ศรัทธาของชาวอิสาณ กับความเชื่อ เรื่องนาค ว่าแต่เรื่องนาค นี้ปรากฏในพระไตรปิฏกบ้างหรือไม่ครับ หรือ มีแต่เพียงตำนานเล่าขานบอกกล่าวกันมา ใครรู้ช่วยนำมาแถลงเพิ่มความรู้หน่อยครับ

อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาสมัยสูตร(คัดมาเพียงบางส่วน)
บทว่า อนึ่ง พวกนาคชาวสระนาภสะ และพวกนาคชาวไพศาลีก็มาพร้อมกับตัจฉกะ คือ พวกนาคชาวสระนภสะ และพวกนาคชาวเมืองไพศาลี ก็มาพร้อมกับบริษัทของตัจฉกนาคราช.
บทว่า กัมพลและอัสดร คือ กัมพล ๑ อัสดร ๑.
เล่ากันมาว่า
นาคเหล่านี้ อยู่ที่เชิงเขาสิเนรุ เป็นนาคชั้นผู้ใหญ่ที่แม้พวกสุบรรณ (ครุฑ) ก็พึงฉุดไป (= นำไป จับไป) ไม่ได้.
บทว่า และพวกนาคชาวประยาคะ พร้อมกับหมู่ญาติ คือ และพวกนาคที่อยู่ท่าประยาคะ ก็มากับหมู่ญาติ. บทว่า และพวกชาวยมุนาและพวกธตรัฏฐ์ คือ พวกนาคที่อยู่ในแม่น้ำยมุนา และพวกนาคที่เกิดในตระกูลธตรัฏฐ์.
บทว่า ช้างใหญ่ชื่อเอราวัณ คือ และเอราวัณเป็นเทวบุตร ไม่ใช่เป็นช้างโดยกำเนิด แต่เทวบุตรนั้นถูกเรียกว่าช้าง. บทว่า แม้เขาก็มา คือ แม้เอราวัณเทวบุตรนั้นก็มา. บทว่า พวกใดนำนาคราชไปได้รวดเร็ว คือ พวกครุฑเหล่าใด มีความโลภครอบงำแล้วนำ คือจับเอาพวกนาคมีประการที่กล่าวแล้วนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว.
บทว่า เป็นทิพย์ เกิดสองครั้ง มีปีก มีตาหมดจด คือ ชื่อว่าเป็นทิพย์ เพราะมีอานุภาพทิพย์ ชื่อว่าเกิดสองครั้ง เพราะเกิดแล้วสองครั้ง คือจากท้องแม่และจากกะเปาะไข่ ชื่อว่ามีปีก เพราะประกอบด้วยปีก ชื่อว่ามีตาหมดจด เพราะประกอบด้วยตาที่สามารถเห็นหมู่นาคในระหว่างร้อยโยชน์บ้าง พันโยชน์บ้าง.
บทว่า พวกเหล่านั้น ไปถึงกลางป่าทางเวหา คือ พวกครุฑเหล่านั้นถึงป่าใหญ่นี้โดยทางอากาศนั่นเอง. บทว่า ชื่อของพวกเหล่านั้นว่าจิตระและสุบรรณ คือ ครุฑเหล่านั้นชื่อจิตระและสุบรรณ. บทว่า ในครั้งนั้นได้มีการอภัยแก่
พวกนาคราช พระพุทธเจ้าทรงทำความปลอดภัยจากสุบรรณ คือ (เพราะเหตุใด) เพราะเหตุนั้น พวกนาคและครุฑทั้งหมดนั้น ทักกันด้วยวาจาที่สุภาพคุยกันเพลิดเพลิน เหมือนเพื่อนและเหมือนญาติ สวมกอดกันจับมือกันวางมือบนจะงอยบ่า มีจิตร่าเริงยินดี.
บทว่า
พวกนาค พวกสุบรรณ ทำพระพุทธเจ้าให้เป็นสรณะ คือ พวกเขาเหล่านั้นถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก.
ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=235&p=1
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
๗. มหาสมัยสูตร (๒๐)
(คัดมาเพียงบางส่วน) [๒๔๓]
พวกบ่าวของท้าวมหาราชทั้ง ๔ นั้น มีมายา ล่อลวง
เจ้าเล่ห์ มาด้วยกัน มีชื่อคือกุเฏณฑุ ๑ เวเฏณฑุ ๑
วิฏ ๑ วิฏฏะ ๑ จันทนะ ๑ กามเสฏฐะ ๑ กินนุฆัณฑุ ๑
นิฆัณฑุ ๑ และท้าวเทวราชทั้งหลายผู้มีนามว่าปนาทะ ๑ โอป-
มัญญะ ๑ เทพสารถีมีนามว่า มาตลิ ๑ จิตตเสนะ ผู้คนธรรพ์ ๑
นโฬราชะ ๑ ชโนสภะ ๑ ปัญจสิขะ ๑ ติมพรู ๑ สุริยวัจฉสา
เทพธิดา ๑ มาทั้งนั้น
ราชาและคนธรรพ์พวกนั้น และพวกอื่น
กับเทวราชทั้งหลายยินดี มุ่งมายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ
อนึ่งเหล่านาคที่อยู่ในสระชื่อนภสะบ้าง อยู่ในเมืองเวสาลีบ้าง
พร้อมด้วยนาคบริษัทเหล่าตัจฉกะก็มา กัมพลนาค และอัสสตร-
*นาคก็มา นาคผู้อยู่ในท่า ชื่อปายาคะ กับญาติ ก็มา นาคผู้อยู่ใน
แม่น้ำยมุนา เกิดในสกุลธตรัฏฐ ผู้มียศ ก็มา เอราวัณเทพ
บุตรผู้เป็นช้างใหญ่ แม้นั้นก็มายังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ ฯ
[๒๔๔] ปักษีทวิชาติผู้เป็นทิพย์ มีนัยน์ตาบริสุทธิ์ นำนาคราชไปได้
โดยพลันนั้น มาโดยทางอากาศถึงท่ามกลางป่า ชื่อของปักษี
นั้นว่า จิตรสุบรรณ ในเวลานั้น นาคราชทั้งหลาย ไม่ได้มีความ
กลัว พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำให้ปลอดภัยจากครุฑ นาคกับ
ครุฑเจรจากัน ด้วยวาจาอันไพเราะ กระทำพระพุทธเจ้าให้ เป็นสรณะ พวกอสูรอาศัยสมุทรอยู่ อันท้าววชิรหัตถ์รบชนะ
แล้ว เป็นพี่น้องของท้าววาสพ มีฤทธิ์ มียศ เหล่านี้คือพวก
กาลกัญชอสูร มีกายใหญ่น่ากลัวก็มา พวกทานเวฆสอสูรก็มา
เวปจิตติอสูร สุจิตติอสูร ปหาราทอสูร และนมุจีพระยามาร ก็มาด้วยกัน บุตรของพลิอสูรหนึ่งร้อย มีชื่อว่าไพโรจน์ทั้งหมด
ผูกสอดเครื่องเสนาอันมีกำลังเข้าไปใกล้อสุรินทราหู แล้วกล่าว
ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ บัดนี้ เป็นสมัยที่จะประชุมกัน ดังนี้แล้ว
เข้าไปยังป่าอันเป็นที่ประชุมของภิกษุ ฯ
ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=10&A=5540&Z=5726