พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
สังฆสูตร
อุปกิเลสอย่างหยาบ คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ของภิกษุผู้ประกอบอธิจิต ยังมีอยู่
ภิกษุผู้มีสัญชาติเป็นคนฉลาดย่อมละทิ้ง บรรเทาอุปกิเลสอย่างหยาบของใจตนนั้นเสีย ทำให้สิ้นไป ให้หมดไป เมื่อละมันได้เด็ดขาด ทำให้มันสิ้นไปแล้ว
ภิกษุผู้ประกอบอธิจิตยังคงมี อุปกิเลสอย่างกลาง คือ กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก
ภิกษุผู้มีสัญชาติเป็นคนฉลาด ย่อมละทิ้ง บรรเทาอุปกิเลสอย่างกลางของใจตนนั้นเสีย ทำให้สิ้นไป ให้หมดไป เมื่อละมันได้เด็ดขาด ทำให้มันสิ้นสุดแล้ว
ภิกษุผู้ประกอบอธิจิตยังคงมี อุปกิเลสอย่างละเอียด คือ ความวิตกถึงชาติ ความวิตกถึงชนบท และวิตกอันปฏิสังยุตด้วยความไม่ดูหมิ่น
ภิกษุผู้มีสัญชาติเป็นคนฉลาด ย่อมละทิ้ง บรรเทาอุปกิเลสอย่างละเอียดของใจตนนั้นเสียทำให้สิ้นไปให้หมดไป เมื่อละมันได้เด็ดขาด ทำมันให้สิ้นสุดไปแล้ว
ยังคงเหลือแต่ธรรมวิตก (วิปัสสนูปกิเลส) ต่อไปเท่านั้น
สมาธินั้นยังไม่ละเอียด ไม่ประณีตไม่ได้ความสงบระงับ ยังไม่ถึงความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น ยังมีการห้ามการข่มกิเลสด้วยธรรมเครื่องปรุงแต่งอ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๖๖๔๗ - ๖๗๓๒. หน้าที่ ๒๘๓ - ๒๘๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=6647&Z=6732&pagebreak=0ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=541ขอบคุณภาพจาก
http://www.rmutphysics.com
ข้อความด้านบนผมให้ชื่อสูตรไว้ผิด (สมุคคสูตร) ที่ถูกต้องคือ สังฆสูตร และิลิงค์ที่วางไว้ก็ผิด ผมได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้วครับ พร้อมยกข้อความที่สำคัญในสังฆสูตร มาแสดงบางส่วน
ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ 