรคนเดียว ของโยมมารดาๆ ผู้หวังพึ่งบุตรเมื่อยามชรา เพราะไม่มีสามีเป็นที่พึ่งแล้ว แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะพระภิกษุบุตรชายถูกยิงตาย เธอได้แต่คร่ำครวญอย่างน่าสงสาร “ทำไมย่ำยีกันอย่างนี้ๆๆ ลูกของแม่ทิ้งแม่ไปแล้วหรือ แม่แค่เพียงคนเดียว จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร” เธอแสดงความโศกเศร้า อย่างยืดยาวต่อไป คณะของเราได้มอบถวายปัจจัย ๑๐,๐๐๐ บาท ให้โยมมารดาช่วยงานบำเพ็ญกุศลศพ และให้กำลังใจมารดาของพระอภิไชย ขอให้สู้ชีวิตต่อไป
(พระสุชาติ อินทันแก้ว)
๒) พระภิกษุ ชื่อ สุชาติ อินทันแก้ว อายุ ๓๖ ปี พรรษา ๑๕ วัดปุราณประดิษฐ์ ตำบลบางกรุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ ในบรรดาบุตรธิดา ๕ คน ของโยม บิดา มารดา ขณะนี้มีแต่โยมมารดาไม่มีบิดาแล้ว ท่านถูกยิงที่ท้องกระสุนปืนเข้าตัดไปที่ตับ และกระดูกสันหลัง มีเลือดไหลนองบนท้องถนน ส่งผลให้พิการครึ่งท่อนไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป ขณะนี้ได้รับการพยาบาลอย่างเต็มที่อยู่ ณ โรงพยาบาล มอ.สงขลา มีเครื่องช่วยหายใจและแพทย์ให้อาหารทางสาย อาการนับว่ายังสาหัสอย่างยิ่ง สุดจะแก้ไข แต่ยังดีกว่าที่ยังรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ขณะนี้ท่านสามารถแสดงอาการตอบรับบุคคลผู้ไปเยี่ยมให้กำลังใจได้
คณะของเราได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจโยมแม่ซึ่งอายุเข้าสู่วัย ๗๐ กว่าปีไปแล้ว ซึ่งโยมมารดาได้เล่าให้เราฟังว่าหลังจากทราบข่าวในเช้าวันเกิดเหตุ เธอตกใจมากรีบวิ่งด้วยเท้าจากตลาดไปถึงวัดศรีมหาโพธิ์ ระยะทางกว่า ๑๐ กิโลเมตร เพื่อไปให้ทันดูใจลูกของตนจนลืมคิดถึงสภาพร่างกายของตน คณะของเราได้มอบปัจจัยช่วยเหลือการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนเงิน ๑๕,๐๐๐ บาท(สามเณรสกล เสมสันต์)
๓) สามเณรชื่อ สกล เสมสันต์ อายุ ๑๗ ปี บรรพชามา ๔ พรรษา สอบได้นักธรรมโท สังกัดวัดศรีมหาโพธิ์ ตำบลบางกรุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เป็นบุตรชายของบิดามารดาซึ่งมีทายาทรวม ๒ คน อีกคนเป็นหญิง กำลังศึกษาชั้นมัธยมปลาย สามเณรได้ออกบิณฑบาตตอนเช้า จามพระภิกษุอภิไชย สีลเตโช ถูกคนชั่วช้ายิงเข้าที่ต้นคอกระสุนปืนทะลุไปออกใกล้ดวงตา เลือดไหลนอง อาการสาหัสยิ่ง ถูกนำส่งโรงพยาบาลจังหวัดปัตตานีเข้าห้อง ICU ถูกผ่าตัดปฐมพยาบาล หลังจากนั้นมีอาการบวมมาก พอวันที่ ๓ อาการดีขึ้น คืออาการบวมยุบลง แต่ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจให้อาหารทางสาย ปิดหน้าปิดตา จำไม่ได้ว่าเป็นใครนิ่งไม่รับรู้ไม่ตอบรับคนที่ไปเยี่ยม น่าสงสารมาก มีโยมบิดา มารดา ผู้จำต้องหยุดงานรับจ้างรายวันมาดูแลบุตรด้วยความสลดหดหู่โสกาอาดูรที่สุด คณะของเราได้เข้าเยี่ยมเป็นกำลังใจให้ ปลอบใจให้โยมบิดามารดารู้สึกอบอุ่น และอดทน อย่าท้อถอย พร้อมมอบปัจจัย ๑๕,๐๐๐ บาท
ชาวพุทธผู้น่าสงสารชายแดนใต้เหล่านี้ ทำไมรัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือให้ปลอดภัย เป็นปริศนาให้ตอบ ถ้ารัฐไม่ตอบ ก็ขอตอบเองว่า บ้านเมืองลุก เป็นไฟ ยังไม่เห็น
ชาวพุทธเป็น คนชั้นสอง มองไฉน
รัฐคุ้มครอง คนใจบาป ภาพตำใจ
ปล่อยมันไป ฆ่าพระเณร เห็นตำตา
ถ้าระวังตลอดไป ไม่ถอนทหาร
พวกสามานย์ ก็จะมุด หยุดความบ้า
ถ้ากำจัด ทรชน คนชั่วช้า
เมืองสงบ พัฒนา พาจำเริญ
ถ้ารักษา คนดีดี ให้มีเพิ่ม
ก็ยิ่งเสริม สุขสง่า น่าสรรเสริญ
นี่ปล่อยปละ ละวิถี ที่ควรเดิน
เห็นแก่เงิน และอำนาจ ชาติจึงพัง
น.อ.สมโพธิ์ ผลเต็ม
กรรมการบริหารศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เรียบเรียง
ที่มา http://newweb.bpct.org/content/view/459/110/