ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ยูเนสโกหนุนใช้พุทธศาสนา ช่วยเสริมสร้าง 'สันติภาพโลก'  (อ่าน 3441 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ยูเนสโกหนุนใช้พุทธศาสนา ช่วยเสริมสร้าง 'สันติภาพโลก'


พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) เปิดเผยว่า จากการที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ร่วมจัดประชุมวิชาการเรื่อง "Contributions of Buddha's Teaching to Universality, Humanism and Peace"

เพื่อฉลองวาระครบรอบ 2,600 ปีการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาจุฬาฯ และตนได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวด้วย

ซึ่งในที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาจะช่วยให้สามารถเกิดสันติภาพขึ้นในโลกได้ จะเห็นได้จากประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ จะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องพระสงฆ์ทะเลาะกันถึงขั้นร้ายแรงทั้งในอดีตและปัจจุบัน


ส่วนเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา ที่ประชุมจึงเห็นว่าแนวทางของศาสนาพุทธนั้นสอดคล้องกับหลักการของยูเนสโกที่ต้องการให้เกิดสันติภาพ จึงมีการเสนอให้มีการดำเนินงานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากขึ้น

ขณะที่นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ขึ้นกล่าวปาฐกถาสนับสนุน และเห็นด้วยที่จะนำหลักศาสนาพุทธไปใช้พัฒนาคนไปสู่สันติภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายูเนสโกให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนา และเห็นว่าควรให้มีการนำหลักพระพุทธศาสนาไปสู่การปฏิบัติมากขึ้น

ทั้งนี้ ทางพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาจุฬาฯ ที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ในนามของคณะสงฆ์ไทย ก็รับข้อเสนอดังกล่าวเพื่อหาแนวทางส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยจะมีการหารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศเพื่อหารือแนวทางในการพัฒนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศต่อไป

ที่มา  http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNVEF5TURZMU5BPT0
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สัญลักษณ์ของยูเนสโก

องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (อังกฤษ: United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) เป็นทบวงการชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ ก่อตั้งโดยได้มีการลงนามในธรรมนูญขององค์การ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 และต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศสมาชิกก่อตั้ง 20 ประเทศ ได้ร่วมมือกันให้สัตยาบันธรรมนูญองค์การ ซึ่งเริ่มด้วยข้อความที่ว่า

    "สงครามเกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ ดังนั้นจึงต้องสร้างความหวงแหนสันติภาพ ให้เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ด้วย..."

นอกจากนี้ ธรรมนูญยูเนสโกยังบ่งชี้ไว้ด้วยว่า สันติภาพที่เกิดจากการตกลงทางการเมือง ทางเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ย่อมไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่แท้จริงและยืนนาน จากประเทศชาติต่างๆ ในโลก สันติภาพจะต้องวางรากฐานอยู่บนความร่วมมือทางภูมิปัญญา และจิตสำนึกของมนุษยชาติ.

ดังนั้นองค์การยูเนสโกจึงมุ่งเน้นการส่งเสริมสันติภาพ ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือของนานาชาติ ด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม เพื่อให้ทั่วโลกเคารพในความยุติธรรม กฎหมาย สิทธิ และเสรีภาพ ที่มนุษย์พึงมี โดยไม่ถือเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา ตามกฎบัตรสหประชาชาติ. ยูเนสโกมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ปัจจุบัน (มีนาคม พ.ศ. 2548) ยูเนสโกมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 191 ประเทศ ประเทศไทยเข้าเป็นรัฐสมาชิกขององค์การยูเนสโก เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2492 (ลำดับที่ 49)

โดยปกติ ยูเนสโกจะใช้ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาทางการ แต่ในระหว่างการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก และการประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก จะใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องถึง 6 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเชีย อาหรับ สเปน และจีน


การดำเนินงานของยูเนสโกนั้น จะปรากฏในรูปของการประชุมสมัยสามัญ ซึ่งมีทุกๆ 2 ปี โดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม จำนวน 58 คน ที่เลือกมาจากผู้แทนของประเทศสมาชิก กรรมการจะอยู่ในวาระ 4 ปี โดยจัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่ครึ่งหนึ่งทุก 2 ปี ผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สูงสุดขององค์การ จะอยู่ในวาระ 6 ปี

ยูเนสโก ได้จัดให้มีสำนักงานส่วนภูมิภาค และสำนักงานย่อยประจำพื้นที่ เพื่อให้ยูเนสโก ประสานงานกับประเทศต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด แต่ละประเทศสมาชิกจะจัดให้มีสำนักผู้แทนถาวรประจำยูเนสโก และสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโกของประเทศนั้นๆ เพื่อดำเนินงานในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับขอบข่ายงานของยูเนสโกโดยเฉพาะ



ประเทศไทยกับยูเนสโก


ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การยูเนสโกเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2492 นับเป็นประเทศสมาชิกลำดับที่ 49 และคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้ง คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (National Commission for UNESCO) เพื่อให้เป็นไปตามกฎบัตรของยูเนสโก โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน, ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธาน, และ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฝ่ายการต่างประเทศ) เป็นเลขาธิการ

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2492 ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อประสานงานกับยูเนสโก คือ สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ ตั้งอยู่ที่ สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

โดยมีหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานในระดับชาติของกิจกรรมที่อยู่ในขอบข่ายงานของยูเนสโก มี 6 ด้านได้แก่ การศึกษา วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ วัฒนธรรม การสื่อสารและสารสนเทศ ส่วนด้านสุดท้ายเป็นหัวข้อพิเศษ ซึ่งในทางปฏิบัติจะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อปฏิบัติงานเฉพาะด้าน ตามภารกิจและความชำนาญ


ในปี พ.ศ. 2504 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้องค์การยูเนสโกจัดตั้ง สำนักงานส่วนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ขึ้นที่ประเทศไทย โดยปัจจุบันอยู่ที่ “อาคาร ๑๐๐ ปี หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล (Mom Luang Pin Malakul Centenary Building)” อยู่ใกล้กับ สสวท. และท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ

ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ได้มีการจัดตั้ง สำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทย ประจำ ณ สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส โดยมีเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส เป็นผู้แทนถาวรไทยประจำยูเนสโก ส่วนกระทรวงศึกษาธิการได้จัดส่งนักวิชาการศึกษามาประจำที่สำนักงาน เพื่อทำหน้าที่รองผู้แทนถาวรไทยประจำยูเนสโก

แต่ในปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยได้ประสบภาวะเศรษฐกิจ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้เสนอปิดสำนักงานเป็นการชั่วคราว และรองผู้แทนถาวรไทยประจำยูเนสโก ได้เดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงเทพฯ โดยมีสำนักงานชั่วคราวที่กองการสัมพันธ์ต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ได้มอบหมายให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลงานของยูเนสโกแทน

ในฐานะประเทศสมาชิก ประเทศไทยได้ชำระเงินอุดหนุนองค์การเป็นประจำ โดยมีสัดส่วน ร้อยละ 0.335 โดยการตั้งงบประมาณไว้ที่กระทรวงศึกษาธิการ ในปีงบประมาณปี พ.ศ. 2545 ประเทศไทยได้ชำระค่าสมาชิกให้กับยูเนสโก เป็นจำนวน 35.18 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินอุดหนุนสำนักงานส่วนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ที่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ เงินอุดหนุนศูนย์ ICCROM ที่ประเทศอิตาลี และเงินอุดหนุนกองทุนมรดกโลก อีก 905,000 บาท

ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/องค์การการศึกษา_วิทยาศาสตร์_และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2011, 10:29:56 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

pornpimol

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 152
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าเป็นดังที่อ่าน ก็ถือว่า ดี นะคะ
ก็อนุโมทนาสาธุ กับข่าวสารนี้ด้วยคะ

 :25:
บันทึกการเข้า